
คิดก่อนใช้วัคซีนป้องกัน มะเร็งปากมดลูก (ไทยรัฐ)
ถึงตอนนี้หญิงไทยหลายคนเริ่มคุ้นหูกับ "วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก"กันมากขึ้น หลังจากที่มันเข้ามาสู่สังคมไทยเมื่อปีที่แล้วด้วยการแนะนำของโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งที่ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันในราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการตรวจภายในเพื่อค้นหามะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรกที่มีบริการฟรีในระบบบริการสุขภาพที่มีอยู่แล้ว
วัคซีนที่ว่านั้นในวงการแพทย์รู้จักในชื่อ "วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV" (Human papilloma virus)แม้จะเป็นวิธีที่เหนือกว่าการตรวจภายในเพราะเป็นการป้องกันตั้งแต่สาเหตุการเกิดโรคแต่ก็มีข้อจำกัดที่ป้องกันเฉพาะการติดเชื้อไวรัส HPV (เอชพีวี)บางสายพันธุ์
จากรายงานของ "กรองทรรศน์ อัศพัตร" ในนิตยสารฉลาดซื้อ เดือนมกราคม 2550 เรื่อง "วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ใครต้องใช้ ใครต้องจ่าย"พบว่าในช่วงสำรวจเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โรงพยาบาลเอกชน 9 แห่งใช้วัคซีนยี่ห้อเดียวคือ Gardasil ของบริษัทเมิร์คหลายโรงพยาบาลละเลยข้อเท็จจริงที่สำคัญว่าวัคซีนนี้อาจใช้ไม่ได้ผลหากผู้ฉีดเคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้วเนื่องจากไวรัสเอชพีวี เป็นเชื้อที่ติดผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายมากตามสถิติกว่าร้อยละ 80 ของผู้ที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้ติดเชื้อนี้แต่ยังพบว่าโรงพยาบาลเชิญชวนให้ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แล้วมารับการฉีดวัคซีน
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังตัดสินใจว่า จะฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีนตัวนี้ดี "ฉลาดซื้อ" ให้คำแนะนำว่า






หากอยากอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับรายงานเรื่องนี้เพิ่มขึ้นติดต่อที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โทร. 0-2952-5060-2 หรือ โทร. 08-9761-9150
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
