
ท้องอืด...อาหารไม่ย่อย (ธรรมลีลา)
โดย : ศ.พญ.ศศิประภา บุญญพิสิฏฐ อายุรแพทย์ระบบทางเดินอาหาร ร.พ.ศิริราช
ถ้าเป็นบ่อย โดยเฉพาะผู้สูงอายุมักจะเป็นสัญญาณเตือนถึงอาการนำอย่างหนึ่ง ของมะเร็งในช่องท้อง!!
สังเกตไหมคะว่า น้อยคนนักที่จะไม่เคยมีอาการท้องอืดเลย โดยเฉพาะคนในเมืองหลวง แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ที่มีอาการนี้กันทุกครัวเรือน
ผู้ที่มีอาการท้องอืดจะรู้สึกปวดท้องส่วนบน ทำให้แน่นท้อง มีลมในท้องต้องเรอบ่อย ๆ บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อิ่มเร็ว หรืออาจมีอาการแน่นท้อง แม้กินอาหารเพียงเล็กน้อยและแสบบริเวณหน้าอก

1. โรคในระบบทางเดินอาหารเองได้แก่ โรคแผลในกระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารอักเสบ มะเร็งกระเพาะอาหาร พยาธิในทางเดินอาหาร อาการแสบบริเวณหน้าอก ซึ่งอาจจะเป็นอาการของโรคกรดไหลย้อนได้
2. โรคที่เกิดจากสิ่งภายนอก ได้แก่



3. โรคของทางเดินน้ำดี เช่น นิ่วในถุงน้ำดี
4. โรคของตับอ่อน
5. โรคทางร่างกายอย่างอื่น ๆ เช่น เบาหวาน โรคต่อมไทรอยด์
6. พฤติกรรมในการกิน ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการท้องอืด โดยเฉพาะอาหารรสจัด จะทำให้เยื่อบุอาหารอักเสบ การกินอาหารรีบร้อน เคี้ยวไม่ละเอียด หรือกินครั้งละมาก ๆ รวมทั้งกินอาหารที่ย่อยยาก อาหารมัน
สำหรับผู้ที่ชอบกินผักแม้จะมีเส้นใยมาก ถ้ากินมากไป อาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืดขึ้นได้ เนื่องจากร่างกายเราไม่มีน้ำย่อยเส้นใยเหล่านี้ ต้องอาศัยแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ใหญ่เป็นตัวช่วยย่อยสลาย อย่างไรก็ตามอาหารประเภทผักก็มีประโยชน์ เพราะทำให้การขับถ่ายสะดวก
เช่นเดืยวกับอาหารประเภทนมนั้นในคนแถบเอเชียจะไม่มีน้ำย่อยนม หรือถ้ามีก็ปริมาณน้อย เมื่อกินนมเข้าไปมาก อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือท้องเสีย ควรงดหรือค่อย ๆ ดื่มนมทีละน้อย เพื่อให้ร่างกายปรับตัวจนดื่มนมได้ในปริมาณที่ต้องการ แต่หากดื่มนมเปรี้ยว จะไม่มีอาการ เนื่องจากในนมเปรี้ยวจะมีการย่อยนมไปเป็นบางส่วนแล้ว

อาการท้องอืด ถ้านาน ๆ เป็นครั้งคราว จะไม่เป็นไร แต่ปัญหาที่พบบ่อยในคนที่ท้องอืด คือ โรคกระเพาะ อาจเป็นแผลในกระเพาะอาหาร หรือกระเพาะอาหารอักเสบ บางคนอาจเป็นโรคของทางเดินน้ำดี เช่น นิ่วในถุงน้ำดี หรือจากอาหารที่เรากินเข้าไป แต่ถ้าเป็นบ่อย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ มักจะเป็นสัญญาณเตือนถึงอาการนำอย่างหนึ่งของมะเร็งในช่องท้อง ร่วมด้วยอาการอื่น ๆ เช่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนังลด ซีด ซึ่งควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัด

ผู้ที่มีอาการดังนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจค้นหาสาเหตุที่แท้จริงและทำการรักษา
1. ในผู้สูงอายุ เช่น อายุเกิน 40 ปี เพิ่งจะเริ่มมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ เนื่องจากพบว่า มะเร็งของกระเพาะอาหาร หรือตับมักจะพบในคนอายุเกินกว่า 40 ปี
2. ในคนที่มีอาการท้องอืด ร่วมกับมีน้ำหนักลด
3. มีอาการซีด ถ่ายอุจจาระดำ
4. มีอาเจียนติดต่อกัน หรือกลืนอาหารไม่ได้
5. ตัวเหลือง ตาเหลือง หรือมีก้อนในท้อง
6. ปวดท้องมาก
7. ท้องอืดแน่นท้องมาก
8. การขับถ่ายอุจจาระเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยเป็น เช่น อาการท้องผูกมากขึ้น จนต้องกินยาระบายหรืออาการท้องผูกสลับท้องเดิน เป็นต้น

ถ้าในคนอายุน้อยไม่ได้มีข้อบ่งชี้ว่าเป็นโรคที่อันตราย แพทย์อาจให้ยามากิน และแนะนำวิธีปฏิบัติตัวปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกิน และนัดมาพบเพื่อดูอาการ ถ้าไม่ดีขึ้น แพทย์อาจดำเนินการสืบค้นหาสาเหตุ ที่แท้จริงต่อไป



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
