ยาทาเชื้อรา ยารักษาเชื้อรา มีแบบไหนบ้าง เลือกซื้ออย่างไร ยี่ห้อไหนดี ปี 2024

           ยารักษาเชื้อรา ยี่ห้อไหนดี สามารถใช้รักษาเชื้อราในร่มผ้า ผิวหนัง กลากเกลื้อน น้ำกัดเท้าได้ มาดูวิธีเลือกซื้อยาทาเชื้อรา พร้อมศึกษาข้อควรระวังในการใช้
ยารักษาเชื้อราแบบสเปรย์

          เชื้อราบนผิวหนัง เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย สามารถเกิดขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่มีความอับชื้นหรือเสียดสีบ่อย ทั้งผิวหนัง บนหนังศีรษะ หรือจุดซ่อนเร้น ทำให้มีอาการคันในร่มผ้า หรือคันระคายเคืองตามอวัยวะต่าง ๆ ที่เป็น การใช้ยาทาเชื้อราหรือครีมทาเชื้อรา สามารถช่วยรักษาหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้

          วันนี้เราเลยจะมาแนะนำยารักษาเชื้อราแบบครีมและแบบสเปรย์ที่หาซื้อเองได้ง่าย ๆ ตามร้านขายยาทั่วไป พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อและข้อควรระวังในการใช้

เชื้อรา เกิดจากอะไร

ยาทาเชื้อราผิวหนัง

           เชื้อราอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การสวมใส่เสื้อผ้าที่มีความชื้นบ่อย ๆ การทำงานที่ต้องแช่เท้าในน้ำเป็นเวลานาน การสวมถุงเท้าหรือรองเท้าแน่นเป็นประจำ หรือเกิดจากร่างกายอ่อนแอ มีภูมิคุ้มกันต่ำ การแพ้สารเคมี ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น กลาก เกลื้อน ฮ่องกงฟุต เชื้อราในช่องคลอด สังคัง เป็นต้น

วิธีรักษาเชื้อรา ทำอย่างไรได้บ้าง

           เชื้อราสามารถรักษาได้ด้วยวิธีกินยา ทายา หรือเหน็บยา ถ้าเป็นยากินต้องให้แพทย์หรือเภสัชกรเป็นผู้วินิจฉัย แต่ถ้าเป็นยาใช้ภายนอกสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาที่มีเภสัชกรแนะนำ

ยาทาเชื้อรา มีแบบไหนบ้าง

ครีมทาเชื้อรา

          ยาทาเชื้อรามีหลายรูปแบบ เช่น ชนิดครีม เจล ขี้ผึ้ง ยาน้ำใส โลชั่น หรือชนิดสเปรย์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการแทรกซึมและรักษาบริเวณที่ติดเชื้อ โดยเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตและการเพิ่มจำนวนของเชื้อรา สำหรับตัวยาที่ออกฤทธิ์รักษาเชื้อรามีหลายตัว เช่น

  • คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) : มีทั้งแบบชนิดกิน ชนิดทา ชนิดสเปรย์ และแบบแชมพู ใช้สำหรับรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา เช่น กลาก เกลื้อน เชื้อราในช่องคลอด สิวที่เกิดจากเชื้อรา

  • โคลไตรมาโซล (Clotrimazole) : ใช้รักษาโรคผิวหนังที่เกิดการติดเชื้อแคนดิดาบริเวณอวัยวะเพศ กลาก เกลื้อน น้ำกัดเท้า ฮ่องกงฟุต ผื่นผ้าอ้อม

  • ไบโฟนาโซล (Bifonazole) : ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ ใช้รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อเดอร์มาโตไฟต์ ยีสต์ และเชื้อราอื่น ๆ

  • ฟลูโคนาโซล (Fluconazole) : มักใช้ในการรักษาอาการติดเชื้อราที่ผิวหนัง การติดเชื้อแคนดิดาที่ช่องคลอด การติดเชื้อในกระแสเลือด และใช้ป้องกัน-รักษาการติดเชื้อราในผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี 

  • ไมโคนาโซล (Miconazole) : มีทั้งแบบครีม ผงโรย เจล ยาเหน็บ ใช้รักษาเชื้อราที่ผิวหนัง เชื้อราในช่องปาก เชื้อราในช่องคลอด 

ยาทาเชื้อรา ยี่ห้อไหนดี

          หากใครกำลังหาข้อมูลยารักษาเชื้อรา ลองมาพิจารณายาทาเชื้อราชนิดสเปรย์หรือชนิดครีมที่ใช้สะดวก และหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ดังนี้

1. สเปรย์รักษาเชื้อรา ฟังจิน็อกซ์ โซลูชั่น (FUNGINOX SOLUTION)

ยารักษาเชื้อรา Funginox

ภาพจาก : scharoen.com

          ฟังจิน็อกซ์ โซลูชั่น ยารักษาเชื้อราที่มีตัวยาคีโตโคนาโซล 2% สามารถใช้รักษาโรคผิวหนังซึ่งเกิดจากการติดเชื้อทิเนีย เช่น โรคกลาก เกลื้อน น้ำกัดเท้า เป็นต้น หรือโรคผิวหนังซึ่งเกิดจากการติดเชื้อราแคนดิดา รวมทั้งใช้รักษาโรคติดเชื้อของต่อมไขมันที่ผิวหนัง และยังสามารถใช้ขจัดรังแค บรรเทาอาการคันศีรษะที่เกิดจากเชื้อรา มาในรูปแบบสเปรย์ที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย ใช้สะดวก เพราะสามารถพ่นยาลงบริเวณที่เป็นเชื้อราได้เลย จึงครอบคลุมบริเวณได้ดีกว่าการทา โดยตัวยาจะซึมแห้งในเวลาไม่นาน ไม่ต้องล้างออก แถมยังไม่เหนียวเหนอะหนะเหมือนการใช้ครีม อีกทั้งไม่ต้องใช้มือทายาที่สัมผัสกับเชื้อราโดยตรง ช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่น ๆ 

  • เลขทะเบียนตำรับยา : 1A 163/42
  • วิธีใช้ :
    • สเปรย์ลงบนผิวหนังบริเวณที่ติดเชื้อวันละ 1 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 1-2 สัปดาห์
    • กรณีใช้ขจัดรังแคและอาการคันศีรษะ ใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ติดต่อกันนาน 3-4 สัปดาห์
    • กรณีเป็นโรคติดเชื้อของต่อมไขมันที่ผิวหนัง ใช้วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันนาน 3-4 สัปดาห์
  • ราคา : ปริมาณ 25 มิลลิลิตร ราคาปกติ 200 บาท
  • ข้อควรระวัง :
    • สำหรับใช้เฉพาะภายนอกเท่านั้น
    • ระวังไม่ให้เข้าตา
    • ควรหยุดใช้ทันทีหากเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง

2. ยาทาเชื้อรา ไมด้า ครีม

ยาทาเชื้อรา ไมด้า ครีม

ภาพจาก : tmanpharmaceutical.com

          ยาทาเชื้อรา ไมด้า ครีม มีตัวยาโคลไตรมาโซล 1% ช่วยรักษาโรคผิวหนังจากเชื้อราที่มีอาการคัน หรือมีอาการคันและการอักเสบร่วมด้วย รวมถึงกลาก-เกลื้อนตามลำตัว การติดเชื้อแคนดิดาตามขาหนีบ เชื้อราที่เล็บ น้ำกัดเท้า

  • เลขทะเบียนตำรับยา : 1A 726/32

  • วิธีใช้ : ทาบาง ๆ บริเวณที่ติดเชื้อราและอักเสบ วันละ 2-3 ครั้ง หรือตามแพทย์สั่ง

  • ราคา : ปริมาณ 5 กรัม ราคาปกติ 45 บาท

3. ยาทาเชื้อรา ลามาโซน ครีม

ยาทาเชื้อรา ลามาโซน ครีม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Newcharoen Pharmaceutical L.P.

          ครีมทาเชื้อรา ลามาโซน ครีม มีตัวยาโคลไตรมาโซล 1% ช่วยรักษาโรคผิวหนังซึ่งเกิดจากเชื้อรา คันจากเชื้อรา กลาก เกลื้อน โรคน้ำกัดเท้า โรคเชื้อราที่เล็บ และโรคผิวหนังที่เป็นสะเก็ดล่อน ซึ่งเกิดจากเชื้อมาลาสซีเซีย เฟอร์เฟอร์

  • เลขทะเบียนตำรับยา : 1A 2/50

  • วิธีใช้ : ทาบริเวณที่เป็น วันละ 2-3 ครั้ง ประมาณ 2-4 สัปดาห์

  • ราคา : ปริมาณ 10 กรัม ราคาปกติ 75 บาท

4. ยาทาเชื้อรา โทนาฟ

โทนาฟ

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก บจก.แสงไทยเมดิคอล

          แบรนด์ดังที่คุ้นหูมาตั้งแต่เด็กอย่างครีมโทนาฟ หลอดสีแดง มีตัวยาโทลนาฟเตท (Tolnaftate) เป็นยาฆ่าเชื้อรา ใช้สำหรับบรรเทาอาการผิวติดเชื้อรา น้ำกัดเท้า กลาก เกลื้อน คันตามนิ้วมือ นิ้วเท้า คันในร่มผ้า เชื้อราบนหนังศีรษะ ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ ล้างออกได้

  • เลขทะเบียนตำรับยา : 1A 85/29

  • วิธีใช้ : ใช้ทาบาง ๆ บริเวณที่ต้องการ หรือวันละ 2-3 ครั้ง

  • ราคา : ปริมาณ 5 กรัม ราคาปกติ 47 บาท

  • ข้อควรระวัง :

    • ห้ามใช้ยานี้หากเคยแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยานี้มาก่อน

    • ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรหากมีการใช้ยา สมุนไพร หรืออาหารเสริมอยู่ รวมทั้งถ้าตั้งครรภ์ หรือวางแผนตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร 

5. ยาทาเชื้อรา ไมโครัล ครีม

ไมโครัล ครีม

ภาพจาก : tmanpharmaceutical.com

          ยาทาเชื้อรา ไมโครัล ครีม มีตัวยาคีโตโคนาโซล 2% ใช้รักษาอาการติดเชื้อราผิวหนัง กลาก-เกลื้อนตามลำตัว เชื้อราบริเวณขาหนีบหรือข้อพับ เชื้อราที่เล็บ รักษาโรคน้ำกัดเท้า โรคสังคัง

  • เลขทะเบียนตำรับยา : 1A 465/44

  • วิธีใช้ : ควรทาอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือตามที่แพทย์กำหนด

  • ราคา : ปริมาณ 20 กรัม ราคาปกติ 90 บาท

6. ยาทาเชื้อรา แฟงโก้-บี

แฟงโก้-บี

ภาพจาก : pillintrip.com

          แฟงโก้-บี ยาทาเชื้อรา มีตัวยาโคลไตรมาโซล และเบตาเมทาโซน วาเลอเรต สำหรับรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อรา ที่มีแต่อาการคันอย่างเดียว หรือมีอาการคันแล้วยังมีอาการอักเสบร่วมด้วย ได้แก่ โรคน้ำกัดเท้า หรือฮ่องกงฟุต กลากที่ขาหนีบหรือตามลำตัวหรือตามข้อพับ และโรคเชื้อราที่เกิดจากเชื้อแคนดิดา

  • เลขทะเบียนตำรับยา : 2A 117/44

  • วิธีใช้ : ควรทาอย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง หรือตามที่แพทย์กำหนด

  • ราคา : ปริมาณ 15 กรัม ราคาปกติ 80 บาท

  • ข้อควรระวัง : ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ยาโคลไตรมาโซล, เบตาเมทาโซน ไดโพรพิโอเนต, ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์, ยากลุ่มอิมิดาโซล หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ในตำรับยา

วิธีเลือกซื้อยารักษาเชื้อรา

วิธีเลือกซื้อยาทาเชื้อรา

          การเลือกยาทาเชื้อราในรูปแบบที่เหมาะสม จะช่วยให้การรักษาได้ผลดีขึ้น และลดโอกาสการเกิดอาการข้างเคียงต่าง ๆ ได้ โดยมีข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อ ดังนี้
  • พิจารณารูปแบบของยาตามความสะดวกในการใช้งาน เช่น 
    • แบบสเปรย์ : ใช้งานง่าย สะดวก ไม่เลอะมือ ไม่เลอะเสื้อผ้า ตัวยาซึมได้เร็ว
    • แบบครีม : ตัวยาปกคลุมบริเวณที่เป็นได้ดี ซึมซับช้าจึงอยู่บนผิวหนังได้นาน แต่อาจทำให้เสื้อผ้าเปื้อนได้ง่าย
    • แบบเจล : ตัวยาซึมซับเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ต้องทาบ่อยขึ้นเพราะมักระเหยเร็ว
    • แบบขี้ผึ้ง : เหมาะกับบริเวณที่ผิวหนังแตก แต่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซับช้า อาจทำให้เสื้อผ้าเปื้อนได้ง่าย
  • เลือกยาให้เหมาะกับบริเวณที่เป็นเชื้อรา เช่น 
    • หากใช้บริเวณศีรษะ ซอกเล็บมือ เล็บเท้า ซึ่งเป็นพื้นที่เข้าถึงยาก ควรเลือกใช้แบบสเปรย์หรือแบบน้ำ เพราะเข้าถึงบริเวณที่เป็นเชื้อราได้ดีกว่าแบบครีม และซึมเข้าสู่ผิวหนังได้เร็วกว่า
    • หากเป็นเชื้อราบริเวณริมฝีปาก ควรใช้ยาทาแบบขี้ผึ้งป้ายปาก
  • เลือกชนิดของตัวยาให้ตรงกับชนิดของเชื้อราที่เป็นและจุดประสงค์การใช้งาน เช่น 
    • หากเป็นเชื้อราในช่องคลอดหรือบริเวณอวัยวะเพศภายนอก ควรใช้ยาฆ่าเชื้อราที่สามารถรักษาเชื้อแคนดิดาได้ เช่น คีโตโคนาโซล
    • ถ้ามีอาการคันร่วมกับการอักเสบ ควรเลือกตัวยาที่มีส่วนผสมของโคลไตรมาโซล 
    • ถ้าต้องการรักษาอาการน้ำกัดเท้า ควรเลือกตัวยาที่มีส่วนผสมของโทลนาฟเตท 
  • ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์สำหรับการใช้งานในบริเวณร่มผ้า 
  • ตรวจสอบส่วนผสมของยาทาเชื้อราเพื่อหลีกเลี่ยงสารที่ตัวเองมีอาการแพ้
  • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนซื้อยามาใช้ เพื่อป้องกันการใช้ยาไม่ถูกต้อง และอาจทำให้เชื้อราดื้อยา

ข้อควรระวังในการใช้ยารักษาเชื้อรา

ยาทาเชื้อรากลากเกลื้อน

  • ควรใช้ทาภายนอกหรือใช้ตามที่ฉลากระบุ ไม่ควรนำเข้าปากหรือกลืน 

  • ไม่ควรทาตรงรอยถลอกหรือรอยเปิดของผิวหนัง เพราะอาจเป็นอันตราย

  • ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจนกว่าโรคเชื้อราบนผิวหนังจะหายสนิท เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลารักษาประมาณ 2-4 สัปดาห์

  • หากมีอาการแสบร้อน เกิดผื่นแดง ตุ่มพอง ลมพิษ คัน ผิวหนังลอก มีอาการบวมที่ใบหน้า เปลือกตา ริมฝีปาก หน้ามืด แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที

  • หญิงตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ หรือสตรีให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา

  • หากใช้ยา สมุนไพร หรือรับประทานอาหารเสริมอยู่ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา

           การใช้ยาทาเชื้อราเป็นหนึ่งในวิธีรักษาเชื้อราบนผิวหนังที่ทำให้หายขาดได้ แต่ต้องใช้อย่างต่อเนื่องและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เชื้อรากลับมาเป็นซ้ำอีก เราต้องรักษาสุขอนามัยตัวเองให้ดีด้วย โดยเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าและรองเท้าที่อับชื้น ล้างมือเป็นประจำ เช็ดตัวให้แห้งสนิทหลังอาบน้ำ รวมทั้งไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันแข็งแรงพร้อมต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ

บทความที่เกี่ยวข้องกับเชื้อรา

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยาทาเชื้อรา ยารักษาเชื้อรา มีแบบไหนบ้าง เลือกซื้ออย่างไร ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 อัปเดตล่าสุด 13 ธันวาคม 2567 เวลา 11:54:11 109,842 อ่าน
TOP