แปรงสีฟันไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ราคาไม่เกิน 2,000 บาท

           แปรงสีฟันไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ราคาไม่เกิน 2,000 บาท มีข้อดี-ข้อเสียที่ต่างจากแปรงสีฟันธรรมดาอย่างไร พร้อมวิธีเลือกซื้อให้เหมาะกับตัวเอง
แปรงสีฟันไฟฟ้า

          แปรงสีฟันไฟฟ้า อีกหนึ่งไอเทมดูแลสุขภาพช่องปากและฟันที่อำนวยความสะดวกต่อการใช้งานโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องออกแรงแปรงด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากในท้องตลาดมีแปรงสีฟันไฟฟ้าให้เลือกหลายรุ่น หลายราคา วันนี้เราจึงคัดเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้า ราคาไม่เกิน 2,000 บาท มาให้คนที่มีงบประมาณจำกัดได้ลองพิจารณา พร้อมแนะนำวิธีเลือกซื้อและการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าอย่างถูกต้องให้ทราบกัน

แปรงสีฟันไฟฟ้า
ต่างกับแปรงสีฟันทั่วไปอย่างไร

แปรงสีฟันไฟฟ้าต่างจากแปรงสีฟัน

          แปรงสีฟันไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ทั้งแบบใส่ถ่านและชาร์จไฟ เพื่อให้เกิดแรงสั่นจากหัวแปรงไปขจัดคราบพลัค หินปูน และแบคทีเรีย ออกจากฟัน ผู้ใช้เพียงแค่ถือแปรงให้ได้องศาหรือหมุนข้อมือเพียงเล็กน้อยให้ตรงจุดที่ต้องการแปรง ทำให้ไม่เมื่อยหรือปวดข้อมือเหมือนแปรงสีฟันธรรมดา และยังสามารถซอกซอนในจุดที่เข้าไม่ถึง จึงทำความสะอาดได้ดีกว่า

          นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันที่น่าสนใจ เช่น ปรับโหมดการสั่นสะเทือนเพื่อกำจัดคราบหินปูน โหมดฟันขาว โหมดอ่อนโยนที่เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน อีกทั้งบางรุ่นสามารถตั้งเวลาการแปรงฟันได้ 2 นาที และสั่นเตือนทุก 30 วินาที ช่วยให้แปรงฟันในระยะเวลาที่เหมาะสม

แปรงสีฟันไฟฟ้า ดียังไง

แปรงสีฟันไฟฟ้า ดีอย่างไร

  • ช่วยให้แปรงฟันได้ทั่วถึงทุกมุมของช่องปาก 

  • ช่วยทำความสะอาดฟันได้ตามเวลามาตรฐานที่ทันตแพทย์แนะนำคือ 2 นาที จากเวลาที่ตั้งไว้  

  • มีประสิทธิภาพในการขจัดคราบพลัค หินปูน และแบคทีเรีย ตามซี่ฟันได้ดี

  • ไม่ต้องออกแรงข้อมือในการแปรงฟัน

  • มีส่วนช่วยดูแลสุขภาพเหงือก เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนของแปรงจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณเหงือก อีกทั้งอ่อนโยนต่อเหงือกเมื่อเทียบกับการใช้แปรงสีฟันทั่วไปที่ต้องออกแรงแปรงเอง ซึ่งมีโอกาสทำให้เหงือกบาดเจ็บได้มากกว่า

  • เหมาะกับคนจัดฟันที่ต้องการทำความสะอาดฟันอย่างทั่วถึง

  • เหมาะกับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาการออกแรงแขนหรือข้อมือเพื่อขยับแปรงสีฟัน

แปรงสีฟันไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี
ราคาไม่เกิน 2,000 บาท

1. แปรงสีฟันไฟฟ้า SYSTEMA SONIC

แปรงสีฟันไฟฟ้า SYSTEMA SONIC

ภาพจาก : lionshoponline.com

          แปรงสีฟันไฟฟ้า ซิสเท็มมา โซนิค มาพร้อมเทคโนโลยีสั่นเงียบ หรือโซนิค เวฟ (Sonic Wave) จากญี่ปุ่น มีแรงสั่นสะเทือน 9,000 รอบต่อนาที เน้นการขจัดคราบพลัคอย่างอ่อนโยน ขนแปรงปลายเรียวแหลมและอ่อนนุ่ม (Soft Slim) ด้ามแปรงผลิตจากวัสดุโพลิอะซีทัล (Polyacetal) มีน้ำหนักเบา คอแปรงเรียวยาว ด้ามจับถนัดมือ สามารถถอดเปลี่ยนหัวแปรงได้ ตัวหัวแปรงเป็นแบบสั่น ส่วนแบตเตอรี่ใช้เป็นแบบถ่านอัลคาไลน์ AAA สามารถถอดเปลี่ยนได้ 

  • ราคาปกติ : 650 บาท

2. แปรงสีฟันไฟฟ้าคอลเกต 360 โซนิค อ๊อพติค ไวท์

แปรงสีฟันไฟฟ้า colgate

ภาพจาก : colgate.com

          แปรงสีฟันไฟฟ้าคอลเกต ราคาไม่สูงมาก เหมาะสำหรับผู้ที่อยากทดลองใช้ มาพร้อมเทคโนโลยีโซนิค ความถี่หัวแปรง 24,000 รอบต่อนาที ทำความสะอาดได้รอบทิศทาง 360 องศา และรุ่นนี้มีระบบจับเวลา 2 นาที เพื่อระยะเวลาการแปรงที่เหมาะสม ด้ามแปรงดีไซน์บางจับถนัดมือ หัวแปรงถอดเปลี่ยนได้ โดยสามารถใช้ได้กับหัวแปรงไฟฟ้าคอลเกต 360 โซนิคทุกรุ่น ขนแปรงตัดตรงพร้อมยางทรงกลมช่วยขจัดคราบบนผิวฟัน ส่วนแบตเตอรี่ใช้เป็นแบบถ่านอัลคาไลน์ AAA

  • ราคาปกติ : 495 บาท

3. แปรงสีฟันไฟฟ้า usmile Y1S

แปรงสีฟันไฟฟ้า usmile Y1S

ภาพจาก : usmile Official Store

          แปรงสีฟันไฟฟ้าจากแบรนด์ usmile ที่โด่งดังในจีน รุ่นนี้มี 2 หัวแปรง ได้แก่ หัวแปรง Professional 3D แปรงตัดสามมิติ ทำความสะอาดล้ำลึก และหัวแปรง Pampering มีความนุ่มฟู สำหรับเหงือกที่บอบบาง ความถี่หัวแปรง 38,000 ครั้งต่อนาที ส่วนขนแปรงเป็นแบบ Dupont ปลายขนแปรงโค้งมนและอ่อนนุ่ม

          แปรงรุ่นนี้มี 3 โหมดให้เลือกใช้ คือ โหมดขจัดคราบหินปูน โหมดฟันขาวสดใส และโหมดแปรงฟันอ่อนโยนสำหรับผู้ทดลองใช้ครั้งแรกหรือผู้มีอาการเสียวฟัน ตัวเครื่องมีกำหนดเวลาใช้งาน 2 นาที ตามมาตรฐาน และมีการสั่นเตือนทุก 30 วินาที เพื่อเปลี่ยนโซนทำความสะอาด เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง จะใช้ได้นานประมาณ 6 เดือน 

  • ราคาประมาณ : 1,899 บาท

4. แปรงสีฟันไฟฟ้า Sparkle Sonic Triple Active รุ่น SK0373

แปรงสีฟันไฟฟ้า Sparkle Sonic

ภาพจาก : sparklethailand.com

          แปรงสีฟัน สปาร์คเคิล รุ่นทริปเปิล แอคทีฟ ใช้ระบบโซนิค สั่นด้วยคลื่นความถี่เสียง 40,000 รอบต่อนาที ปรับได้ 3 โหมดการทำงาน คือ โหมด White ดูแลฟันขาวเป็นเงา โหมด Sensitive ดูแลอย่างอ่อนโยน และโหมด Gum Care นวดดูแลเหงือก สามารถเปลี่ยนหัวแปรงได้

          ส่วนขนแปรงถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ มีความนุ่มและซอกซอนร่องฟันได้อย่างทั่วถึง ด้ามจับกันน้ำได้ที่ระดับ IPX7 ทนทานต่อระดับน้ำที่ความลึกสูงสุด 1 เมตร เป็นเวลา 30 นาที มีระบบแจ้งเตือนทุก 30 วินาที เพื่อเปลี่ยนบริเวณแปรงฟัน รุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟด้วยแท่นชาร์จ ระยะเวลาการชาร์จไฟ 10 ชั่วโมง ต่อการใช้งาน 90 วัน

  • ราคาประมาณ : 1,490 บาท

5. แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B BRAUN รุ่น Pro 500

แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B BRAUN Pro 500

ภาพจาก : P&G Official Shop

          ออรัลบี รุ่นโปร 500 เป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยี 3D หัวแปรงหมุนซ้าย-ขวาและขยับขึ้น-ลงได้ในเวลาเดียวกัน ความถี่หัวแปรง 20,000 ครั้งต่อนาที ส่วนขนแปรงเป็นแบบไขว้ทำมุม 16 องศา เพื่อการทำความสะอาดซอกฟันและร่องเหงือกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเปลี่ยนหัวแปรงได้และใช้หัวแปรงรุ่นใดของออรัลบีก็ได้ รุ่นนี้มีเพียงโหมดเดียว คือช่วยจับเวลาในการแปรงฟัน 2 นาที ทำให้แปรงฟันได้ตามเวลาที่ทันตแพทย์แนะนำ หลังจากชาร์จแบตเตอรี่เต็มจะใช้งานได้นาน 7 วัน

  • ราคาปกติ : 1,890 บาท

6. แปรงสีฟันไฟฟ้า Xiaomi Mijia T500

แปรงสีฟันไฟฟ้า Xiaomi Mijia T500

ภาพจาก : xiaomithaishop.com

          แปรงสีฟันไฟฟ้าจากแบรนด์เสียวหมี่ ใช้ระบบสั่นสะเทือนแบบ Acoustic Wave หรือคลื่นเสียง ความถี่หัวแปรง 31,000 ครั้งต่อนาที หัวแปรงมีลักษณะกลมเล็ก ขนแปรงมีความนุ่ม เอียง 10 องศา เพื่อซอกซอนได้อย่างทั่วถึง รุ่นนี้ปรับได้ 3 โหมด คือ โหมดมาตรฐาน โหมดอ่อนโยน และโหมดที่กำหนดเองผ่านแอปพลิเคชัน โดยตั้งเวลาทำงานผ่านแอปฯ ได้ครั้งละ 2-2.30 นาที พร้อมโหมดนวดเหงือกและทำความสะอาดลิ้น แบตเตอรี่เป็นแบบแท่นชาร์จไร้สาย ใช้เวลาชาร์จ 16 ชั่วโมง และใช้งานได้สูงสุด 18 วัน

  • ราคาปกติ : 1,490 บาท

7. แปรงสีฟันไฟฟ้า Philips Sonicare 1100 Series

แปรงสีฟันไฟฟ้า Philips Sonicare 1100 Series

ภาพจาก : philips.co.th

          แปรงสีฟันไฟฟ้า Philips มาพร้อมเทคโนโลยีคลื่นโซนิค มีระดับการสั่น 31,000 ครั้งต่อนาที ทำความสะอาดซอกฟันและร่องเหงือกได้อย่างทั่วถึง ด้ามจับรูปทรงเพรียวบาง น้ำหนักเบา ถือถนัดมือ มีโหมด Easy-Start เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้งาน ซึ่งจะค่อย ๆ เพิ่มพลังในการใช้แปรงไปเรื่อย ๆ ใน 14 ครั้งแรก ตัวเครื่องมีกำหนดเวลา 2 นาที ตามมาตรฐาน แบตเตอรี่ชาร์จเต็มใช้งานได้ 14 วัน

  • ราคาปกติ : 1,590 บาท

วิธีเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้า

แปรงสีฟันไฟฟ้า ดีไหม

  • เลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ได้รับรองตามมาตรฐาน

  • เลือกซื้อตามงบประมาณ เช่น ถ้างบประมาณจำกัดอาจเลือกราคาหลักร้อย แต่ฟังก์ชันที่มีก็อาจไม่มากเท่าแปรงสีฟันไฟฟ้าราคาหลักพัน   

  • เลือกรุ่นที่ปรับโหมดได้เหมาะกับสุขภาพฟัน เช่น คนเหงือกร่น คนมีปัญหาเสียวฟัน คนฟันเหลือง ควรเลือกแปรงสีฟันที่มีโหมดดูแลเหงือก หรือโหมดฟันขาว รวมทั้งปรับระดับการสั่นสะเทือนได้

  • เลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีระบบช่วยให้แปรงฟันอย่างถูกต้อง เช่น การตั้งเวลาแปรงฟัน 2 นาที มีระบบแจ้งเตือนทุก ๆ 30 วินาที หรือมีระบบตรวจจับเซ็นเซอร์หากกดแรงจนเกินไป

  • เลือกขนแปรงนุ่มและอ่อนโยนถ้าหากว่าเป็นโรคเหงือกหรือมีอาการเสียวฟัน

  • เลือกหัวแปรงที่มีขนาดเหมาะกับช่องปาก และพิจารณาจากการทำงานของหัวแปรงซึ่งมีอยู่หลายแบบ คือ

    • หัวแปรงแบบ 2D หรือ 3D คือปัดขึ้น-ลง หรือซ้าย-ขวา พร้อมกับหมุนไปด้วย  

    • หัวแปรงแบบโซนิค ใช้พลังคลื่นเสียงในการสั่นสะเทือน ทำให้เกิดการขยับ 20,000 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป

    • หัวแปรงแบบอัลตราโซนิค ใช้พลังคลื่นเสียงในการสั่นสะเทือนที่มากกว่าแบบโซนิค

  • เลือกซื้อตามความสะดวกต่อการใช้งาน เช่น เลือกรุ่นที่ใช้ถ่านถ้าต้องการพกพาไปนอกบ้าน หรือเลือกรุ่นที่ชาร์จไฟถ้าส่วนใหญ่ใช้ภายในบ้าน 

  • เลือกซื้อแปรงที่มีด้ามจับถนัดมือ ขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ทำจากวัสดุคุณภาพ ไม่เปราะหรือแตกง่าย

วิธีใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าที่ถูกต้อง

วิธีใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า

  • ควรถือแปรงทำมุม 45 องศาตามแนวฟัน และเริ่มแปรงจากฟันด้านนอกก่อน ขยับไปทีละซี่จนถึงฟันกราม และแปรงจากด้านหลังฟันกรามวนไปด้านใน ส่วนด้านในก็ขยับไปทีละซี่และแปรงจนถึงฟันกรามในสุด ปัดขนแปรงขึ้น-ลงสำหรับฟันด้านบน รวมถึงแปรงลิ้นด้วย

  • ไม่ควรออกแรงกดแปรงสีฟันมากไป เพียงแค่วางให้สัมผัสลงบนฟันและเหงือกเพื่อถนอมเหงือกและฟัน

  • ควรแปรงฟันให้ถูกหลักจนครบ 2 นาที ตามมาตรฐาน

  • ล้างทำความสะอาดหัวแปรงทุกครั้งหลังการใช้งาน 

  • ทุกครั้งหลังการใช้งานให้ใช้ผ้าที่อ่อนนุ่มเช็ดด้ามจับแปรงสีฟันไฟฟ้าให้แห้ง

  • เก็บเครื่องชาร์จให้ห่างจากน้ำหรือของเหลวอื่น ๆ และไม่ควรจุ่มด้ามจับหรือแท่นชาร์จลงไปในน้ำ 

  • ถ้าไม่ใช้เครื่องเป็นเวลานานให้ถอดปลั๊กและสายชาร์จออก และเก็บไว้ในที่แห้ง

ข้อเสียและข้อจำกัด
ของแปรงสีฟันไฟฟ้า

  • อาจเกิดปัญหาเหงือกร่น เคลือบฟันสึกได้ ถ้าออกแรงกดมากเกินไปในขณะแปรงฟัน

  • ราคาแพงกว่าแปรงสีฟันธรรมดา

  • มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากกว่าแปรงสีฟันธรรมดา  

  • การทำงานของเครื่องต้องใช้แบตเตอรี่หรือต้องคอยชาร์จไฟ

  • ต้องเปลี่ยนหัวแปรงทุก 3-6 เดือน และในบางยี่ห้อจำเป็นต้องซื้อรุ่นเดียวกัน

  • ถ้าใช้เป็นรุ่นมีสายชาร์จหรือแท่นชาร์จอาจไม่สะดวกต่อการพกพา

  • ต้องระมัดระวังในการหยิบจับ เพราะหากตกหล่นอาจแตกหักเสียหายได้
           แปรงสีฟันไฟฟ้าแต่ละแบบก็มีฟังก์ชันและราคาต่างกันไป ดังนั้น ถ้าต้องการใช้งานควรเลือกซื้อเพื่อให้ตอบโจทย์ของตัวเองกันนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพปากและฟัน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แปรงสีฟันไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ราคาไม่เกิน 2,000 บาท อัปเดตล่าสุด 6 มีนาคม 2567 เวลา 11:59:31 25,418 อ่าน
TOP
x close