
สัญญาณเตือนภัย สาววัยเลข 4 ไม่ควรมองข้าม (Woman & home)
ลูอิส แอทคินสัน พาเราไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาข้อมูลว่า อาการเช่นใดบ้างที่ควรรีบไปพบแพทย์ และอาการเช่นใดที่เรารับมือด้วยตัวเองได้



อาการปวดน่องนั้นเป็นอาการของโรคลิ่มเลือดอุดตัน ในหลอดเลือดดำที่ขาด ซึ่งพบได้บ่อยที่สุด แม้มันจะทำให้ขาคุณเจ็บปวด แต่ส่วนที่น่ากลัวที่สุดของโรคนี้ก็คือ ลิ่มเลือดที่ว่าอาจแตกออกและไหลที่ปอด ทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด

นอกจากขาของคุณจะปวดและบวมแล้ว มันยังร้อน (จับแล้วรู้สึกอุ่น) และเปลี่ยนสี (มักจะเป็นสีน้ำเงินหรือสีม่วง)
"ยิ่งคุณอายุมากขึ้น โอกาสที่จะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำนี้ ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นด้วย เพราะเลือดของคุณจะข้นขึ้น" เบเวอร์ลี่ย์ ฮันต์ ศาสตราจารย์ด้านโลหิตวิทยาแห่งโรงพยาบาลเซนต์โธมัส ลอนดอน กล่าว "อัตราเสี่ยงของคุณจะยิ่งพุ่งสูงขึ้นอีกเมื่อเข้าสู่วัยทอง ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลง แต่ถ้าคุณทานฮอร์โมนทดแทนเสริมด้วย อัตราเสี่ยงก็จะยิ่งเพิ่มเป็น 2 เท่า" นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ การนั่งอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ (รวมถึงการเดินทางเป็นระยะไกล ๆ) ความอ้วน หรือการผ่าตัดช่องท้อง สะโพก หรือหัวเข่าก็เป็นปัจจัยเสี่ยงเช่นกัน

โทรศัพท์เรียกรถพยาบาลทันทีถ้ารู้สึกปวดขึ้นมาโดยเฉียบพลัน "แม้ภาวจะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำอาจจะไม่มีอาการแสดงออกใด ๆ แต่อาการที่พบได้บ่อยก็คืออาการปวดขาฉับพลันร่วมกับหายใจขัด ซึ่งอาจแสดงว่าลิ่มเลือดแตกตัวและไหลไปยังปอดแล้ว"
ศาสตราจารย์ฮันท์ อธิบาย "หากคุณรู้สึกปวดแค่ที่ขา ก็อาจจะถือว่าไม่ฉุกเฉินเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ควรมองข้าม คุณจึงควรไปพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมง"
การตรวจหาลิ่มเลือดนั้นทำได้โดยการเจาะเลือด อัลตราซาวนด์ หรือการทำวีโนแกรม ซึ่งเป็นการฉีดสีเข้าไปในหลอดเลือดดำใหญ่ การรักษาประกอบด้วยการฉีดยาละลายลิ่มเลือดทันที จากนั้นจึงทาน warfarin ซึ่งเป็นยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด เพื่อไม่ให้ลิ่มเลือดไหลไปถึงปอด



กว่า 2 เปอร์เซ็นต์ของประชากรที่มีอายุมากกว่า 40 ปีต้องเผชิญกับโรคจากการเสื่อมของเส้นประสาทตานี้ ซึ่งอาจทำให้ตาบอดได้ในที่สุด

คุณอาจจะเห็นแสงรุ้งรอบหลอดไฟ และมีอาการตาลายร่วมกับอาการปวดศีรษะและคลื่นไส้อาเจียน นอกจากนี้รูม่านตาของดวงตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง ก็อาจจะขยายใหญ่ผิดปกติ แต่เนื่องจากสมองของเราจะพยายามปรับตัว ให้เข้ากับการมองเห็นที่เปลี่ยนแปลง ผู้ป่วยโรคต้อหินเรื้อรังจึงอาจสูญเสียความสามารถในการมองเห็นไปถึง 40 เปอร์เซ็นต์โดยไม่สามารถแก้ไขได้ก่อนจะรู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติ

"หากคุณสงสัยว่าตัวเองเกิดอาการต้อหินเฉียบพลันล่ะก็ รีบไปที่แผนกฉุกเฉินทันที ยิ่งคุณได้รับการรักษาเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น" เฮเลน โด พยาบาลด้านจักษุวิทยาประจำสมาคมต้อหินสากลกำชับ "จักษุแพทย์สามารถตรวจพบอาการต้อหินเรื้อรังได้ในการตรวจตาตามปกติ คุณจึงควรเข้ารับการตรวจตาเป็นประจำ"



โรคนี้เกิดจากการตีบตันหรือแตกของหลอดเลือดในสมอง เลือดจึงไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอทำให้เซลล์สมองเสียหายในที่สุด แม้คนทุกเพศทุกวัยจะมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราวมักจะถูกมองข้าม ทั้งที่มันเพิ่มความเสี่ยง ในการเกิดภาวะสมองขาดเลือดอย่างรุนแรงได้มากทีเดียว

การพูดจาไม่ชัด เช่น ลิ้นพันกัน นึกคำพูดไม่ออก พูดผิดพูดถูก หรือไม่เข้าใจคำพูดของคนอื่นนั้น ล้วนเป็นสัญญาณบอกเหตุที่ชัดเจน นอกจากนี้ ภาวะกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง (ยิ้มไม่ได้) และแขนอ่อนแรง ก็เป็นสัญญาณที่สำคัญเช่นกัน

"หากคุณพบว่าใครมีอาการของโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันหนึ่งอย่าง หรือมากกว่านั้นล่ะก็ขอให้โทรศัพท์เรียกรถพยาบาลทันที" นพ.โทนี่ รัดด์ แพทย์ที่ปรึกษาประจำโรงพยาบาลเซนต์โธมัส ลอนดอน กล่าว "การไปถึงโรงพยาบาลให้ทันท่วงทีนั้นสำคัญมาก เพราะการให้ยาละลายลิ่มเลือดต้องทำภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดอาการ และสามารถช่วยให้ผู้ป่วยบางรายฟื้นตัวได้ดีมากทีเดียว"
แม้อาการจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว คุณก็ยังควรไปที่แผนกฉุกเฉินเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยว่า เป็นเพราะภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราวหรือไม่



"ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำกว่าปกติเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัย 40 กลาง ๆ" ศาสตราจารย์นาเดียร์ฟาริด แห่งคลินิกต่อมไร้ท่อ ลอนดอน บอก

ถ้านอกจากจะอ่อนเพลียแล้วคุณยังมีความต้องการทางเพศต่ำ ผิวแห้ง น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ มึนงง ท้องผูก ซึมเศร้า และปวดศีรษะร่วมด้วย

ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจ ลองขอให้แพทย์ประจำตัวเจาะเลือดตรวจดู หากระดับฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ของคุณต่ำกว่า 2.5 ก็ถือว่าปกติ คุณอาจจะวัดระดับ T4 (ปริมาณไทร็อกซินที่ต่อมไทรอยด์ผลิต) ด้วยก็ได้



มีผู้ป่วยถึง 500,000 ราย ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนี้ โรคเบาหวาน ประเภทที่พบได้มากกว่า เมื่อร่างกายของคุณผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอนั้น มักจะเกิดกับผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปี

"อาการอ่อนเพลีย ตาลาย น้ำหนักลด และหิวน้ำบ่อยนั้น มักจะถูกว่าเป็นเพียงผลลัพธ์จากชีวิตที่วุ่นวายของเรา โดยเฉพาะในผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป จึงมักจะถูกมองข้าม" แคธี่ มูลตัน พยาบาลวิชาชีพ และผู้ให้คำแนะนำจากมูลนิธิโรคเบาหวานแห่งสหราชอาณาจักรเล่า อาการชาเจ็บแปลบ หรือแสบร้อนที่ปลายเท้านั้น เป็นสัญญาณว่าระดับกลูโคสในเลือดเพิ่มสูงขึ้น จนกระทั่งส่งผลกระทบ และทำลายปลายประสาทที่เท้า

หากคุณพบอาการใด ๆ ข้างต้น คุณควรไปพบแพทย์ประจำตัวเพื่อขอเจาะเลือด "ร้านยาบางแห่งหรือพยาบาลวิชาชีพบางราย สามารถเจาะเลือดที่ปลายนิ้วเพื่อตรวจหาโรคเบาหวานอย่างง่ายได้ แต่อาการรุนแรง เช่น อาการเจ็บแปลบหรือชาที่เท้า แสดงว่าคุณอาจจะเป็นโรคเบาหวานมาระยะหนึ่งแล้ว จึงควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด" มูลตันสรุป



ตอนนี้พบว่าอาการท้องอืดเป็นประจำ ร่วมกับปวดท้องนั้นเป็นสัญญาณบ่งชี้โรคมะเร็งรังไข่ในระยะแรกเริ่ม

หากคุณรู้สึกแน่นท้องตลอดเวลาท้องบวมและป่องอย่างเห็นได้ชัด ปวดหรืออึดอัดอุ้งเชิงกราน ทานอาหารได้น้อยและรู้สึกอิ่มอยู่ตลอดเวลา

ฌอน เคโฮ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกในระบบสืบพันธุ์สตรี ที่โรงพยาบาลจอห์น แรดคลิฟฟ์ ออกซฟอร์ดแนะนำ "คุณควรได้รับการเอกซเรย์อุ้งเชิงกรานและช่องท้อง และอาจจะทำอัลตราซาวนด์หรือเจาะเลือดเพื่อวัดระดับสารที่ชื่อว่า CA-125 อันเป็นสารที่พบในปริมาณมาก ในเลือดของผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่หลายราย ประวัติผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่หลายราย ประวัติผู้ป่วยโรคมะเร็งชนิดนี้ หรือมะเร็งทรวงอกในครอบครัวจะทำให้ความเสี่ยงของคุณสูงกว่าปกติ สรุปก็คือ คุณควรปรึกษาแพทย์หากรู้สึกกังวล"



ในผู้หญิงมักแสดงออกด้วยอาการแน่นหน้าอกและปวดขากรรไกรอาการอื่น ๆ ที่พบได้บ่อย เช่น รู้สึกเหนื่อยผิดปกติ นอนไม่หลับ และหายใจขัด ฮอร์โมนเอสโตรเจนช่วยป้องกันผู้หญิงจากโรคหัวใจ แต่ระดับของฮอร์โมนดังกล่าวจะลดลงเมื่อย่างเข้าสู่วัย 40 ปี

"อาการปวดหรืออึดอัดหน้าอก ร่วมกับอาการปวดคอ ขากรรไกรหรือหัวไหล่ ไม่ว่าจะเป็นแบบใดก็ตามก็น่าเป็นห่วงทั้งนั้น" แคธี่ รอสส์ พยาบาลโรคหัวใจจากมูลนิธิโรคหัวใจแห่งสหราชอาณาจักร บอก

หากคุณเกิดอาการที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอย่างเฉียบพลัน หรือหากมีอาการเดิมร่วมกับอาการหน้ามืดหรือคลื่นไส้ โปรดรีบโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล ผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไปทุกคน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินสภาวะของหัวใจ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Woman & home