
ขึ้นชื่อว่าความเครียด ไม่ว่าจะเกิดจากหน้าที่การงาน หรือจากอะไรใด ๆ ก็ตามแต่ ล้วนแล้วแต่จะพาลให้ทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกายเสียตามไปด้วย และหากปล่อยให้เกิดความตึงเครียดทิ้งไว้ต่อไป เห็นทีจะมีแต่ปัญหาแน่ ๆ วันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีง่าย ๆ ในการลดความตึงเครียดของคุณลง จะมีวิธีการใดบ้าง ลองมาดูกัน

คุณลองสังเกตด้วยตัวของคุณเองได้เลยว่า เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มรู้สึกเครียดกับอะไรบางอย่างแล้วล่ะก็ ลักษณะการหายใจของคุณก็มักจะติด ๆ ขัด ๆ ดังนั้น เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มเครียด ขอให้หายใจเข้า - ออกลึก ๆ ช้า ๆ จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอนพบว่า การดื่มชาดำเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้คุณหายจากความตึงเครียดได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย

หากชีวิตของคุณช่างวุ่นวาย ยุ่งเหยิงซะเหลือเกิน ขอให้ลองจัดตารางชีวิตตัวเองซะใหม่ โดยอาจจะกำหนดการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวันให้มีความพอดีไม่ยุ่งหรือว่างจนเกินไป และให้มีช่วงเวลาเหลือไว้ให้คุณได้พักผ่อนด้วย

การมีทัศนคติในด้านลบต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่คุณต้องพบเจออยู่ตลอดเวลา ย่อมไม่เป็นผลดีแน่ ๆ ดังนั้น ขอให้คุณได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ แย่ ๆ กับสิ่งเหล่านั้นซะใหม่ อาทิเช่น หากคุณคิดว่างานนั้นยาก ทำไม่ได้ ก็ขอให้คิดซะใหม่ว่า งานนั้นถือเป็นสิ่งที่ท้าทาย ต้องลองสู้ดู ถึงจะรู้ผลว่ายากจริงหรือไม่

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พบว่า การใช้น้ำหอมกลิ่นกุหลาบ ทำให้ระบบการหายใจดีขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้ความดันโลหิตที่สูงลดลงได้ แถมยังก่อให้เกิดความรู้สึกที่ผ่อนคลายอีกด้วย

หากงานที่คุณทำมีความซ้ำซาก จำเจ หรือที่โต๊ะทำงานของคุณมีภูมิทัศน์ที่ไม่น่าดู ลองปรับเปลี่ยนดูใหม่ โดยอาจจะลองเปลี่ยน ย้ายที่นั่งให้ต่างไปจากเดิม ก็จะช่วยให้เกิดความรู้สึกแปลกใหม่ในการทำงานได้

งานก็หนัก เครียดก็เครียด แถมยังระบายให้ใครฟังก็ไม่ได้อีก วิธีที่ดีที่สุดก็คือการเขียนไดอารี่ เพราะการเขียนไดอารี่ นอกจากจะทำให้ได้รู้ว่าในแต่ละวันคุณทำ หรือเจอะเจอกับอะไรบ้างแล้วนั้น ไดอารี่ยังเป็นที่ระบายอารมณ์ได้ดีอีกด้วย เขียนไปเลย เต็มที่ ไม่ต้องยั้ง ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครรู้ เพราะมันเป็นไดอารี่ส่วนตัวของคุณ

เปลี่ยนหลอดไฟ ทำความสะอาดโต๊ะ ปรับความสว่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ หารูปมาวาง ฯลฯ เหล่านี้สามารถทำให้เกิดความรู้สึกแปลกใหม่กับการทำงานของคุณได้ แถมยังช่วยกระตุ้นไม่ให้เครียดกับการทำงานได้เป็นอย่างดีอีกต่างหาก
9. นั่งสมาธิ สวดมนต์
ธรรมะช่วยคุณได้ ลองฝึกนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ จะช่วยให้คุณรู้สึกสงบ มีสมาธิที่แน่วแน่ และอาจจะทำให้คุณหายจากความตึงเครียดไปได้โดยไม่รู้ตัว
10. หาหนังสือดี ๆ มาอ่านสักเล่ม-ดูหนังตลก
เลือกหานิยาย หรือหนังสือดี ๆ สักเล่มที่คุณชื่นชอบมาอ่านเพื่อบรรเทาความตึงเครียดที่เกิดขึ้นกับคุณ ปล่อยความคิดจิตใจให้โลดแล่นไปตามจินตนาการในโลกของหนังสือบ้างจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่หากคุณไม่ใช่หนอนหนังสือภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ ตลก ขำขัน หรือคลิปวีดีโอฮา ๆเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ทำให้คุณหายเครียดได้อย่างแน่นอนเพราะการที่คุณได้ยิ้ม ได้หัวเราะจะช่วยให้คุณเพลิดเพลินและไม่รู้สึกเครียด

ธรรมะช่วยคุณได้ ลองฝึกนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ จะช่วยให้คุณรู้สึกสงบ มีสมาธิที่แน่วแน่ และอาจจะทำให้คุณหายจากความตึงเครียดไปได้โดยไม่รู้ตัว

เลือกหานิยาย หรือหนังสือดี ๆ สักเล่มที่คุณชื่นชอบมาอ่านเพื่อบรรเทาความตึงเครียดที่เกิดขึ้นกับคุณ ปล่อยความคิดจิตใจให้โลดแล่นไปตามจินตนาการในโลกของหนังสือบ้างจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่หากคุณไม่ใช่หนอนหนังสือภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ ตลก ขำขัน หรือคลิปวีดีโอฮา ๆเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ทำให้คุณหายเครียดได้อย่างแน่นอนเพราะการที่คุณได้ยิ้ม ได้หัวเราะจะช่วยให้คุณเพลิดเพลินและไม่รู้สึกเครียด
จากวิธีทั้งหมดที่เราได้นำมาแนะให้คุณได้รู้นี้ หากว่าคุณนำไปลองใช้ดู เชื่อว่าความตึงเครียดที่คุณมีจะลดน้อยลงอย่างแน่นอน ยังไงซะก็อย่าไปยึดติด หรือเคร่งเครียดกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากจนเกินไปจะดีที่สุดเลย