
กินสมุนไพรตามธาตุเจ้าเรือน บำบัดโรคทำสุขภาพแข็งแรง (ไทยโพสต์)
การบริโภคอาหารให้ถูกวิธีนั้น นอกจากจะช่วยให้คุณสาว ๆ มีสุขภาพที่ดี ปราศจากโรคภัยแล้ว การเลือกรับประทานสมุนไพรที่เป็นทั้งอาหารและยาให้สอดคล้องกับธาตุเจ้าเรือนที่อยู่ในแต่บุคคล (สภาพแวดล้อมตอนเกิด ที่สามารถส่งผลต่อความสามารถแสดงออกของยีนหรือพันธุกรรมในร่างกายของเรา) ก็สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้เช่นกัน
ข้อได้เปรียบของพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านนั้น นอกจากจะหาง่าย ไม่มีผลข้างเคียง อีกทั้งรักษาโรคเรื้อรังได้แล้ว สมุนไพรเหล่านี้ยังราคาไม่แพง เพราะสามารถปลูกได้ตามริมรั้วบ้านนั่นเอง ดังนั้นรูปแบบของการรับประทานอาหารที่ปรุงจากสมุนไพรพื้นบ้านเพื่อรักษาโรค หรือที่เรียกกันติดปากว่า "กินตามธาตุเจ้าเรือน" จึงกลายเป็นเทรนด์ฮิตที่กำลังมาแรงของหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่รักสุขภาพยุคนี้
นพ.ธีปทัศน์ ชุณหสวัสดิกุล แพทย์ประจำศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี เผยให้ทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับการคำนวณวันเดือนปีเกิดให้ตรงกับธาตุเจ้าเรือนทั้ง 4 ว่า ตามหลักวิชาแพทย์แผนไทย เชื่อว่า "การเกิดคือการมีจิตวิญญาณเกิดขึ้นในครรภ์มารดา และมีการดึงเอาพลังงานธาตุทั้ง 4 จากสภาพแวดล้อมมาประกอบขึ้นเป็นกายเนื้อของเด็กคนนั้น"
เช่น หากการปฏิสนธิเกิดขึ้นในหน้าร้อน ซึ่งอากาศร้อนจัด ก็จะส่งผลให้ผู้ที่เกิดในช่วงเดือนดังกล่าวมีธาตุเจ้าเรือนที่เป็นธาตุไฟ แต่หากการปฏิสนธิเกิดขึ้นในหน้ามรสุมซึ่งมีลมฝนมาก เช่น เดือนมิถุนายน เด็กที่เกิดก็จะมีธาตุเจ้าเรือนเป็นธาตุลม และหากการปฏิสนธิเกิดขึ้นในหน้าน้ำหลาก ก็จะมีธาตุเจ้าเรือนเป็นคนธาตุน้ำ สุดท้ายหากการปฏิสนธิเกิดขึ้นในช่วงเดือนอ้ายเดือนยี่ ซึ่งดินอุดมสมบูรณ์ เขาคนนั้นก็จะมีธาตุเจ้าเรือนเป็นธาตุดินนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ธาตุเจ้าเรือนที่เด่นออกไปทางใดทางหนึ่ง จะทำให้คนคนนั้นมีจุดแข็งและจุดอ่อนของสุขภาพในเรื่องที่แตกต่างกันไป ดังนั้นอาหารประจำธาตุของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปด้วย เช่น

ส่วนอาหารที่ห้ามรับประทาน สำหรับผู้ที่เกิดธาตุไฟนั้น ได้แก่ อาหารหวานและอาหารมันจัด เช่น อาหารที่ปรุงขึ้นจากลำไย ทุเรียน รวมถึงอาหารปิ้งย่าง เพราะอาหารเหล่านี้เป็นตัวเพิ่มความร้อนให้กับร่างกาย

สำหรับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงนั้น ได้แก่ อาหารมันและอาหารหวาน เช่น เบเกอรี่ ขนมเค้ก ครีมเทียมที่มีส่วนประกอบทั้งนมและเนย เพราะผู้ที่เกิดธาตุลมมีลักษณะผอมบาง จึงทำให้ขาดความระวังในเรื่องของไขมันในเลือดสูง จากอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบหลัก

ส่วนอาหารที่ควรรับประทานนั้น ควรเป็นอาหารรสเปรี้ยว ได้แก่ ยำส้มโอ ยำผลไม้รวม น้ำส้มคั้น รวมถึงผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ตะลิงปลิง มะขามป้อม มะยมจิ้มพริกเกลือ ที่มีสรรพคุณช่วยทำให้ชุ่มคอชื่นใจ และช่วยขับเสมหะในร่างกาย

ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่ อาหารประเภทหวาน และอาหารมัน ที่ดูดซึมได้ยาก เช่น ข้าว หัวมันและเผือก เนื่องอาหารประเภทดังกล่าวจะเป็นตัวกระตุ้นให้น้ำในเลือดเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
