ยาทาแก้คัน ครีมทาแก้ผื่นคันผิวหนัง ยี่ห้อไหนดี เลือกให้ปลอดภัย ใช้ได้ตรงจุด

           ยาทาแก้คัน หรือ ครีมทาแก้คันผิวหนัง มีอยู่หลายชนิด แล้วอาการคันที่เราเป็นอยู่ ไม่ว่าจะถูกยุงกัด มดกัด เป็นลมพิษ ภูมิแพ้ ผิวหนังอักเสบ ควรเลือกใช้ยาทาแก้คันผิวหนัง แบบไหนดีนะ ?
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

           คันผิวหนัง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และมักสร้างความรำคาญใจสุด ๆ จนต้องเผลอเกาไปเสียทุกครั้ง แต่การเกาซ้ำ ๆ หรือเกาอย่างรุนแรงกลับยิ่งทำให้เป็นแผล มีเลือดออก หรือถ้ามือไม่สะอาดก็ถึงขั้นติดเชื้อ ซ้ำเติมปัญหาสุขภาพ ได้อีกต่างหาก ดังนั้น การเลือกใช้ยาทาแก้คันที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อบรรเทาอาการ แต่เราจะเลือกซื้อครีมทาแก้คันอย่างไรดี ตามมาอ่านคำแนะนำด้านล่างกัน

คันผิวหนัง เกิดจากอะไรได้บ้าง

สาเหตุของอาการคันผิวหนัง

          ก่อนอื่นมาเรียนรู้ถึงสาเหตุของอาการคันผิวหนังว่าเกิดได้จากอะไรบ้าง ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายนอกและภายในร่างกาย เช่น

  • โรคผิวหนัง : เช่น ผิวแห้งจากสภาพอากาศ, ผิวแห้งเมื่ออายุมากขึ้น, ผื่นผิวหนังอักเสบ, ลมพิษ, ยุงกัด, แมลงกัดต่อย, ติดเชื้อรา เช่น กลาก เกลื้อน รวมถึงโรคสะเก็ดเงิน งูสวัด เป็นต้น

  • ปฏิกิริยาแพ้ : เช่น แพ้ยา แพ้อาหาร แพ้สารเคมี หรือบางคนก็แพ้ละอองเกสร แพ้ขนสัตว์ หรือสัมผัสสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ทำให้มีอาการคันและผื่นภูมิแพ้ผิวหนังขึ้นตามลำตัว

  • โรคประจำตัวอื่น ๆ : มีอยู่หลายโรคที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการคันร่วมด้วย เช่น โรคพยาธิเข็มหมุด โรคไต โรคตับ โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ หรือโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

  • การรับประทานยา : ยาบางชนิดมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการคันได้ เช่น ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ

  • ความผิดปกติทางอารมณ์ : เช่น มีอาการเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า โรคย้ำคิดย้ำทำ

  • การตั้งครรภ์ : เป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง และผิวหนังบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายจะยืดขยายออกเมื่อครรภ์มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ผิวแห้ง คัน เกิดความระคายเคืองมากขึ้น 

          หากมีอาการคันไม่มากก็สามารถใช้วิธีประคบเย็น ทาครีมบำรุงผิว หรือใช้ยาทาแก้คันหรือครีมทาแก้คัน เพื่อบรรเทาอาการเบื้องต้นได้

ยาทาแก้คันมีกี่แบบ

           ยาทาแก้คัน ครีมทาแก้คันผิวหนัง มีอยู่หลายชนิดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของอาการที่เป็น เช่น

1. ยาทาแก้คันในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids)

           เป็นยาสเตียรอยด์ที่ใช้รักษาโรคผิวหนังอย่างแพร่หลาย เช่น ไฮโดรคอร์ติโซน ไตรแอมซิโนโลน เบต้าเมทาโซน ฯลฯ มีฤทธิ์ลดการอักเสบและลดอาการคัน จึงช่วยบรรเทาอาการคัน แดง บวม ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ลมพิษ เซ็บเดิร์ม โรคสะเก็ดเงิน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ควรใช้ยาภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร เนื่องจากมีความแรงหลายระดับ และสิ่งสำคัญก็คือไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหนังบางลง มีรอยแตกลาย หรือผิวหนังเปลี่ยนสี

2. ยาทาแก้คันที่ไม่มีสเตียรอยด์ (Calcineurin Inhibitors)

           ยาทาแก้คันชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มต้านแคลซินูริน (Calcineurin Inhibitors) เช่น พิเมโครลิมัส และทาโครลิมัส ใช้รักษาโรคผิวหนังอักเสบอย่างผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ตุ่มคันเรื้อรัง ด้วยการเข้าไปยับยั้งการทำงานของแคลซินูริน กดภูมิคุ้มกันและลดการหลั่งสารสื่ออักเสบต่าง ๆ ทำให้การอักเสบของผิวหนังลดลง ช่วยลดอาการคันได้ และไม่ทำให้ผิวหนังบางลงเหมือนยาทาสเตียรอยด์ แต่ไม่เหมาะกับคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

3. ยาทาแก้คันแบบยับยั้งฮิสตามีน (Antihistamine)

           เป็นยาที่ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการทำงานของฮิสตามีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาอาการแพ้ต่าง ๆ ตามมา เมื่อใช้แล้วจะช่วยลดอาการคันและผื่นต่าง ๆ ทั้งผื่นภูมิแพ้ กลาก ลมพิษเรื้อรัง แมลงกัดต่อย แต่ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจเกิดผลข้างเคียง

4. ยาทาแก้คันในร่มผ้า

          คันในร่มผ้า มักมีสาเหตุมาจากความอับชื้น ติดเชื้อรา การระคายเคือง หรือแพ้สารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด รักษาได้ด้วยยาต้านเชื้อรา เช่น โคลไตรมาโซล คีโตโคนาโซล ไมโคนาโซล ซึ่งมีทั้งรูปแบบยาทาเชื้อราและโลชั่น

5. ยาคาลาไมน์ (Calamine lotion)

           เป็นยาทาภายนอกชนิดยาน้ำแขวนตะกอนที่มีส่วนประกอบของซิงค์ออกไซด์ (Zinc oxide) ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยลดการระคายเคืองและปกป้องผิวหนัง นิยมใช้บรรเทาอาการคันและระคายเคืองผิวหนังที่ไม่รุนแรง เช่น ผื่นคัน ลมพิษ แมลงสัตว์กัดต่อย ผื่นแพ้สัมผัสจากพืช ผิวไหม้แดดที่ไม่รุนแรง มีความปลอดภัยสูง ไม่ค่อยพบผลข้างเคียง จึงหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ ราคาก็ไม่แพงด้วย

6. ยาทาแก้คันที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น (Moisturizing)

           ยาทาแก้คันชนิดนี้มักมีส่วนผสมของเซราไมด์ กลีเซอรีน วิตามินบี 5 ซึ่งมีส่วนช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวที่แห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ทำให้เกิดอาการคัน เหมาะกับคนผิวแห้งมาก ๆ เช่น ผู้สูงอายุ คนที่มีผิวแพ้ง่าย หรือคนที่มีอาการคันในช่วงอากาศแห้งและเย็น โดยทั่วไปมักปราศจากสเตียรอยด์ ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์

7. ยาทาแก้คันแบบเย็น

           คือยาทาแก้คันที่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้ผิวเย็น เช่น เมนทอลหรือการบูร เมื่อทาผิวหนังสามารถลดอาการคันได้ชั่วคราว เหมาะกับอาการคันที่ไม่รุนแรง เช่น อาการคันจากแมลงสัตว์กัดต่อย ถือเป็นยาทาแก้คันที่มีความปลอดภัย

วิธีเลือกซื้อยาทาแก้คันผิวหนัง

ครีมทาแก้คันผิวหนังอักเสบ

          คราวนี้มาดูกันว่าเราควรพิจารณาเรื่องไหนบ้างก่อนซื้อครีมทาแก้ผื่นคันมาใช้

  • พิจารณาจากสาเหตุและลักษณะของผิวหนังที่มีอาการคัน เช่น

    • คันจากผิวแห้ง : ควรเลือกยาทาที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ เช่น เซราไมด์ ยูเรีย กลีเซอรีน หรือปิโตรเลียมเจล เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง

    • คันจากแมลงกัดต่อย : ควรเลือกยาทาที่มีส่วนผสมของคาลาไมน์ เมนทอล การบูร หรือสมุนไพรที่ช่วยลดอาการคันและระคายเคือง

    • คันจากผื่นแพ้สัมผัส : ควรเลือกยาทาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ชนิดอ่อน เพื่อลดการอักเสบและอาการคัน หรือยาทาที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ

    • คันจากโรคผิวหนังอักเสบ : ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อเลือกยาทาแก้คันผิวหนังอักเสบที่เหมาะสมกับโรคและอาการ  

  • พิจารณาส่วนผสมของตัวยาหรือตัวครีม ซึ่งมีฤทธิ์แตกต่างกัน เช่น

    • ครีมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ : มีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบและอาการคันได้ดี แต่หากใช้ติดต่อกันนาน ๆ อาจเกิดผลข้างเคียง จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา

    • ครีมที่มีส่วนผสมของสมุนไพร : นิยมใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ลดอาการคัน ส่วนใหญ่ไม่มีสเตียรอยด์ จึงค่อนข้างปลอดภัย 

    • ครีมที่มีส่วนผสมของเมนทอล : ทาแล้วจะรู้สึกเย็นสบาย ช่วยลดอาการคัน

    • ครีมที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ กลีเซอรีน : เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งมาก ๆ เพราะส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้นขึ้น ใช้ได้ทั้งเด็กเล็กจนถึงผู้สูงอายุ

    • คาลาไมน์ : เป็นโลชั่นที่ช่วยลดอาการคันและระคายเคืองจากแมลงกัดต่อย หรือผื่นแพ้สัมผัส โดยทั่วไปมีความปลอดภัยสูง

  • เลือกจากรูปแบบของตัวยา ซึ่งมีทั้งแบบครีม เจล และยาน้ำโลชั่น

    • ครีมทาแก้คัน : เหมาะสำหรับผิวแห้ง เพราะเนื้อครีมจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง และเหมาะกับการใช้ทาผิวหนังบริเวณไม่กว้างมาก 

    • เจลทาแก้คัน : เนื้อเจลซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับคนที่มีผิวมัน หรือใช้ในบริเวณที่มีขนขึ้นเยอะ เช่น หนังศีรษะ

    • โลชั่นแก้คัน : มาในรูปของยาน้ำหรือโลชั่น เหมาะสำหรับทาผิวหนังบริเวณกว้าง ๆ เพราะเนื้อโลชั่นเหลว ทาได้ง่าย ใช้ได้ทุกสภาพผิว

  • หากเป็นคนที่ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง ควรเลือกยาทาที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม สารกันเสีย หรือแอลกอฮอล์ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพ้

  • กรณีต้องการใช้กับเด็กควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าใช้สำหรับเด็กได้

  • เลือกซื้อยาหรือครีมแก้คันในขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะหากซื้อหลอดใหญ่หรือกระปุกใหญ่เกินไป อาจหมดอายุก่อนจะใช้หมด ซึ่งถ้าเผลอนำยาที่เสื่อมสภาพแล้วมาใช้อาจเป็นอันตรายต่อผิวได้

  • อ่านฉลาก ข้อควรระวัง และตรวจสอบส่วนผสมของยาทาแก้คัน เพื่อหลีกเลี่ยงสารหรือสมุนไพรที่ตัวเองมีอาการแพ้

  • ยาทาแก้คันหรือครีมแก้คันที่วางขายในท้องตลาดมีทั้งประเภทที่ขึ้นทะเบียนยาและขึ้นทะเบียนเป็นเครื่องสำอาง จึงควรตรวจสอบเลขทะเบียนตำรับยา หรือเลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ว่าได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 

  • เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ร้านขายยา หรือบริษัทผู้จัดจำหน่ายโดยตรง

  • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนซื้อยามาใช้ เพื่อป้องกันการใช้ยาที่ไม่เหมาะสมกับอาการที่เป็นอยู่ 

ยาทาแก้คันผิวหนัง ยี่ห้อไหนดี

           ยาทาแก้คัน หรือครีมทาแก้คันผิวหนังที่ช่วยบรรเทาอาการคันและผื่นแพ้ในเบื้องต้นมีอยู่หลากหลายยี่ห้อ ตัวอย่างเช่น

1. ยาทาแก้คัน คาลาไมน์ พญายอ อภัยภูเบศร

ยาทาแก้คัน คาลาไมน์ พญายอ อภัยภูเบศร

ภาพจาก : สมุนไพรอภัยภูเบศร

          คาลาไมน์พญายอ จากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร มาในรูปแบบของยาแผนโบราณที่นำสารสกัดพญายอมาผสมกับตัวยาอื่น ๆ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า พญายอ เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์แก้ผดผื่นคัน ตุ่มคัน ช่วยลดอาการคันที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง หรืออาการแพ้จากแมลงสัตว์กัดต่อย

  • วิธีใช้ : ทาบาง ๆ บริเวณที่มีอาการ วันละ 3-5 ครั้ง

  • ราคาปกติ : ขนาด 60 มิลลิลิตร ราคา 40 บาท

2. ยาทาแก้คัน ไนน์ เฮิร์บ กรีน บาล์ม ฟอร์ รีลีฟ อิชชิ่ง (NINE HERBS GREEN BALM FOR RELIEVE ITCHING)

ยาทาแก้คันในเซเว่น NINE HERBS GREEN BALM

ภาพจาก : nineherbsgreenbalm

          ยาแก้คันในเซเว่นฯ ที่หลายรีวิวต่างพูดถึง เป็นครีมแก้คันหลอดเขียวที่ใช้สมุนไพรเป็นส่วนประกอบถึง 9 ชนิด อาทิ เหง้าขมิ้นชันแห้ง, เหงือกปลาหมอแห้ง, ใบเทียนกิ่งแห้ง, ใบทองพันชั่งแห้ง, ใบชุมเห็ดเทศแห้ง, ใบพญายอแห้ง ฯลฯ ซึ่งมีส่วนช่วยบรรเทาอาการผดผื่นคันและโรคผิวหนังต่าง ๆ เนื้อครีมเป็นแบบเจลซึมไว ใช้แล้วรู้สึกเย็น หอมกลิ่นสมุนไพร จะทาผิวหน้าหรือข้อพับก็ได้ เพราะไม่มีสเตียรอยด์ ไม่มีสารกันเสีย ไม่มีน้ำหอม เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปก็ใช้ได้

  • วิธีใช้ : ทาบริเวณที่มีอาการวันละ 2-3 ครั้ง

  • ราคาปกติ : ขนาด 25 กรัม ราคา 189 บาท

3. ยาทาแก้พิศม์ หมอหวาน (Mowaan)

ยาทาแก้คันแก้พิศม์ หมอหวาน

ภาพจาก : mowaan

          ยาทาแก้คันชนิดน้ำที่บรรจุมาในแพ็กเกจจิ้งแบบมินิมอล ขวดเล็ก พกพาสะดวก เป็นน้ำมันสมุนไพรที่ปรุงจากเสลดพังพอนสกัดเข้มข้น และยังมีส่วนผสมของเกล็ดสะระแหน่ พิมเสน จึงได้ยาทาฤทธิ์เย็นที่มีสรรพคุณแก้คัน ผดผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย ตุ่มเม็ดคัน แดง อักเสบ แก้พิษร้อนจากความร้อน ลมพิษ หรือพิษจากการแพ้

  • วิธีใช้ : ทาบนผิวหนังที่มีอาการคันตามต้องการ

  • ราคาปกติ : ขนาด 15 กรัม ราคา 135 บาท

4. ยาทาแก้คัน อีเซอร์ร่า พลัส ครีม (Ezerra Plus Cream)

ครีมแก้แพ้ ezerra

ภาพจาก : ezerrathailand

          ครีมบรรเทาอาการผิวแห้งคัน ผิวผดติดเชื้อ โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ที่ทางแบรนด์บอกว่าช่วยลดอาการอักเสบและคันได้ภายใน 5 นาที ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100% สูตรเฉพาะของอีเซอร์ร่า ที่พัฒนาเพื่อผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ พร้อมช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิว ลดโอกาสผิวติดเชื้อ หลอดนี้อ่อนโยนต่อเด็กทารก เนื่องจากไม่มีสารสเตียรอยด์ ไม่แต่งสี ไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบน

  • วิธีใช้ : ทาผิวหน้าและผิวกายได้บ่อยครั้งตามต้องการ เพื่อบำรุงและดูแลผิว

  • ราคาปกติ : ขนาด 25 กรัม ราคา 890 บาท

5. ยาทาแก้คัน เนฟทรอล (Nevtral Natural Soothing Cream)

ครีมทาแก้คันผิวหนังอักเสบ เนฟทรอล

ภาพจาก : nevtralshop

          ครีมทาแก้ผื่นคัน ลมพิษ ผื่นภูมิแพ้ และแมลงสัตว์กัดต่อย จากเนฟทรอล แบรนด์นี้สกัดสารจากรางจืดด้วยเทคโนโลยีเฉพาะที่วิจัยร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติและมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อให้ได้สารสำคัญที่มีปริมาณตรงกับงานวิจัยในการลดการอักเสบ แก้แพ้ แก้คัน ได้เทียบเท่ายาสเตียรอยด์ แต่คงไว้ซึ่งความอ่อนโยน ออกฤทธิ์เย็น ไม่แสบผิว เพราะไม่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบน และสารกันเสียอื่น ๆ ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ เด็กทารกใช้ได้อย่างไม่ต้องกังวล

  • วิธีใช้ : ทาบริเวณที่เกิดอาการทั้งผิวหน้าและผิวกายได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

  • ราคาปกติ : ขนาด 15 กรัม ราคา 250 บาท

6. ยาทาแก้คัน บีแพนเธน เซนซิเดิร์ม ครีม (Bepanthen Sensiderm Cream)

ยาทาแก้คัน บีแพนเธน เซนซิเดิร์ม ครีม

ภาพจาก : bepanthen

          บีแพนเธน เซนซิเดิร์ม ครีม ครีมทาแก้คันแบรนด์ดังนำเข้าจากประเทศเยอรมนี หลอดนี้มีส่วนประกอบของเซราไมด์ 3, โปรวิตามินบี 5 ที่ช่วยเสริมสร้างกระบวนการฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติ และกลีเซอรีนที่ช่วยเก็บกักน้ำในผิว ใช้สำหรับทาผิวที่มีอาการคันและแดง ผิวอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ผิวแห้ง ผื่นแพ้ ผื่นคันต่าง ๆ พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวไปพร้อมกัน ใช้ได้ทุกวัย ตั้งแต่เด็กทารกอายุ 1 เดือนขึ้นไป หรือสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร เพราะเป็นสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากสเตียรอยด์ น้ำหอม สี สารกันเสีย และยาฆ่าเชื้อ

  • วิธีใช้ : ใช้ทาบริเวณผิวที่มีอาการผื่นคันและผิวแดงวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น แต่ไม่ควรใช้ในบริเวณที่มีแผลเปิด

  • ราคาปกติ : ขนาด 20 กรัม ราคา 440 บาท, ขนาด 50 กรัม ราคา 840 บาท 

7. ยาทาแก้คัน SKINPLANTS Defenza Cream

ยาทาแก้คัน SKINPLANTS Defenza Cream

ภาพจาก : SKINPLANTS Official Shop

          ครีมทาแก้คันอีกหนึ่งแบรนด์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ด้วยสารสกัดพืชสมุนไพรและผลไม้ออร์แกนิกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และใช้นวัตกรรมเฉพาะทำให้ได้เนื้อครีมจากธรรมชาติสูงสุดถึง 99.7% ปราศจากสเตียรอยด์และสารเคมีอันตราย จึงอ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว สามารถใช้ทาแก้คัน ลดผดผื่น บวมแดง เซ็บเดิร์ม แก้บวมจากยุงกัด หรือทาผิวที่ติดสารสเตียรอยด์ได้ด้วยสรรพคุณช่วยซ่อมแซมผิวหนังและลดการอักเสบ พร้อมเติมความชุ่มชื้นไปในตัว

  • วิธีใช้ : ใช้ทาตามบริเวณที่ต้องการ และใช้เป็นประจำบ่อยครั้งตามต้องการ

  • ราคาปกติ : ขนาด 12 กรัม ราคา 295 บาท

วิธีใช้ยาทาแก้คันที่ถูกต้อง

วิธีใช้ครีมทาแก้ผื่นคัน

          การใช้ยาทาแก้คันหรือครีมแก้คันอย่างถูกวิธีจะช่วยบรรเทาอาการคันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง โดยควรใช้ยาแก้คันตามขั้นตอนนี้

  1. อ่านฉลากยาอย่างละเอียดก่อนใช้ เพื่อตรวจสอบวิธีใช้และข้อควรระวัง 

  2. ล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดก่อนและหลังทายา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

  3. ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่มีอาการคันด้วยน้ำสะอาดและใช้ผ้าซับให้แห้ง

  4. หากใช้ยาทาครั้งแรกควรทดสอบการแพ้ โดยทายาในบริเวณเล็ก ๆ ของผิวหนังก่อนแล้วทิ้งไว้สักพัก ถ้าไม่มีอาการแพ้จึงใช้ยาได้

  5. ทายาในปริมาณเล็กน้อย โดยทาบาง ๆ ให้ทั่วบริเวณที่มีอาการคัน  

  6. หลีกเลี่ยงการทายาบริเวณใกล้ดวงตา ปาก หรือบริเวณที่ผิวหนังบอบบาง

  7. ปิดฝาให้สนิทหลังใช้งาน

  8. ล้างมือให้สะอาดหลังทายา เพื่อป้องกันการสัมผัสยาเข้าสู่ดวงตาหรือปาก

  9. ใช้ยาตามคำแนะนำบนฉลากยาหรือตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร ซึ่งโดยทั่วไปจะแนะนำให้ทายาวันละ 2-3 ครั้ง

ข้อควรระวังในการใช้ยาทาแก้คัน

          การใช้ยาทาแก้คันอย่างถูกต้องและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ โดยมีข้อควรระวังดังนี้

  • ก่อนใช้ยาทาแก้คันควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุของอาการคัน และเลือกใช้ยาที่เหมาะสม อย่าลืมแจ้งประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัวให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ

  • ยาทาแก้คันเป็นยาใช้ภายนอกเท่านั้น ห้ามรับประทาน 

  • เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ควรระมัดระวังในการใช้ยาแก้คัน หรือปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ยา

  • เก็บรักษายาหรือครีมแก้คันในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน

  • ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้ยาทุกครั้ง

  • หลีกเลี่ยงการทายาในบริเวณใกล้ตา ปาก หรือเยื่อบุต่าง ๆ

  • หลีกเลี่ยงการทายาในบริเวณที่มีแผลเปิดหรือผิวหนังที่ถูกทำลาย

  • ทายาในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำ ไม่ควรทามากเกินไป

  • ใช้ยาตามระยะเวลาที่กำหนด ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป เมื่ออาการคันดีขึ้นควรหยุดใช้ยา

  • หากใช้ยาทาสเตียรอยด์ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และไม่ควรใช้ยาสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ผิวหนังบางลงหรือเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ

  • หากมีอาการระคายเคือง แสบผิว มีตุ่มขึ้น ผื่นขึ้น หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ หลังใช้ยา ให้หยุดใช้ยาทันทีและปรึกษาแพทย์

  • หากใช้ยาทาแก้ผื่นคันแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการคันเรื้อรังนานเกิน 6 สัปดาห์ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

  • อาการคันที่เกิดขึ้นร่วมกับโรคเรื้อรังมักเป็นผลมาจากโรคที่เป็นอยู่ ดังนั้น ต้องรักษาโรคที่เป็นต้นเหตุ อาการคันจึงหายไปได้

           การใช้ยาทาแก้คันเป็นเพียงแค่การบรรเทาอาการเท่านั้น ที่ถูกต้องคือการรักษาที่สาเหตุและพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการคัน เพื่อไม่ให้อาการคันกลับมากวนใจซ้ำ ๆ อย่างไรก็ตาม หากมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ น้ำหนักลด เบื่ออาหาร ผื่นบวมแดงลุกลาม หรือคันมานานแล้วยังไม่หาย นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่น ๆ ที่ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้องกับอาการคัน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยาทาแก้คัน ครีมทาแก้ผื่นคันผิวหนัง ยี่ห้อไหนดี เลือกให้ปลอดภัย ใช้ได้ตรงจุด อัปเดตล่าสุด 3 มีนาคม 2568 เวลา 15:54:08 5,029 อ่าน
TOP
x close