ตกขาวมีเลือดปนนิด ๆ เกิดจากอะไร ท้องไหม เสี่ยงโรคร้ายอะไรหรือเปล่า

           ตกขาวมีเลือดปนนิด ๆ เป็นหนึ่งในสีตกขาว ที่พบได้บ่อยจากหลายปัจจัย ซึ่งบางสาเหตุอาจไม่ร้ายแรง แต่บางสาเหตุก็อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายได้
ตกขาวมีเลือดปนนิด ๆ เกิดจากอะไร ท้องไหม เสี่ยงโรคร้ายอะไรหรือเปล่า

           ตกขาวปนเลือดมานิด ๆ ถ้าไม่สังเกตก็อาจปล่อยผ่านไปได้ ทว่าหากใครสังเกตเห็นแล้วและรู้สึกว่าตกใจ ว่านี่คืออาการตั้งครรภ์ หรือเป็นสัญญาณอันตรายที่เกิดในระบบสืบพันธุ์ไหม มาเช็กให้แน่ใจก่อนดีกว่าว่าตกขาวมีเลือดปน เกิดจากอะไรได้บ้าง

ตกขาวปนเลือด ท้องไหม

           อาการตกขาวปนเลือด สัญญาณนี้บอกเป็นนัย ๆ ว่าตั้งครรภ์ได้เหมือนกันค่ะ แต่นอกจากตกขาวมีเลือดแล้วก็ต้องมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ประจำเดือนขาด คลื่นไส้ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย คัดเต้านม ปัสสาวะบ่อย เป็นต้น

ตกขาวมีเลือดปนนิด ๆ
จากสาเหตุที่ไม่ใช่โรค

ตกขาวมีเลือดปนนิด ๆ เกิดจากอะไร ท้องไหม เสี่ยงโรคร้ายอะไรหรือเปล่า

           ตกขาวมีเลือดปน อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพได้หลายอย่างทั้งที่ร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ลองมาดูจากสาเหตุที่ไม่เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บกันก่อน

1. ช่วงตกไข่ก่อนมีประจำเดือน

           ช่วงตกไข่ และก่อนมีรอบเดือน จะเป็นช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน จึงอาจพบว่ามีเลือดออกกะปริบกะปรอยปนมากับตกขาวได้ ซึ่งบางคนอาจรู้สึกปวดท้องน้อยแบบตุบ ๆ หรือร่างกายอาจมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยหลังจากไข่ตกร่วมด้วย

2. ช่วงมีประจำเดือนหรือเพิ่งหมดประจำเดือน

          ฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) คือตัวต้นเรื่องของตกขาวปนเลือดในช่วงมีประจำเดือนหรือเพิ่งหมดประจำเดือนได้เหมือนกัน โดยเฉพาะหลังหมดประจำเดือน ตกขาวที่ออกมามักผสมกับเลือดประจำเดือนที่ตกค้างในช่องคลอด ทำให้มีสีคล้ำหรือปนเลือด

3. ภาวะประจำเดือนมาน้อย

           เมื่อมีภาวะเครียด ภาวะอ้วน หรือขาดการพักผ่อนติดกันหลาย ๆ วัน ปัจจัยเหล่านี้ก็ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนจนเป็นสาเหตุให้ประจำเดือนมาน้อยได้ และมักจะมีเลือดประจำเดือนเป็นสีชมพูหรือน้ำตาลแทนที่จะเป็นสีแดงเข้มตามปกติ ซึ่งอาจเข้าใจผิดว่าเป็นตกขาวปนเลือดนั่นเอง

4. การตั้งครรภ์

           โดยเฉพาะในช่วงระยะแรก ๆ อาจพบว่ามีเลือดออกเล็กน้อยจากการมีตัวอ่อนฝังตัวที่ผนังมดลูก

5. การใช้ยาคุมกำเนิดบางชนิด

           ไม่ว่าจะเป็นยาเม็ดคุมกำเนิด ฝังยาคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิด หรือห่วงคุมกำเนิด ก็อาจส่งผลให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอยปนมากับตกขาวได้ รวมถึงในช่วงที่เพิ่งเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดแบบฮอร์โมน ซึ่งทำให้ฮอร์โมนในช่วงนั้นไม่สมดุล

6. เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน

           เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบสืบพันธุ์ได้เช่นกัน และหากพบว่ามีตกขาวปนเลือด หรือมีเลือดออกจากช่องคลอดในช่วงเวลานี้ ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณบอกโรคได้

ตกขาวปนเลือด
ที่เป็นสัญญาณบอกโรค

ตกขาวมีเลือดปนนิด ๆ เกิดจากอะไร ท้องไหม เสี่ยงโรคร้ายอะไรหรือเปล่า

1. การติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์

         เช่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา อาจทำให้เกิดการอักเสบในช่องคลอดและปากมดลูก ส่งผลให้มีเลือดปนมากับตกขาวได้ ร่วมกับอาการคันในช่องคลอดหรือปากช่องคลอด

2. ช่องคลอดอักเสบ

           เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยาก หรือการสัมผัสกับเชื้อโรคในสถานที่สกปรก เช่น การใช้ห้องน้ำสาธารณะที่ขาดสุขอนามัย รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงเกินไป เป็นต้น

3. ภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก

           หนึ่งในสัญญาณแรก ๆ ของการตั้งครรภ์นอกมดลูก ที่อาจเข้าใจผิดว่าเป็นตกขาวปนเลือด ทั้งที่ภาวะนี้่จัดเป็นเลือดออกจากช่องคลอดที่ผิดปกติ โดยมักจะมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ ท้องอืด เจ็บจี๊ด ๆ บริเวณท้องน้อยร่วมด้วย

4. ภาวะแท้ง

          การสูญเสียการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นก่อนสัปดาห์ที่ 20 ของการตั้งครรภ์ อาจสังเกตเห็นเมือกออกสีน้ำตาลปนสีชมพูที่คล้าย ๆ ตกขาวปนเลือดได้

5. ถุงน้ำรังไข่หลายใบ

           ถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือ PCOS เป็นภาวะที่ระดับฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้น ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล ส่งผลให้เยื่อบุมดลูกหลุดลอกออกมาไม่สม่ำเสมอ จึงมีเลือดออกกะปริบกะปรอย รวมถึงตกขาวปนเลือดและประจำเดือนผิดปกติไป อาจมาน้อยมาก มามาก หรือหายไปทีละหลาย ๆ เดือน ร่วมกับอาการหน้ามัน ขนดก น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เป็นต้น

6. ซีสต์ในรังไข่

           ซีสต์ในรังไข่มักเกิดขึ้นจากกระบวนการตกไข่ หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งซีสต์เหล่านี้ก็จะหายไปได้เองกับเลือดประจำเดือนที่ออกมา โดยในบางคนที่มีซีสต์ในรังไข่อาจไม่พบอาการผิดปกติอะไรเลย แต่ในบางคนอาจพบอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ มาน้อยมาก ๆ หรือมีเลือดออกระหว่างรอบเดือนได้

7. ไทรอยด์

           ไทรอยด์เป็นส่วนที่ผลิตฮอร์โมนควบคุมการทำงานของร่างกายหลายระบบ รวมถึงระบบสืบพันธุ์ เมื่อทำงานผิดปกติย่อมส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งมีผลต่อการตกไข่และการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้ประจำเดือนมาน้อยมากจนเหมือนตกขาวปนเลือด หรือประจำเดือนขาดหายไป และมีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน รวมทั้งยังอาจเจอภาวะอ่อนเพลีย น้ำหนักเพิ่มขึ้น ขี้หนาวหรือเหงื่อออกง่าย และปวดกล้ามเนื้อร่วมด้วย

8. ไวรัส HPV

           การติดเชื้อไวรัส HPV อาจทำให้มีอาการเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติได้เหมือนกัน โดยเลือดที่ออกอาจจะมีปริมาณน้อย มานอกช่วงประจำเดือน หรือพบเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้

9. สัญญาณโรคมะเร็ง

           อาการเริ่มต้นที่พบบ่อยของโรคมะเร็งสตรีหลายชนิด เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งมดลูก มะเร็งโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก มักมีเลือดออกกะปริบกะปรอยทางช่องคลอด ซึ่งอาจเกิดขึ้นนอกรอบเดือนก็ได้ นอกจากนี้ยังต้องมีอาการอื่น ๆ เช่น ท้องอืด รู้สึกอิ่มเร็ว ปวดท้องน้อย ปวดท้องรุนแรง ปัสสาวะแสบขัด หรือประจำเดือนมาไม่ปกติร่วมด้วย

ตกขาวปนเลือด
สัญญาณไหนควรพบแพทย์

ตกขาวมีเลือดปนนิด ๆ เกิดจากอะไร ท้องไหม เสี่ยงโรคร้ายอะไรหรือเปล่า

           หากคุณมีอาการตกขาวมีเลือดปนร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น

  • ปวดท้องน้อย

  • ตกขาวมีกลิ่นเหม็น

  • มีไข้

  • มีตกขาวผิดปกติ เช่น มีสีเหลืองเขียว มีฟอง หรือมีลักษณะเป็นลิ่มเลือด เป็นก้อน

  • มีอาการคันหรือแสบร้อนบริเวณอวัยวะเพศ

  • เลือดออกช่องคลอดผิดปกติ ที่ไม่ใช่ช่วงเวลาของการมีรอบเดือน โดยเฉพาะหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือในวัยหมดประจำเดือน

           แม้อาการตกขาวปนเลือดจะมีทั้งแบบไม่ใช่โรคและเสี่ยงจะเกิดจากโรค แต่อย่างไรก็ดี หากพบอาการผิดปกติใด ๆ ก็ควรเอะใจและไปตรวจสุขภาพกับแพทย์เพื่อเช็กคร่าว ๆ ว่าสุขภาพเรายังปลอดภัยดีหรือไม่ เพราะถ้ารู้โรคภัยตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็เพิ่มโอกาสในการรักษาได้มากขึ้นนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้องกับอาการตกขาว

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตกขาวมีเลือดปนนิด ๆ เกิดจากอะไร ท้องไหม เสี่ยงโรคร้ายอะไรหรือเปล่า อัปเดตล่าสุด 27 กันยายน 2567 เวลา 14:15:33 6,922 อ่าน
TOP
x close