25 เคล็ดวิธีอายุยืน สุขภาพดีไปอีกน้านน...นาน (Lisa)
หลังจากง่วนสืบค้นเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์มาให้คุณผู้อ่านอยู่นานสองนาน ก็ไปพบกับข้อมูลที่น่าตกใจเรื่องหนึ่งว่าด้วยเรื่องของอายุขัยสูงสุดของมนุษย์ จากงานวิจัยกว่า 500 ชิ้น เหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องกันว่า อายุขัยที่ถูกต้องของมนุษย์ควรอยู่ 120 ปีหรือมากกว่านั้น! แต่เมื่อดูจากรูปการณ์ในปัจจุบันแล้ว แนวโน้มอายุขัยของมนุษย์เรามีแต่จะสั้นลงทุกที แล้วเราจะทำยังไงให้มีอายุยืนยาว ไม่ต้องถึงร้อยสองร้อยปีหรอก แค่ยืดไปได้อีก 10 ไปก็ถือว่ายอดแล้ว
ว่าแล้วเรามาลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้กันดู แม้จะไม่มีวันรู้ได้ว่าอายุขัยของเราจะยืนยาวขึ้นอีกกี่ปี แต่อย่างน้อย ๆ สิ่งที่เห็นผลทันตาก็คือสุขภาพดีที่ตามมาแน่นอน
1. ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
คนที่ออกกำลังอยู่เสมอมีโอกาสที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ออกกำลัง นอกจากนี้ ในงานศึกษาชิ้นหนึ่งยังพบว่า คนที่ออกกำลังน้อยกว่าปกติมีโอกาสที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงกว่ากลุ่มคนที่ออกกำลังเป็นประจำถึง 3 เท่า
2. หัวเราะเข้าไว้
การหัวเราะเป็นยาวิเศษที่ช่วยลดฮอร์โมนความเครียด และเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ การหัวเราะยังเป็นเหมือนการออกกำลังย่อม ๆ ว่ากันว่าหากหัวเราะ 100-200 ครั้งจะเท่ากับการวิ่ง หรือพายเรือ 10 นาทีเลยทีเดียว
3. เข้านอนช้าลง
อ๊ะ! ฟังให้ดีก่อน จริงอยู่ว่าการนอนน้อยอาจส่งผลเสียต่อร่างกายหลาย ๆ อย่าง แต่มีงานศึกษาทางด้านจิตเวชชิ้นหนึ่งเผยว่า ระยะเวลาในการนอนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับมนุษย์คือ 6-7 ชั่วโมงต่อวัน การนอนมากกว่า 8 ชั่วโมง หรือน้อยกว่า 4 ชั่วโมงต่อวันอาจส่งผลให้อัตราการตายเพิ่มสูงขึ้นได้
4. ขยันมีกิจกรรมบนเตียง
คู่รักที่มีกิจกรรมบนเตียงร่วมกันจะดูเด็กกว่าคู่ที่ไม่ได้ทำการบ้านด้วยกันได้ถึง 7 ปี เพราะเซ็กส์จะช่วยคลายความเครียด ทำให้เรามีความสุข และนอนหลับได้สนิทยิ่งขึ้น
5. ดื่มน้ำเยอะ ๆ
เพราะร่างกายมีน้ำอยู่ถึง 55-75 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว ดังนั้น อาการกระหายน้ำจึงเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะขาดน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยในเรื่องระบบการย่อย การดูดซึมสารอาหาร ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นช่วยขับสารพิษ และดีต่อสุขภาพโดยรวม
6. กินกระเทียม
กระเทียมได้ชื่อว่าเป็นยาปฏิชีวนะจากธรรมชาติ มีประโยชน์ในการขับพิษ บำรุงสุขภาพหัวใจและการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้ยังช่วยต่อสู้กับอาการติดเชื้อและเสริมภูมิต้านทาน อีกทั้งยังมีหลักฐานบ่งชี้ว่า กระเทียมช่วยป้องกันมะเร็งในระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย สำหรับผู้ที่ไม่ชอบกระเทียมแนะนำให้กินในรูปของอาหารเสริมที่ไม่มีกลิ่น
7.หม่ำช็อกโกแลต
สารต้านอนุมูลอิสระและฟลาโวนอยด์ในช็อกโกแลตจะช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ และลดความเสื่อมของเซลล์และเนื้อเยื่อในร่างกาย แต่แนะนำให้เป็นดาร์กช็อกโกแลตจะดีกว่า เพราะนอกจากปริมาณแคลอรี่ที่น้อยกว่าแล้ว ดาร์กช็อกโกแลตยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มากกว่าช็อกโกแลตนมถึง 2 เท่า
8. เลี่ยงอาหารที่มีกระบวนการเก็บรักษาที่ไม่ดี
โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อของโบท็อกซ์ เป็นหนึ่งในสารพิษที่ร้ายแรงที่สุดจากธรรมชาติ สารชนิดนี้เกิดจากอาหารที่เก็บรักษาไม่ดีจนก่อให้เกิดแบคทีเรียชนิดหนึ่ง พบได้ในไส้กรอก เนื้อเค็ม หรือเนื้อรมควัน และน้ำผึ้งที่มีการเก็บรักษาไม่ดี นอกจากนี้ การตายจากสารโบท็อกซ์ยังอาจเกิดขึ้นได้กับผู้ที่นำไปให้เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านความงามด้วย
9. กินผักผลไม้เยอะ ๆ
ผักผลไม้จะช่วยยับยั้งการเกิดโรคหัวใจ เส้นเลือดอุดตัน และมะเร็งบางชนิด สารอาหารในผักและผลไม้ช่วยควบคุมความดันเลือดและปริมาณคอเลสเตอรอลได้ อีกทั้งกากใยของอาหารเหล่านี้ยังส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายด้วย
10. รักษาแผลให้สะอาด
สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคหัวใจ แบคทีเรียเป็นสาเหตุของการตายที่จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ แม้แต่รอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อยก็อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ ดังนั้นอย่ามองข้ามแผลแค่แมวข่วน หรือกระดาษบาดเสียล่ะ
11. จิบชา
จะชาเขียวหรือชาดำก็มีสารต้านอนุมูลอิสระและประโยชน์เท่ากัน นักวิจัยแนะว่าการดื่มชาดำหนึ่งแก้วต่อวันช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ และช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตจากอาการหัวใจวายในผู้ที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้วได้ถึง 28 เปอร์เซ็นต์
12. ดื่มไวน์แดง
งานศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่า การดื่มไวน์แดงหนึ่งแก้วต่อวันจะช่วยป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจ และช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลและความดันเลือดได้ด้วย เป็นข้ออ้างสำหรับการดื่มที่ฟังดูดีใช่มั้ยล่ะ
13. ล้างมือบ่อย ๆ
ท้องร่วงเป็นหนึ่งในสาเหตุการตายที่พบได้มากในแต่ละปี ดังนั้น ยามใดที่ออกไปนอกบ้านก็อย่าลืมล้างมือเสียล่ะ หากไม่สะดวก เจลล้างมือ หรือทิชชูเปียกช่วยคุณได้
14. ตรวจเช็กร่างกายอยู่เสมอ
สำหรับคุณสาว ๆ หมายถึงการตรวจเช็กหน้าอกของตัวเองอยู่เป็นประจำ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดมะเร็งเต้านมในระยะที่ยากเกินจะรับมือ และบรรดาคุณผู้ชายควรสำรวจน้องชายของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อเตรียมรับมือกับมะเร็งอัณฑะที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจสุขภาพประจำปีควบคู่ไปด้วย
กินมากเกินไปคือหนึ่งในสาเหตุของความชรา และยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ และมะเร็งที่สำไส้ใหญ่ ถุงน้ำดี รังไข่ และเต้านมได้ด้วย ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งเผยว่า ในแต่ละปีมีอัตราการเกิดอาการหัวใจวายอันเนื่องมาจากโรคหัวใจ และหลอดเลือดถึงปีละ 270,000 ราย และ 280,000 ราย จากจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดมีสาเหตุมาจากความอ้วน
16. ไม่สูบบุหรี่
ทุกคนรู้ดีถึงโทษของบุหรี่ บุหรี่หนึ่งมวนอาจหมายถึงอายุขัยที่สั้นลง 6 นาที ดังนั้น ยิ่งเลิกสูบได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืดอายุคนที่อยู่รอบตัวคุณด้วย
17. รู้จักผ่อนคลาย
การผ่อนคลายช่วยลดความดันเลือด และลดความเครียดที่อาจเป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้า ทั้งนี้ เทคนิคการผ่อนคลายอย่างการเล่นโยคะ และการทำสมาธิสามารถช่วยคุณได้
18. หลีกเลี่ยงแสงแดด
การเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดดที่มากเกินไป จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนัง และยังช่วยปกป้องผิวของคุณจากฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยต่าง ๆ ที่เป็นตัวบ่งบอกถึงความร่วงโรย ดังนั้น ก่อนออกจากบ้าน อย่าลืมใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปทุกครั้ง
19. หนีไปอยู่ต่างจังหวัด
คนที่อาศัยอยู่ในแถบชนบทจะมีช่วงอายุขัยที่ยาวนานกว่าคนในเมือง และจากงานศึกษาหลายชิ้นพบว่า คนเมืองที่อาศัยอยู่ใกล้พื้นที่สีเขียวแบบเปิดโล่ง มีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนกว่าคนที่อาศัยอยู่ในย่านที่ถูกรายล้อมด้วยป่าคอนกรีต
20. สังสรรค์กับเพื่อน แต่งงาน หรือเลี้ยงสัตว์
อาจฟังดูเหลือเชื่อ แต่แหล่งข่าวที่เชื่อได้หลายแหล่งบอกตรงกันว่า สัมพันธภาพเหล่านี้สามารถช่วยป้องกันความดันโลหิตสูงที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเส้นเลือดอุดตันและหัวใจวายได้ ชีวิตแต่งงานจะช่วยยืดอายุขัยของผู้ชายไปอีก 7 ปี และ 3 ปีสำหรับผู้หญิง ส่วนสัตว์เลี้ยงโปรดจะช่วยให้คุณคลายเครียด ช่วยลดความดันโลหิต และยังช่วยให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะหัวใจวายมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นด้วย
21. มองโลกในแง่ดี
ผลการวิจัยพบว่าคนที่คิดบวกจะมีอายุยืนกว่า เนื่องจากการมองโลกในแง่ดีจะช่วยลดโอกาสในการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับคนที่มักมองโลกในแง่ร้าย
22. ปิดทีวี
การใช้เวลาที่หน้าจอสี่เหลี่ยมมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ จากงานศึกษาเมื่อปี 2010 เผยว่า กลุ่มคนที่ดูทีวีมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน มีโอกาสเสียชีวิตด้วยสาเหตุต่าง ๆ ได้มากกว่ากลุ่มที่ดูทีวีน้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อวันถึง 46 เปอร์เซ็นต์
23. ทำกิจกรรมสันทนาการเมื่อแก่ตัวลง
การทำสวน หรือช้อปปิ้งจะส่งผลดีต่อคุณในแง่ของการออกกำลัง นักวิจัยหลายคนบอกเอาไว้ว่า กุญแจสำคัญของความสุขก็คือการทำอะไรก็ได้ที่ชอบและรู้สึกดีกับตัวเอง
24. ไม่หอบงานกลับไปทำที่บ้าน
เพราะนั่นหมายถึงคุณไม่สามารถจัดการกับภาระหน้าที่ที่มีอยู่ได้ และอาจทำให้เกิดความเครียดในที่สุด คนที่เครียดจะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจได้มากกว่าคนทั่วไปถึง 20 เท่า และความเครียดยังไปบั่นทอนระบบภูมิคุ้มกันและสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายอันเป็นสาเหตุของโรคและริ้วรอยต่าง ๆ อีกด้วย
25. เลือกหมอที่วางใจได้
ว่ากันว่าผู้ป่วย 1 ใน 10 มักจะได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง แม้ว่าคนไข้ส่วนใหญ่จะไม่ตาย แต่หากถูกหามไปส่งโรงพยาบาลคุณก็มีโอกาสเป็น 1 ใน 100 ที่อาจถูกกระตุ้นให้เสียชีวิตเร็วขึ้น และการกระตุ้นเหล่านั้นมักเกิดจากอุบัติเหตุมากกว่าเจตนา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก