เตือนควันบั้งไฟถึงขั้นมะเร็งเม็ดเลือด (ไทยโพสต์)
นพ.พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร กล่าวถึงอันตรายจากการเล่นบั้งไฟตามประเพณีของชาวอีสานว่า ปกติจะมีการจัดงานบุญบั้งไฟ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ที่ผ่านมา มีทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยในปี 2554 มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการถูกไฟลวกจำนวน 3 ราย สาเหตุมาจากความประมาทของตัวผู้จุดเอง
อย่างไรก็ตาม ทางสาธารณสุขจังหวัดยโสธรไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้จัดเตรียมทีมแพทย์ รถฉุกเฉิน หน่วยกู้ชีพ และการจัดเวรยาม ให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ภายในระยะเวลา 10 นาที รวมถึงได้จัดเตรียมระบบส่งต่อผู้ป่วยหนักไปยังโรงพยาบาลจังหวัดไว้ด้วย
นพ.พงษ์สวัสดิ์ สาธารณสุขจังหวัดยโสธร ยังกล่าวอีกว่า ได้ตรวจพบสารอันตรายที่เกิดจากกลุ่มควันของบั้งไฟ เพราะบั้งไฟมีส่วนผสมจากดินประสิว ถ่าน และพลาสติก เมื่อมีการเผาไหม้จะก่อให้เกิดสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ กรดกำมะถัน และสารไฮโรเจนคลอไรด์ เบื้องต้นจะทำให้มีอาการแสบตา ผิวหนังแสบร้อน รวมถึงส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น หลอดลมอักเสบ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ในระยะยาวอาจก่อให้เกิดโรคปอดและโรคมะเร็งในเม็ดเลือดได้
นอกจากนี้ การจุดบั้งไฟก่อให้เกิดเสียงดังเกินระดับ 80 เดซิเบล อาจส่งผลให้ประสาทหูอักเสบได้ แม้สถานที่การจัดงานจะเป็นสถานที่โล่งแจ้ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก แต่เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ ผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นควรสวมเสื้อผ้ามิดชิด ใช้ผ้าปิดจมูก อุปกรณ์ปิดหู และสวมแว่นตากันแดดด้วย แม้จะยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญเข้าไปเก็บตัวอย่างหาสารพิษที่เป็นอันตรายอย่างเป็นทางการ แต่จะต้องเร่งดำเนินการอย่างแน่นอน ตอนนี้ต้องช่วยกันรณรงค์ให้ชาวบ้านได้เห็นและตระหนักถึงการป้องกันโรคที่จะเกิดตามมาจากการเล่นบั้งไฟ