เชื้อราบนผิวหนัง เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย สามารถเกิดขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่มีความอับชื้นหรือเสียดสีบ่อย ทั้งผิวหนัง บนหนังศีรษะ หรือจุดซ่อนเร้น ทำให้มีอาการคันในร่มผ้า หรือคันระคายเคืองตามอวัยวะต่าง ๆ ที่เป็น การใช้ยาทาเชื้อราหรือครีมทาเชื้อรา สามารถช่วยรักษาหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้
วันนี้เราเลยจะมาแนะนำยารักษาเชื้อราแบบครีมและแบบสเปรย์ที่หาซื้อเองได้ง่าย ๆ ตามร้านขายยาทั่วไป พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อและข้อควรระวังในการใช้
เชื้อรา เกิดจากอะไร
วิธีรักษาเชื้อรา ทำอย่างไรได้บ้าง
ยาทาเชื้อรา มีแบบไหนบ้าง
ยาทาเชื้อรามีหลายรูปแบบ เช่น ชนิดครีม เจล ขี้ผึ้ง ยาน้ำใส โลชั่น หรือชนิดสเปรย์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการแทรกซึมและรักษาบริเวณที่ติดเชื้อ โดยเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตและการเพิ่มจำนวนของเชื้อรา สำหรับตัวยาที่ออกฤทธิ์รักษาเชื้อรามีหลายตัว เช่น
-
คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) : มีทั้งแบบชนิดกิน ชนิดทา ชนิดสเปรย์ และแบบแชมพู ใช้สำหรับรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา เช่น กลาก เกลื้อน เชื้อราในช่องคลอด สิวที่เกิดจากเชื้อรา
-
โคลไตรมาโซล (Clotrimazole) : ใช้รักษาโรคผิวหนังที่เกิดการติดเชื้อแคนดิดาบริเวณอวัยวะเพศ กลาก เกลื้อน น้ำกัดเท้า ฮ่องกงฟุต ผื่นผ้าอ้อม
-
ไบโฟนาโซล (Bifonazole) : ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ ใช้รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อเดอร์มาโตไฟต์ ยีสต์ และเชื้อราอื่น ๆ
-
ฟลูโคนาโซล (Fluconazole) : มักใช้ในการรักษาอาการติดเชื้อราที่ผิวหนัง การติดเชื้อแคนดิดาที่ช่องคลอด การติดเชื้อในกระแสเลือด และใช้ป้องกัน-รักษาการติดเชื้อราในผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี
-
ไมโคนาโซล (Miconazole) : มีทั้งแบบครีม ผงโรย เจล ยาเหน็บ ใช้รักษาเชื้อราที่ผิวหนัง เชื้อราในช่องปาก เชื้อราในช่องคลอด
ยาทาเชื้อรา ยี่ห้อไหนดี
1. สเปรย์รักษาเชื้อรา ฟังจิน็อกซ์ โซลูชั่น (FUNGINOX SOLUTION)
ฟังจิน็อกซ์ โซลูชั่น ยารักษาเชื้อราที่มีตัวยาคีโตโคนาโซล 2% สามารถใช้รักษาโรคผิวหนังซึ่งเกิดจากการติดเชื้อทิเนีย เช่น โรคกลาก เกลื้อน น้ำกัดเท้า เป็นต้น หรือโรคผิวหนังซึ่งเกิดจากการติดเชื้อราแคนดิดา รวมทั้งใช้รักษาโรคติดเชื้อของต่อมไขมันที่ผิวหนัง และยังสามารถใช้ขจัดรังแค บรรเทาอาการคันศีรษะที่เกิดจากเชื้อรา มาในรูปแบบสเปรย์ที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย ใช้สะดวก เพราะสามารถพ่นยาลงบริเวณที่เป็นเชื้อราได้เลย จึงครอบคลุมบริเวณได้ดีกว่าการทา โดยตัวยาจะซึมแห้งในเวลาไม่นาน ไม่ต้องล้างออก แถมยังไม่เหนียวเหนอะหนะเหมือนการใช้ครีม อีกทั้งไม่ต้องใช้มือทายาที่สัมผัสกับเชื้อราโดยตรง ช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่น ๆ
- เลขทะเบียนตำรับยา : 1A 163/42
- วิธีใช้ :
- สเปรย์ลงบนผิวหนังบริเวณที่ติดเชื้อวันละ 1 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 1-2 สัปดาห์
- กรณีใช้ขจัดรังแคและอาการคันศีรษะ ใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ติดต่อกันนาน 3-4 สัปดาห์
- กรณีเป็นโรคติดเชื้อของต่อมไขมันที่ผิวหนัง ใช้วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันนาน 3-4 สัปดาห์
- ราคา : ปริมาณ 25 มิลลิลิตร ราคาปกติ 200 บาท
- ข้อควรระวัง :
- สำหรับใช้เฉพาะภายนอกเท่านั้น
- ระวังไม่ให้เข้าตา
- ควรหยุดใช้ทันทีหากเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง
2. ยาทาเชื้อรา ไมด้า ครีม
ยาทาเชื้อรา ไมด้า ครีม มีตัวยาโคลไตรมาโซล 1% ช่วยรักษาโรคผิวหนังจากเชื้อราที่มีอาการคัน หรือมีอาการคันและการอักเสบร่วมด้วย รวมถึงกลาก-เกลื้อนตามลำตัว การติดเชื้อแคนดิดาตามขาหนีบ เชื้อราที่เล็บ น้ำกัดเท้า
-
เลขทะเบียนตำรับยา : 1A 726/32
-
วิธีใช้ : ทาบาง ๆ บริเวณที่ติดเชื้อราและอักเสบ วันละ 2-3 ครั้ง หรือตามแพทย์สั่ง
-
ราคา : ปริมาณ 5 กรัม ราคาปกติ 45 บาท
3. ยาทาเชื้อรา ลามาโซน ครีม
ครีมทาเชื้อรา ลามาโซน ครีม มีตัวยาโคลไตรมาโซล 1% ช่วยรักษาโรคผิวหนังซึ่งเกิดจากเชื้อรา คันจากเชื้อรา กลาก เกลื้อน โรคน้ำกัดเท้า โรคเชื้อราที่เล็บ และโรคผิวหนังที่เป็นสะเก็ดล่อน ซึ่งเกิดจากเชื้อมาลาสซีเซีย เฟอร์เฟอร์
-
เลขทะเบียนตำรับยา : 1A 2/50
-
วิธีใช้ : ทาบริเวณที่เป็น วันละ 2-3 ครั้ง ประมาณ 2-4 สัปดาห์
-
ราคา : ปริมาณ 10 กรัม ราคาปกติ 75 บาท
4. ยาทาเชื้อรา โทนาฟ
แบรนด์ดังที่คุ้นหูมาตั้งแต่เด็กอย่างครีมโทนาฟ หลอดสีแดง มีตัวยาโทลนาฟเตท (Tolnaftate) เป็นยาฆ่าเชื้อรา ใช้สำหรับบรรเทาอาการผิวติดเชื้อรา น้ำกัดเท้า กลาก เกลื้อน คันตามนิ้วมือ นิ้วเท้า คันในร่มผ้า เชื้อราบนหนังศีรษะ ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ ล้างออกได้
-
เลขทะเบียนตำรับยา : 1A 85/29
-
วิธีใช้ : ใช้ทาบาง ๆ บริเวณที่ต้องการ หรือวันละ 2-3 ครั้ง
-
ราคา : ปริมาณ 5 กรัม ราคาปกติ 47 บาท
-
ข้อควรระวัง :
-
ห้ามใช้ยานี้หากเคยแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยานี้มาก่อน
-
ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรหากมีการใช้ยา สมุนไพร หรืออาหารเสริมอยู่ รวมทั้งถ้าตั้งครรภ์ หรือวางแผนตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
-
5. ยาทาเชื้อรา ไมโครัล ครีม
ยาทาเชื้อรา ไมโครัล ครีม มีตัวยาคีโตโคนาโซล 2% ใช้รักษาอาการติดเชื้อราผิวหนัง กลาก-เกลื้อนตามลำตัว เชื้อราบริเวณขาหนีบหรือข้อพับ เชื้อราที่เล็บ รักษาโรคน้ำกัดเท้า โรคสังคัง
-
เลขทะเบียนตำรับยา : 1A 465/44
-
วิธีใช้ : ควรทาอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือตามที่แพทย์กำหนด
-
ราคา : ปริมาณ 20 กรัม ราคาปกติ 90 บาท
6. ยาทาเชื้อรา แฟงโก้-บี
แฟงโก้-บี ยาทาเชื้อรา มีตัวยาโคลไตรมาโซล และเบตาเมทาโซน วาเลอเรต สำหรับรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อรา ที่มีแต่อาการคันอย่างเดียว หรือมีอาการคันแล้วยังมีอาการอักเสบร่วมด้วย ได้แก่ โรคน้ำกัดเท้า หรือฮ่องกงฟุต กลากที่ขาหนีบหรือตามลำตัวหรือตามข้อพับ และโรคเชื้อราที่เกิดจากเชื้อแคนดิดา
-
เลขทะเบียนตำรับยา : 2A 117/44
-
วิธีใช้ : ควรทาอย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง หรือตามที่แพทย์กำหนด
-
ราคา : ปริมาณ 15 กรัม ราคาปกติ 80 บาท
-
ข้อควรระวัง : ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ยาโคลไตรมาโซล, เบตาเมทาโซน ไดโพรพิโอเนต, ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์, ยากลุ่มอิมิดาโซล หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ในตำรับยา
วิธีเลือกซื้อยารักษาเชื้อรา
- พิจารณารูปแบบของยาตามความสะดวกในการใช้งาน เช่น
- แบบสเปรย์ : ใช้งานง่าย สะดวก ไม่เลอะมือ ไม่เลอะเสื้อผ้า ตัวยาซึมได้เร็ว
- แบบครีม : ตัวยาปกคลุมบริเวณที่เป็นได้ดี ซึมซับช้าจึงอยู่บนผิวหนังได้นาน แต่อาจทำให้เสื้อผ้าเปื้อนได้ง่าย
- แบบเจล : ตัวยาซึมซับเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ต้องทาบ่อยขึ้นเพราะมักระเหยเร็ว
- แบบขี้ผึ้ง : เหมาะกับบริเวณที่ผิวหนังแตก แต่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซับช้า อาจทำให้เสื้อผ้าเปื้อนได้ง่าย
- เลือกยาให้เหมาะกับบริเวณที่เป็นเชื้อรา เช่น
- หากใช้บริเวณศีรษะ ซอกเล็บมือ เล็บเท้า ซึ่งเป็นพื้นที่เข้าถึงยาก ควรเลือกใช้แบบสเปรย์หรือแบบน้ำ เพราะเข้าถึงบริเวณที่เป็นเชื้อราได้ดีกว่าแบบครีม และซึมเข้าสู่ผิวหนังได้เร็วกว่า
- หากเป็นเชื้อราบริเวณริมฝีปาก ควรใช้ยาทาแบบขี้ผึ้งป้ายปาก
- เลือกชนิดของตัวยาให้ตรงกับชนิดของเชื้อราที่เป็นและจุดประสงค์การใช้งาน เช่น
- หากเป็นเชื้อราในช่องคลอดหรือบริเวณอวัยวะเพศภายนอก ควรใช้ยาฆ่าเชื้อราที่สามารถรักษาเชื้อแคนดิดาได้ เช่น คีโตโคนาโซล
- ถ้ามีอาการคันร่วมกับการอักเสบ ควรเลือกตัวยาที่มีส่วนผสมของโคลไตรมาโซล
- ถ้าต้องการรักษาอาการน้ำกัดเท้า ควรเลือกตัวยาที่มีส่วนผสมของโทลนาฟเตท
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์สำหรับการใช้งานในบริเวณร่มผ้า
- ตรวจสอบส่วนผสมของยาทาเชื้อราเพื่อหลีกเลี่ยงสารที่ตัวเองมีอาการแพ้
- ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนซื้อยามาใช้ เพื่อป้องกันการใช้ยาไม่ถูกต้อง และอาจทำให้เชื้อราดื้อยา
ข้อควรระวังในการใช้ยารักษาเชื้อรา
-
ควรใช้ทาภายนอกหรือใช้ตามที่ฉลากระบุ ไม่ควรนำเข้าปากหรือกลืน
-
ไม่ควรทาตรงรอยถลอกหรือรอยเปิดของผิวหนัง เพราะอาจเป็นอันตราย
-
ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจนกว่าโรคเชื้อราบนผิวหนังจะหายสนิท เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลารักษาประมาณ 2-4 สัปดาห์
-
หากมีอาการแสบร้อน เกิดผื่นแดง ตุ่มพอง ลมพิษ คัน ผิวหนังลอก มีอาการบวมที่ใบหน้า เปลือกตา ริมฝีปาก หน้ามืด แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที
-
หญิงตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ หรือสตรีให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
-
หากใช้ยา สมุนไพร หรือรับประทานอาหารเสริมอยู่ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
บทความที่เกี่ยวข้องกับเชื้อรา
- เชื้อราที่ขาหนีบผู้หญิง ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
- เชื้อราในช่องคลอด ยังไงก็ไม่รอดถ้ายังทำ 12 พฤติกรรมนี้ !
- 12 สมุนไพรใกล้ตัวรักษาโรคน้ำกัดเท้า ช่วยบรรเทาอาการได้ชะงัด !
- 8 วิธีรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะ หมดปัญหาอาการคัน ต้องกำจัดให้เกลี้ยงถึงต้นตอ
- คันในร่มผ้า เรื่องลับ ๆ ของน้องหนู อุ๊ย...ไม่รู้เป็นอะไร ?