เทรนด์สุขภาพ Longevity คืออะไร ทำไมแค่อายุยืนยังไม่พอ แต่ต้องแก่ช้าลงแบบมีไฟ

          เจาะลึกเทรนด์ Longevity ไลฟ์สไตล์ของคนที่อยากอยู่ให้ดี อยู่ให้นานอย่างมีคุณภาพ ไม่ป่วยและไม่เป็นภาระใคร แค่ปรับชีวิตเล็ก ๆ ก็ส่งผลยาว ๆ ถึงวัยเกษียณ
longevity

          ในยุคที่ผู้คนไม่ได้ต้องการแค่อายุยืน แต่ต้องการอยู่อย่างมีคุณภาพ หรือเป็นคนแก่ที่ไม่เหนื่อยล้าและไม่เจ็บป่วยง่าย แนวคิดเรื่อง "Longevity" จึงกลายเป็นเทรนด์สุขภาพที่ถูกจับตามองอย่างมากไม่แพ้ Wellness เพราะ Longevity คือการดูแลสุขภาพเชิงรุก ตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่แค่รอไปดูแลตอนสูงวัย แล้วเราจะเริ่มได้อย่างไร ? วันนี้มาชวนคนรักสุขภาพทุกคนมาทำความรู้จักและเริ่มต้นเทรนด์ Longevity ไปพร้อมกัน 

Longevity คืออะไร

longevity คืออะไร

          Longevity อ่านว่า ลอง-จี-วิ-ตี้ ภาษาอังกฤษแปลว่า การมีอายุยืนยาว ทว่าในบริบทของวงการสุขภาพปัจจุบันนั้น คำนี้ไม่ใช่แค่การมีอายุยืนทั่วไป แต่เป็นแนวคิดการใช้ชีวิตเพื่อให้ร่างกาย จิตใจ และการเงินแข็งแรงสมบูรณ์ไปพร้อมกัน 

หัวใจสำคัญของ Longevity คืออะไร

longevity มีอะไรบ้าง

          หัวใจสำคัญของคำนี้คือการยืด "ช่วงสุขภาพดี" (Healthspan) ให้ยาวนานที่สุด เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีพลัง และมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพ (Healthy Longevity) ดังนั้น แนวคิดของ Longevity จึงไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ แต่อยู่ในทุกมิติของชีวิต คือ

1. ร่างกาย

          เน้นการกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ การนอนหลับที่มีคุณภาพ และการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อสร้างความแข็งแรงของร่างกายให้ใช้งานได้ดีไปนาน ๆ สามารถเคลื่อนไหวได้ดี ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบได้ เช่น แม้อายุมากก็ยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองได้ ขึ้นบันไดไหว ไม่ต้องนั่งรถเข็น

2. จิตใจ

          สามารถลดและจัดการความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังมีความจำดี สามารถพูดคุย วิเคราะห์เรื่องต่าง ๆ ได้ รู้จักคิดบวก มองโลกในแง่ดี ปล่อยวางได้

3. ความสัมพันธ์

          การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว นัดเจอเพื่อนฝูง หรือกลุ่มสังคมที่มีความสนใจร่วมกันได้ เพราะการมีสังคมช่วยให้มีสุขภาพจิตดีขึ้น คลายเหงา และยืดอายุขัย

4. การเงิน

         การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบและยั่งยืน เพื่อให้มีอิสรภาพทางการเงิน หรืออย่างน้อยก็มีพอใช้ พอค่ารักษาสุขภาพ ไม่ต้องขอจากลูกหลาน และไม่เกิดความเครียดเรื่องเงินเมื่ออายุมากขึ้น

5. ไลฟ์สไตล์และการงาน

          ไลฟ์สไตล์ไม่ได้จำกัดแค่การพักผ่อน แต่เน้นไปที่การสร้างความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างยั่งยืน รวมถึงการบริหารจัดการพลังงานชีวิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละวัน เพื่อลดความเครียดสะสมและป้องกันภาวะหมดไฟ (Burnout) ซึ่งเป็นตัวเร่งความแก่ชราที่สำคัญ

Longevity กลายเป็นเทรนด์สุขภาพได้อย่างไร

เทรนด์สุขภาพ longevity

          ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Longevity กลายเป็นเทรนด์สุขภาพแห่งยุค มีดังนี้ 

1. อายุขัยเพิ่มขึ้น ไม่ได้แปลว่า สุขภาพดีขึ้น

           แม้ว่าอายุขัยเฉลี่ยของประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่คุณภาพชีวิตกลับไม่ได้ดีขึ้นตามไปด้วย เพราะเมื่อย่างเข้าวัย 40-50 ร่างกายก็เริ่มเสื่อมถอยอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการก่อตัวของโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะในช่วง 10-20 ปีสุดท้ายของชีวิต ที่หลายคนต้องวนเวียนเข้าออกโรงพยาบาล ใช้จ่ายเงินจำนวนมากไปกับการรักษาพยาบาล และต้องพึ่งพาผู้อื่น นี่จึงเป็นแรงผลักดันให้ผู้คนหันมาสนใจ "Healthspan" (ช่วงอายุที่แข็งแรง) มากกว่าแค่ "Lifespan" (ช่วงอายุรวม)
 

2. โรคเรื้อรังมาเยือนเร็วขึ้นอย่างน่าตกใจ

           ด้วยวิถีชีวิตแบบคนยุคใหม่ ทั้งการนั่งทำงานนานหลายชั่วโมง ความเครียดสะสม การนอนดึก และการบริโภคอาหารแปรรูป ทำให้โรคที่เคยถูกมองว่าเป็น "โรคคนแก่" เริ่มมาปรากฏตัวในกลุ่มคนวัย 30-40 ปี เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันพอกตับ และภาวะเครียดเรื้อรัง นี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Lifestyle) และไม่รอให้ป่วยแล้วจึงเริ่มรักษา
 

3. ค่านิยมใหม่...ทำงานเก่งต้องร่างกายไม่พัง

           กลุ่ม Gen Y และ Gen Z เป็นกลุ่มที่ทำงานหนัก มีความเครียดสูง และแบกรับภาระทางการเงินมากขึ้น ทว่าค่านิยมที่ว่า "ทำงานเก่งแต่ร่างกายพัง" เริ่มถูกมองว่าไม่คุ้มค่า แนวคิด Longevity ซึ่งผสมผสานการจัดการพลังงานชีวิต สุขภาพกายใจ และความเป็นอยู่ที่ดี จึงตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสมดุลและความยั่งยืนในการใช้ชีวิต
 

4. การเงินและสุขภาพที่ต้องวางแผนควบคู่กัน 

           หากเรามีโอกาสอยู่ถึงอายุ 90-100 ปี นั่นหมายความว่าค่าใช้จ่ายหลังเกษียณจะต้องถูกปรับเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่อาจตามมา ดังนั้น การวางแผนสุขภาพจึงเป็นส่วนที่ผูกติดกับการวางแผนทางการเงินอย่างแยกไม่ได้ (Financial Longevity) เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีอิสรภาพทางการเงินไปจนถึงบั้นปลายชีวิต
 

5. ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสุขภาพที่เข้าถึงง่าย

           ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของศาสตร์การแพทย์, Aging Science, และโภชนาการ ได้สร้างเครื่องมือที่ช่วยให้การดูแลสุขภาพล่วงหน้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น เช่น อุปกรณ์สวมใส่ อย่าง Smartwatch, Sleep Tracker ที่ช่วยให้เราสามารถวัดและติดตามคุณภาพการนอนหลับหรือระดับกิจกรรมทางร่างกายได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผู้คนสนใจที่จะลงทุนในสุขภาพล่วงหน้ามากขึ้น

Longevity Medicine คืออะไร

          Longevity Medicine หรือ เวชศาสตร์อายุยืนยาว เป็นสาขาทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าและมาแรงในปัจจุบัน โดยนำศาสตร์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยมาใช้เพื่อชะลอความชราและป้องกันการเกิดโรคตามวัย อาทิ

  • เน้นตรวจสุขภาพเชิงลึก เพื่อวิเคราะห์อย่างละเอียดกว่าการตรวจทั่วไป เช่น ตรวจฮอร์โมน, ตรวจเลือดเชิงลึก, ตรวจวัดอายุชีวภาพที่แท้จริงของเซลล์ 
  • ออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคล โดยอิงจากข้อมูลทางพันธุกรรม พฤติกรรมการใช้ชีวิต และผลตรวจสุขภาพเชิงลึก เพื่อวางแผนโภชนาการ วิตามิน และการออกกำลังกาย
  • รักษาและฟื้นฟูระดับเซลล์ เพื่อแก้ปัญหาความเสื่อมหลักของร่างกาย เช่น การกำจัดเซลล์แก่ชรา การควบคุมการอักเสบเรื้อรัง 

Longevity ต่างกับ Anti-Aging 
และ Wellness อย่างไร

longevity medicine

          แนวคิด Longevity อาจดูคล้ายกับ Anti-Aging แต่ Anti-Aging มักจะเน้นที่การดูแลฟื้นฟูรูปลักษณ์ภายนอก เช่น ผิวพรรณ ความอ่อนเยาว์ และการชะลอความเสื่อมในเชิงความงามเป็นหลัก ในทางกลับกัน Longevity มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพจากภายใน ตั้งแต่ระดับเซลล์และชีววิทยา เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ อย่างแท้จริง เป้าหมายคือการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ และแข็งแรงปราศจากความเจ็บป่วยไปจนถึงบั้นปลายชีวิต

          ในขณะที่ Wellness หมายถึงการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมให้สมดุลทั้งร่างกาย จิตใจ และวิถีชีวิต ซึ่งเป็นส่วนที่ทับซ้อนกับ Longevity ก็จริง แต่ Wellness จะเน้นไปที่การใช้ชีวิตให้มีความสมดุลและมีความสุขในปัจจุบันเป็นหลัก ทว่า Longevity จะโฟกัสไปที่อนาคต คือการมีชีวิตที่ยืนยาว พร้อมด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในช่วงวัยสูงอายุ โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการความเสื่อมของร่างกายอย่างจริงจัง

          อาจสรุปได้ว่า Longevity ก็คือการมี Wellness + Anti-Aging พร้อมวางแผนการใช้ชีวิตและการเงินในระยะยาวนั่นเอง

วิธีปรับไลฟ์สไตล์ให้เป็น Longevity

          มาถึงตรงนี้ เราจะเริ่มใช้ชีวิตแบบ Longevity ได้ยังไง ? ลองเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ ที่ทำได้จริงกันดูก่อน

1. ร่างกาย

longevity อาหาร

  • เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น เพิ่มผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีนคุณภาพดี ไขมันดี
  • ลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง เครื่องดื่มรสหวาน อาหารไขมันสูง รวมทั้งอาหารแปรรูปสูง
  • เดินให้มากขึ้นในทุก ๆ วัน 
  • ออกกำลังกายทั้งแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ รวมทั้งรักษากล้ามเนื้อและข้อ
  • กำหนดเวลาเข้านอน-ตื่นนอนให้ใกล้เคียงกันทุกวัน
  • ลดการเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนเข้านอน เพื่อให้ร่างกายหลับได้สนิท พักผ่อนอย่างเพียงพอ
  • ตรวจสุขภาพตามช่วงวัย ป้องกันมากกว่ารอรักษา

2. จิตใจ

longevity จิตใจ

  • สังเกตตัวเองว่าอะไรทำให้เครียด แล้วเริ่มหาวิธีจัดการ เช่น หยุดพักสั้น ๆ ระหว่างวัน 
  • ฝึกผ่อนคลาย เช่น หายใจลึก ๆ ทำสมาธิ ยืดเหยียด
  • หาพื้นที่ปลอดภัยทางใจ เช่น ทำงานอดิเรก หาคนที่คุยแล้วรู้สึกสบายใจ เล่นกับสัตว์เลี้ยง
  • นอนให้เพียงพอ เพราะการนอนมีผลต่อความจำ อารมณ์ และสมาธิ
  • ใช้สมองอยู่เสมอ เช่น อ่านหนังสือ เรียนทักษะใหม่ เล่นเกมฝึกสมอง 
  • คิดบวกให้มากขึ้น เพราะการมองโลกในแง่ดีมีความเชื่อมโยงกับอายุขัยที่ยาวนานขึ้น

3. ความสัมพันธ์

longevity ความสัมพันธ์

  • พยายามดูแลและรักษาสายสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและเพื่อนฝูงอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่การติดต่อกันเฉพาะตอนเกิดปัญหาเท่านั้น
  • ติดต่อเพื่อนเก่าหรือญาติที่ห่างหายไปเป็นครั้งคราว เพราะการรักษาสายสัมพันธ์เก่า ๆ ไว้เป็นส่วนสำคัญของการสร้างเครือข่ายทางสังคมที่แข็งแกร่ง
  • เปิดใจเข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ เช่น กลุ่มออกกำลังกาย กลุ่มอ่านหนังสือ กลุ่มคนรักสัตว์ หรือกลุ่มงานอดิเรก เพื่อใช้เวลาร่วมกับผู้อื่น โดยมีการศึกษาระบุว่า การทำกิจกรรมทางสังคมที่บ่อยขึ้นมีความสัมพันธ์กับการอยู่รอดที่ยาวนานขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  • เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้การสนับสนุน และในขณะเดียวกันก็เปิดใจยอมรับความช่วยเหลือจากผู้อื่น เพราะมนุษย์เราต้องพึ่งพาอาศัยกันในระยะยาว
  • หาเวลาเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครหรือทำกิจกรรมช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งจะช่วยทำให้รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของสังคม

4. การเงิน

longevity การเงิน

  • เริ่มออมเงินทีละนิด เพื่อกันไว้เป็นเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 6 เดือน
  • ออมก่อนใช้ โดยหักจากบัญชีแล้วนำไปออมทันทีเมื่อมีรายได้เข้ามา
  • เรียนรู้พื้นฐานการลงทุน และวางแผนการออมระยะยาว เพื่อมีเงินใช้ในยามเกษียณ
  • วางแผนค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในอนาคต เช่น แบ่งเงินไว้สำหรับค่ารักษาพยาบาลโดยเฉพาะ หรือทำประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรง เพื่อลดความเสี่ยงทางการเงิน รวมทั้งหมั่นดูแลสุขภาพตัวเองอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสป่วย 
  • ไม่ฝืนทำงานจนสุขภาพพัง เพียงเพราะกลัวไม่มีเงินในอนาคต
  • วางแผนคร่าว ๆ ว่าอยากให้ชีวิตหลังวัย 50-60 เป็นแบบไหน

5. ไลฟ์สไตล์และการงาน

longevity ไลฟ์สไตล์

  • กำหนดเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการทำงานที่แน่นอน และฝึกปิดการแจ้งเตือน (Notification) ของงานเมื่อถึงเวลาส่วนตัว เพื่อให้สมองได้พักฟื้นอย่างเต็มที่
  • พักเบรกสั้น ๆ เช่น ทุก ๆ การทำงาน 50 นาที ให้ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ หรือมองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อให้ร่างกายได้ขยับและลดอาการเมื่อยล้าจากการนั่งเป็นเวลานาน
  • ปรับความสูงของเก้าอี้และหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในท่าที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันอาการปวดหลังและคอเรื้อรัง 
  • จัดสรรช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ไม่มีใครรบกวน (เช่น 1-2 ชั่วโมง) สำหรับงานที่ต้องใช้สมาธิสูงจริง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานให้เสร็จเร็วขึ้น
  • แทนที่จะนั่งดูทีวีหลังเลิกงาน ลองออกไปเดินเล่นเบา ๆ โยคะ หรือทำกิจกรรมอดิเรกอื่น ๆ ที่ช่วยให้ร่างกายได้ขยับและลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ
          การปรับไลฟ์สไตล์ในมิติการงานนี้จะช่วยลดความเสียหายจากความเครียดเรื้อรัง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่บ่อนทำลายสุขภาพในระยะยาวตามหลักการของ Longevity 
          สรุปแล้ว Longevity คือการเตรียมตัวล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีแม้ในวัยสูงอายุ โดยมีเป้าหมายคือการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง มีพลังกายและพลังใจในการทำกิจกรรมที่รักได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง ซึ่งนั่นหมายถึงการเพิ่มโอกาสในการมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าค่าเฉลี่ย และมีความมั่นคงทางการเงินเพียงพอที่จะใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและมีความสุขไปอีกนาน

บทความที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์สุขภาพดี

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท 3, psychologytoday.com, health.harvard.edu  

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เทรนด์สุขภาพ Longevity คืออะไร ทำไมแค่อายุยืนยังไม่พอ แต่ต้องแก่ช้าลงแบบมีไฟ อัปเดตล่าสุด 4 ธันวาคม 2568 เวลา 16:05:12
TOP
x close