ตกขาวมีเลือดปนนิด ๆ เป็นหนึ่งในสีตกขาว ที่พบได้บ่อยจากหลายปัจจัย ซึ่งบางสาเหตุอาจไม่ร้ายแรง แต่บางสาเหตุก็อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายได้
ตกขาวปนเลือดมานิด ๆ ถ้าไม่สังเกตก็อาจปล่อยผ่านไปได้ ทว่าหากใครสังเกตเห็นแล้วและรู้สึกว่าตกใจ ว่านี่คืออาการตั้งครรภ์ หรือเป็นสัญญาณอันตรายที่เกิดในระบบสืบพันธุ์ไหม มาเช็กให้แน่ใจก่อนดีกว่าว่าตกขาวมีเลือดปน เกิดจากอะไรได้บ้าง
อาการตกขาวปนเลือด สัญญาณนี้บอกเป็นนัย ๆ ว่าตั้งครรภ์ได้เหมือนกันค่ะ แต่นอกจากตกขาวมีเลือดแล้วก็ต้องมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ประจำเดือนขาด คลื่นไส้ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย คัดเต้านม ปัสสาวะบ่อย เป็นต้น
ตกขาวมีเลือดปนนิด ๆ
จากสาเหตุที่ไม่ใช่โรค
ตกขาวมีเลือดปน อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพได้หลายอย่างทั้งที่ร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ลองมาดูจากสาเหตุที่ไม่เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บกันก่อน
1. ช่วงตกไข่ก่อนมีประจำเดือน
ช่วงตกไข่ และก่อนมีรอบเดือน จะเป็นช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน จึงอาจพบว่ามีเลือดออกกะปริบกะปรอยปนมากับตกขาวได้ ซึ่งบางคนอาจรู้สึกปวดท้องน้อยแบบตุบ ๆ หรือร่างกายอาจมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยหลังจากไข่ตกร่วมด้วย
2. ช่วงมีประจำเดือนหรือเพิ่งหมดประจำเดือน
ฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) คือตัวต้นเรื่องของตกขาวปนเลือดในช่วงมีประจำเดือนหรือเพิ่งหมดประจำเดือนได้เหมือนกัน โดยเฉพาะหลังหมดประจำเดือน ตกขาวที่ออกมามักผสมกับเลือดประจำเดือนที่ตกค้างในช่องคลอด ทำให้มีสีคล้ำหรือปนเลือด
3. ภาวะประจำเดือนมาน้อย
เมื่อมีภาวะเครียด ภาวะอ้วน หรือขาดการพักผ่อนติดกันหลาย ๆ วัน ปัจจัยเหล่านี้ก็ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนจนเป็นสาเหตุให้ประจำเดือนมาน้อยได้ และมักจะมีเลือดประจำเดือนเป็นสีชมพูหรือน้ำตาลแทนที่จะเป็นสีแดงเข้มตามปกติ ซึ่งอาจเข้าใจผิดว่าเป็นตกขาวปนเลือดนั่นเอง
4. การตั้งครรภ์
โดยเฉพาะในช่วงระยะแรก ๆ อาจพบว่ามีเลือดออกเล็กน้อยจากการมีตัวอ่อนฝังตัวที่ผนังมดลูก
5. การใช้ยาคุมกำเนิดบางชนิด
ไม่ว่าจะเป็นยาเม็ดคุมกำเนิด ฝังยาคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิด หรือห่วงคุมกำเนิด ก็อาจส่งผลให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอยปนมากับตกขาวได้ รวมถึงในช่วงที่เพิ่งเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดแบบฮอร์โมน ซึ่งทำให้ฮอร์โมนในช่วงนั้นไม่สมดุล
6. เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบสืบพันธุ์ได้เช่นกัน และหากพบว่ามีตกขาวปนเลือด หรือมีเลือดออกจากช่องคลอดในช่วงเวลานี้ ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณบอกโรคได้
ตกขาวปนเลือด
ที่เป็นสัญญาณบอกโรค
1. การติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์
เช่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา อาจทำให้เกิดการอักเสบในช่องคลอดและปากมดลูก ส่งผลให้มีเลือดปนมากับตกขาวได้ ร่วมกับอาการคันในช่องคลอดหรือปากช่องคลอด
2. ช่องคลอดอักเสบ
เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยาก หรือการสัมผัสกับเชื้อโรคในสถานที่สกปรก เช่น การใช้ห้องน้ำสาธารณะที่ขาดสุขอนามัย รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงเกินไป เป็นต้น
3. ภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก
หนึ่งในสัญญาณแรก ๆ ของการตั้งครรภ์นอกมดลูก ที่อาจเข้าใจผิดว่าเป็นตกขาวปนเลือด ทั้งที่ภาวะนี้่จัดเป็นเลือดออกจากช่องคลอดที่ผิดปกติ โดยมักจะมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ ท้องอืด เจ็บจี๊ด ๆ บริเวณท้องน้อยร่วมด้วย
4. ภาวะแท้ง
การสูญเสียการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นก่อนสัปดาห์ที่ 20 ของการตั้งครรภ์ อาจสังเกตเห็นเมือกออกสีน้ำตาลปนสีชมพูที่คล้าย ๆ ตกขาวปนเลือดได้
5. ถุงน้ำรังไข่หลายใบ
ถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือ PCOS เป็นภาวะที่ระดับฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้น ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล ส่งผลให้เยื่อบุมดลูกหลุดลอกออกมาไม่สม่ำเสมอ จึงมีเลือดออกกะปริบกะปรอย รวมถึงตกขาวปนเลือดและประจำเดือนผิดปกติไป อาจมาน้อยมาก มามาก หรือหายไปทีละหลาย ๆ เดือน ร่วมกับอาการหน้ามัน ขนดก น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เป็นต้น
6. ซีสต์ในรังไข่
ซีสต์ในรังไข่มักเกิดขึ้นจากกระบวนการตกไข่ หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งซีสต์เหล่านี้ก็จะหายไปได้เองกับเลือดประจำเดือนที่ออกมา โดยในบางคนที่มีซีสต์ในรังไข่อาจไม่พบอาการผิดปกติอะไรเลย แต่ในบางคนอาจพบอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ มาน้อยมาก ๆ หรือมีเลือดออกระหว่างรอบเดือนได้
7. ไทรอยด์
ไทรอยด์เป็นส่วนที่ผลิตฮอร์โมนควบคุมการทำงานของร่างกายหลายระบบ รวมถึงระบบสืบพันธุ์ เมื่อทำงานผิดปกติย่อมส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งมีผลต่อการตกไข่และการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้ประจำเดือนมาน้อยมากจนเหมือนตกขาวปนเลือด หรือประจำเดือนขาดหายไป และมีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน รวมทั้งยังอาจเจอภาวะอ่อนเพลีย น้ำหนักเพิ่มขึ้น ขี้หนาวหรือเหงื่อออกง่าย และปวดกล้ามเนื้อร่วมด้วย
8. ไวรัส HPV
การติดเชื้อไวรัส HPV อาจทำให้มีอาการเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติได้เหมือนกัน โดยเลือดที่ออกอาจจะมีปริมาณน้อย มานอกช่วงประจำเดือน หรือพบเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้
9. สัญญาณโรคมะเร็ง
อาการเริ่มต้นที่พบบ่อยของโรคมะเร็งสตรีหลายชนิด เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งมดลูก มะเร็งโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก มักมีเลือดออกกะปริบกะปรอยทางช่องคลอด ซึ่งอาจเกิดขึ้นนอกรอบเดือนก็ได้ นอกจากนี้ยังต้องมีอาการอื่น ๆ เช่น ท้องอืด รู้สึกอิ่มเร็ว ปวดท้องน้อย ปวดท้องรุนแรง ปัสสาวะแสบขัด หรือประจำเดือนมาไม่ปกติร่วมด้วย
ตกขาวปนเลือด
สัญญาณไหนควรพบแพทย์
หากคุณมีอาการตกขาวมีเลือดปนร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น
-
ปวดท้องน้อย
-
ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
-
มีไข้
-
มีตกขาวผิดปกติ เช่น มีสีเหลืองเขียว มีฟอง หรือมีลักษณะเป็นลิ่มเลือด เป็นก้อน
-
มีอาการคันหรือแสบร้อนบริเวณอวัยวะเพศ
-
เลือดออกช่องคลอดผิดปกติ ที่ไม่ใช่ช่วงเวลาของการมีรอบเดือน โดยเฉพาะหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือในวัยหมดประจำเดือน
แม้อาการตกขาวปนเลือดจะมีทั้งแบบไม่ใช่โรคและเสี่ยงจะเกิดจากโรค แต่อย่างไรก็ดี หากพบอาการผิดปกติใด ๆ ก็ควรเอะใจและไปตรวจสุขภาพกับแพทย์เพื่อเช็กคร่าว ๆ ว่าสุขภาพเรายังปลอดภัยดีหรือไม่ เพราะถ้ารู้โรคภัยตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็เพิ่มโอกาสในการรักษาได้มากขึ้นนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้องกับอาการตกขาว