
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
การได้อยู่ในบ้านที่มีความสวยงามตามสไตล์ที่เราชอบ สะอาดสะอ้านและปลอดภัย นับเป็นปัจจัยที่ช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี ซึ่งเว็บไซต์ health.com ได้นำเสนอข้อมูลที่บอกว่า โครงสร้างของบ้านและการตกแต่งก็สามารถช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีได้ด้วยนะคะ
อยากรู้กันไหมล่ะว่าโครงสร้างและการตกแต่งบ้านจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพอย่างไร แล้วทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้จริงหรือเปล่า? มามะ ตามมาดูกัน

ทราบไหมคะว่าสีของประตูบ้านก็มีผลต่อระดับความดันโลหิตในร่างกายของเราไม่น้อยเลยทีเดียว โดยสีที่ช่วยให้ระดับความดันโลหิตของเราอยู่ในเกณฑ์ปกติ ก็ได้แก่ สีฟ้า สีเทา และสีเขียว ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ตกแต่งประตูบ้านด้วย 3 สีนี้ เพราะนอกจากจะช่วยลดระดับความดันโลหิตแล้ว ยังจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สบายตาอีกด้วย และควรเลือกใช้สีทาบ้านที่ไม่มีสาร VOCs หรือสารอินทรีย์ระเหยง่ายเพื่อให้ปลอดภัยต่อระบบทางเดินหายใจ และสายตาของเราด้วยค่ะ

โดยปกติแล้วอุณหภูมิที่เราจะอยู่ได้อย่างสบาย ๆ ไม่อึดอัดจะอยู่ที่ประมาณ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งเราก็ควรจะทำให้บ้านอยู่ในอุณหภูมิในช่วงนี้ หรืออย่างน้อย ๆ ห้องนอนที่เรานอนก็ต้องมีอุณหภูมิประมาณนี้ เพราะอากาศที่พอดีกับอุณหภูมิของร่างกาย จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น หายใจได้เต็มปอด และหลับสบายได้ง่าย ๆ อีกทั้งอุณหภูมิที่สูงเกินไปจะเหมือนได้อยู่ในพื้นที่ที่มีความกดอากาศต่ำ ทำให้รู้สึกอึดอัดได้นั่นเอง
ดังนั้น หากในช่วงหน้าหนาวที่หนาวเกินไป ก็ควรต้องเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายด้วยการห่มผ้าหนา ๆ และใส่ถุงเท้า ถุงมือ ในกรณีที่อากาศหนาวจัด ๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ ส่วนหน้าร้อนที่ร้อนอบอ้าวมาก ๆ จะใช้วิธีเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือเปิดพัดลมก็แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ

อย่างที่บอกว่าความสะอาดภายในบ้านก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญลำดับต้น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของเรา เพราะถ้าอาศัยอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยฝุ่น และความสกปรกที่หมักหมมอยู่ตามจุดต่าง ๆ เชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียคงเข้ามาคุกคามร่างกายเราได้โดยง่าย โดยเฉพาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว และทราบไหมคะว่า 90% ของความสกปรกในบ้านนั้นมาจากเท้าทั้ง 2 ข้างของเราทุกคนนี่แหละค่ะ ที่นำทั้งฝุ่นและเชื้อโรคเข้ามาปะปนภายในบ้านด้วยการย่ำเดินไปมา
ดังนั้น คงจะดีกว่าหากเราจะป้องกันฝุ่นเข้าบ้านในระดับหนึ่งด้วยการถอดรองเท้า และเช็ดเท้ากับผ้าเช็ดเท้าก่อนเข้าบ้าน หรือจะเปลี่ยนมาใส่รองเท้าสำหรับใส่เดินภายในบ้านด้วยก็จะดีมาก เป็นการช่วยลดปริมาณฝุ่นและความสกปรกลงไปได้ถึง 60% เลยทีเดียว และที่สำคัญ หมั่นปัดกวาดเช็ดถูบ้าน รวมถึงล้างฟิลเตอร์เครื่องปรับอากาศด้วย เพื่อให้บรรยากาศภายในบ้านสะอาดสดชื่นอยู่เสมอนะจ๊ะ

นอกจากการใช้ต้นไม้ประดับภายในบ้านจะให้ความสวยงามสดชื่นแก่ผู้อยู่อาศัยแล้ว ยังสามารถเป็นเครื่องกรองอากาศชั้นเยี่ยมได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสาร VOCs หรือสารอินทรีย์ระเหยง่าย และสารฟอร์มาดีไฮด์ (formaldehyde) ที่แฝงมาในเฟอร์นิเจอร์และสีทาบ้านก็เอาอยู่ เพราะกลไกการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช จะต้องกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และผลิตออกซิเจนออกมา และในกระบวนการนี้ก็จะดูดสารพิษไปด้วยนั่นเอง
โดยต้นไม้ที่เหมาะจะนำมาไว้ในบ้านก็จะเป็นพลูด่าง ลิ้นมังกร เศรษฐีเรือนใน สาวน้อยประแป้ง ซึ่งทั้งหมดนี้จัดเป็นพืชที่ไม่ชอบแดดมาก ปลูกง่ายและมีความทนทาน

จากการศึกษาและวิจัยของมหาวิทยาลัยชิคาโกพบว่า คนที่อยู่ในบ้านที่รกและไม่เป็นระเบียบ จะมีความเครียดในระดับที่สูงกว่าคนที่อาศัยอยู่ในบ้านที่สะอาดเรียบร้อย และยังจะมีภาวะเหนื่อยล้า ไร้เรี่ยวแรง และมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (hormone cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะช่วยกระตุ้นความอยากอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้กินอาหารได้มากกว่าปกติถึง 200-1,000 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว
ดังนั้น คงดีกว่าถ้าเราจะจัดเก็บของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อะไรที่ไม่ได้ใช้หรือไม่มีประโยชน์กับเราแล้วก็บริจาค หรือเก็บทิ้งซะ และหมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ อย่าลืมว่าการทำงานบ้านจัดเป็นการออกกำลังกายที่ได้ประโยชน์คูณ 2 นะคะ อีกทั้งถ้าบ้านไม่รกไปด้วยข้าวของมากมาย ก็จะช่วยลดปริมาณฝุ่นไปได้อีกด้วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพได้แนะนำให้ปลูกผักหรือต้นไม้สีเขียวภายในบริเวณบ้านบ้าง เพราะจากการวิจัยพบว่า แค่เราปลูกผักหรือต้นไม้ใบเขียว หรือเพียงแค่การดูมันค่อย ๆ เจริญเติบโตในแต่ละวัน ก็สามารถช่วยลดความตึงเครียด ลดความดันโลหิต และลดความเสี่ยงอีกสารพัดโรคได้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องปลูกสวนผักจริงจังอะไรมากมายก็ได้ เพียงแค่ปลูกในพื้นที่เล็ก ๆ หลังบ้าน หรือปลูกในกระถางเล็ก ๆ แล้วตั้งในจุดที่สังเกตง่าย เท่านี้ก็จะช่วยทำให้บรรยากาศในบ้านสดชื่น ร่มรื่น แถมได้กินผักปลอดสารพิษอีกด้วยนะคะ

ความสุขในบ้านไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดบ้านที่ใหญ่โตโออ่า แต่เป็นการตกแต่งและสไตล์บ้านที่ตรงกับใจคนอาศัย อยู่แล้วให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวและอบอุ่นต่างหาก ซึ่งเมื่อเราอยู่ในที่ที่อยากอยู่ ก็จะสบายใจ มีความสุข และส่งผลไปถึงสุขภาพจิตและสุขภาพกายให้สมบูรณ์แข็งแรงนั่นเอง

บ้านที่มืดทึบอับแสงคงไม่ให้ความรู้สึกเบาสบายกับผู้อยู่อาศัยแน่ ๆ อีกทั้งยังจะทำให้บ้านไม่ได้รับแสงแดด และพลังธรรมชาติเพื่อช่วยกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรีย ทางที่ดีจึงควรจะออกแบบบ้านให้สามารถเปิดโล่ง เพื่อให้รับแสงแดดได้สะดวก แต่ถ้ากลัวเรื่องความร้อน ก็สามารถติดมู่ลี่ หรือม่านกั้นแสงเสริมเข้าไปอีกแรงได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ควรเปิดหน้าต่างเพื่อให้ลมโกรกไล่กลิ่นเหม็นอับ และเชื้อโรคออกจากบ้านไปด้วย พยายามให้บ้านได้รับแสงจากธรรมชาติให้มากที่สุดนะคะ เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบอกว่ามันสามารถทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และมีพลังงานไปทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยล่ะ
หากว่าที่บ้านมีห้องที่ไม่ค่อยได้เปิดใช้ หรือมีพื้นที่กว้าง ๆ ที่แทบจะเรียกว่ารกร้าง ลองปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องออกกำลังกาย หรือห้องดูหนังของครอบครัว หรือจะปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ที่คุณจะได้ใช้ประโยชน์ทำอะไรดีกว่าไหม เพราะปล่อยไว้เฉย ๆ ก็เสี่ยงจะมีฝุ่นมาเกาะจับ เหนื่อยให้ต้องทำความสะอาดกันวุ่นวาย แถมเปลืองพื้นที่โดยใช่เหตุอีกด้วย เปลี่ยนมาทำเป็นห้องที่จะช่วยให้เราได้ขยับร่างกายออกกำลังหรือเป็นที่สร้างความบันเทิงให้จิตใจดีกว่าเนอะ

ถ้าตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน แล้วต้องเจอกับประตูบ้านเก่า ๆ สีอึมครึมที่ผุพังไปไม่น้อย ก็คงสร้างความรู้สึกหดหู่อย่างช่วยไม่ได้นะคะ รวมไปถึงข้าวของในบ้านที่ไม่่ได้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานด้วยก็เช่นกัน ก็คงให้ความสะดวกสบายกับผู้อยู่อาศัยได้ไม่เต็มที่
ดังนั้น ถ้าเริ่มรู้สึกแย่กับบ้านด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ก็ลุกมาจัดการตั้งแต่การซ่อมแซมประตูหน้าบ้าน ทาสีแจ่ม ๆ อย่างสีแดง เพื่อกระตุ้นความตื่นตัวของร่างกายเข้าไปหน่อย และเปลี่ยนหรือซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ที่เกือบพัง ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน เพื่อให้บ้านกลับมาน่าอยู่ เป็นที่พักผ่อนกายใจอย่างแท้จริง

ข้าวของที่แฟนเก่าซื้อให้ หรือของที่คอยเตือนใจให้คุณกลับไปนึกถึงช่วงเวลาแย่ ๆ ของชีวิต สิ่งของเหล่านี้ถ้าอยู่ในบ้านก็คงไม่พ้นทำให้คุณรู้สึกแย่แน่นอน ดังนั้นจะเก็บไว้เป็นติ่งให้เจ็บปวดทำไมกันล่ะ เอาไปบริจาค หรือโยนทิ้งไปซะเลยถ้าคิดว่ามันไม่มีประโยชน์กับคนอื่นอีกต่อไปแล้ว บ้านไม่รกและคุณจะมีความสุขขึ้นด้วย ไม่เชื่อลองดู

เชื่อว่าทุกคนจะต้องมีมุมโปรดที่ชอบขลุกอยู่ทั้งวัน หรือเป็นมุมที่ใช้งานบ่อยที่สุดอย่างแน่นอน อย่างเช่นบางคนอาจจะชอบนอนดูทีวีในห้องรับแขก หรือคู่รักอาจจะชอบนอนกอดกันดูหนังในวันหยุด
ฉะนั้น หากรู้ว่าตัวเองใช้เวลาอยู่ในจุดใดของบ้านมากที่สุด ก็แนะนำให้เพิ่มความสุขให้ตัวเองด้วยการจัดห้องหรือมุมนั้นให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถ้าเก้าอี้ หรือโซฟาที่มีอยู่ ไม่ได้ทำให้คุณนั่งสบาย ก็เปลี่ยนเป็นโซฟาเบดมาไว้ในห้องรับแขกแทนก็ได้ เพื่อให้นั่งสบายและเหมาะกับการใช้งานมากขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการจัดแต่งบ้านที่จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคภัยต่าง ๆ และทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ง่าย ๆ เห็นไหมคะว่าความสุขและสุขภาพที่ดีเริ่มต้นได้จากที่บ้านเรานี่เอง เพราะเพียงแค่กินอิ่ม นอนอุ่นในที่ที่สุดแสนสบาย ก็จะทำให้เรามีความสุขทั้งกายใจ และเมื่อสุขภาพจิตดี โรคภัยไข้เจ็บก็จะเข้ามาคุกคามได้ยาก เหลือก็แต่ต้องเลือกกินให้ถูก และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เท่านี้สุขภาพดี ๆ ก็จะไม่หนีไปไหนแน่นอนค่ะ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย






