
โดย : เภสัชกรธานี เมฆะสุวรรณดิษฐ์
เคยสังเกตกันบ้างไหมครับว่า เวลาที่ตัวคุณเองหรือคนข้างเคียงไม่สบาย เช่น เป็นไข้หวัด เจ็บคอ อาการและเสียงเสียงหนึ่งซึ่งมักจะได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ควบคู่ไปกับอาการไม่สบาย จนบางครั้งทำให้ตัวเราเองหรือคนรอบข้างรู้สึกรำคาญก็คือ เสียงไอแค็ก ๆ บางคนไอมากถึงขนาดถุงลมในปอดแตก บางคนไอจนหน้ามืดเป็นลมไปก็มี เมื่อรู้ว่าอาการไอบางครั้งรุนแรงถึงขนาดนี้แล้ว เรามาทำความเข้าใจกันดีกว่าว่า อาการไอเกิดขึ้นได้อย่างไร สาเหตุ โทษ และประโยชน์ของการไอ ตลอดจนยาที่ใช้ระงับไอ มีอะไรบ้าง

อาการไอเป็นกลไกที่สำคัญอันหนึ่งของร่างกายเรา ในการที่จะกำจัดเสมหะและสิ่งแปลกปลอมให้ออกไปจากทางเดินหายใจ คนไข้บางคนอาจมีอาการไอเรื้อรังจนรู้สึกชิน เช่น ผู้ที่สูบบุหรี่จัดแล้วเกิดอาการไอเวลาตื่นนอนตอนเช้า ซึ่งคนปกติโดยทั่วไปแล้วจะไม่ไอ ถึงแม้จะมีเสมหะหรือสิ่งแปลกปลอมในทางเดินหายใจ ทำไม? ก็เนื่องจากร่างกายของเราจะมีขนเล็ก ๆ ซึ่งจะอยู่ในเยื่อบุทางเดินหายใจ คอยปัดเอาเสมหะหรือสิ่งแปลกปลอมให้ขึ้นไปอยู่ในคอ แล้วถูกกลืนเข้าไปในทางเดินอาหารในที่สุด
อาการไอจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการกระตุ้นปลายประสาท หรือตัวรับที่เกี่ยวกับอาการไอ เช่น หลอดลม กะบังลม เยื่อหุ้มปอด คอหอย ช่องหูส่วนบน เป็นต้น เมื่อปลายประสาทเหล่านี้ถูกกระตุ้นก็จะส่งสัญญาณไปยังศูนย์ควบคุมอาการไอบริเวณสมอง เมื่อศูนย์ไอถูกกระตุ้น ก็จะส่งสัญญาณประสาทไปยังกล่องเสียงและกล้ามเนื้อบริเวณทรวงอก และหน้าท้องที่เกี่ยวข้องกับการหายใจทำให้เกิดอาการไอ

การไอจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีสิ่งกระตุ้น ซึ่งสิ่งกระตุ้นเหล่านี้แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ คือ




เมื่อมีสิ่งกระตุ้นดังกล่าวก็จะทำให้เกิดอาการไอออกมา ซึ่งมีทั้งไอแบบแห้ง ๆ และไอแบบมีเสมหะ เนื่องจากมีการสร้างเสมหะเพิ่มขึ้นหรือเสมหะเหนียวข้นขึ้นและขนเล็ก ๆ ทำงานไม่ดีพอที่จะพัดโบกเอาเสมหะเหล่านั้นให้หลุดไปได้

เสมหะประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ




อาการไอมีทั้งประโยชน์และโทษควบคู่กันไป ในส่วนที่เป็นประโยชน์ก็คือ อาการไอจะช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอม ซึ่งระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ กำจัดเสมหะ และใช้เป็นสัญญาณในการเตือนตัวผู้ป่วยเอง และบอกให้แพทย์ทราบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นในระบบทางเดินหายใจ













การที่จะเลือกใช้ยากลุ่มใดชนิดไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการไอ และความรุนแรงว่ามากน้อยแค่ไหน การสั่งจ่ายยาควรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ และถ้ามีปัญหาของการใช้ยาดังกล่าว ก็ปรึกษาเภสัชกรใกล้บ้านท่าน แต่สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด ในผู้ป่วยที่มีอาการไอโดยเฉพาะไอจากมีเสมหะ เพราะน้ำจัดได้ว่าเป็นยาขับเสมหะ และยาละลายเสมหะที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง ที่สำคัญก็คือ หาได้ง่าย ราคาไม่แพงอีกด้วย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
