ทานแป้ง...แบบไม่อ้วน

อาหาร - อาหารแป้ง

ทานแป้ง...แบบไม่อ้วน  (ประชาชาติธุรกิจ)


          การลดน้ำหนักที่ถูกที่สุดและปลอดภัยที่สุด คือการทานอาหารครบทุกมื้อครบทุกหมู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสมดุลไม่ใช่การหยุดทานแป้ง หรือขยาดแป้งชนิดปฏิเสธเสียงแข็งชาตินี้จะไม่ทานแป้งอีกเลยเพราะถ้าทำเช่นนั้นโรคขาดสารอาหารจะจ่อคิวรอแม้ว่าน้ำหนักจะลดได้จริง

           การที่คุณไม่ทานแป้งเลยแล้วทานอาหารน้อยเกินไปจะส่งผลเสียเสมือนคอมพิวเตอร์เข้าสู่ Save Modeพอน้ำหนักลดลงได้ก็หนีไม่พ้นอาการโหย โหยหาแป้ง น้ำตาลและขนมหวานทำให้กลับมาอ้วนได้อีกอย่างง่ายดายและรวดเร็วแบบตั้งรับแทบไม่ทัน

           ดังนั้นถ้ากลัวอ้วนก็ต้องระมัดระวังอย่าตามใจปาก และควรเลือกทานแป้งและน้ำตาลที่มีดัชนีไกล ซีมิกต่ำดัชนีนี้เป็นตัววัดว่าอาหารพวกแป้งและน้ำตาลนี้จะมีผลต่อระดับของกลูโคสในเลือดอย่างไร หากมีค่าไกลซีมิกสูงเท่าไร ระดับกลูโคสในเลือดก็เพิ่มขึ้นเร็วเท่านั้น

           โดยปกติกลูโคสจะถือว่ามีค่าไกลซีมิกอยู่ที่ 100 ส่วนแป้งและน้ำตาลอื่นๆก็มีค่าน้อยลงลดหลั่นลงมา หากอาหารที่มีค่าไกลซีมิกต่ำกว่า 55ถือว่ามีค่าไกลซีมิกต่ำ ส่วนระดับ 55 - 70 จัดว่ามีค่าอยู่ในขั้นปานกลางและระดับที่สูงกว่า 70 จัดอยู่ในขั้นสูง ดังนั้นหากไม่อยากให้เกิดระดับกลูโคสในเลือดสูงเกินไปก็ให้เลือกทานแป้งและน้ำตาลที่มีค่าไกลซีมิกต่ำไว้ก่อน

           อาหารที่มีค่าไกลซีมิกต่ำ ๆ เช่น พวกแป้งและน้ำตาลที่อยู่ในถั่วโดยส่วนใหญ่น้ำตาลในผลไม้ ข้าวซ้อมมือพาสต้า หรือสปาเก็ตตี้ส่วนอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือพวกที่มีค่าไกลซีมิกสูงเช่น ขนมปัง (แม้แต่โฮลวีทที่มีวิตามินเยอะ) วัฟเฟิล แครกเกอร์ข้าวขัดขาว มันฝรั่ง ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งทอดหรืออบ

           กรณีศึกษาที่เห็นได้ชัดคือคนชาวพื้นเมืองของอเมริกันที่แต่เดิมทานพวกหัวเผือกหัวมัน ถั่ว ข้าวโพด อาหารที่มีเส้นใย ผลไม้ซึ่งมีค่าไกลซีมิกต่ำ แต่เมื่อเปลี่ยนมาทานอาหารแบบคนเมืองคือ อาหารจานด่วน น้ำอัดลม ขนมอบต่าง ๆ ปรากฎว่ากลายเป็นคนอ้วนไปตาม ๆ กันพร้อมทั้งมีปัญหาโรคเบาหวานมากขึ้น ดังนั้นไม่ถึงกับต้องงดหรือลดการทานแป้งและน้ำตาลเสียเลยแต่ให้เลือกพวกที่มีค่าไกลซีมิกต่ำ เป็นหลัก

           ร่างกายต้องการพลังงงานเพื่อนำมาเผาผลาญเพื่อใช้ระหว่างกันอยู่แล้วจึงไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องทานแป้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอาหารมื้อเช้าและแม้ว่าต้องการลดความอ้วน ร่างกายควรได้รับแป้งประมาณ 60 - 80กรัมต่อวัน ในขณะที่คนที่ไม่ต้องการลดน้ำหนักสามารถทานแป้งได้ถึง 300กรัมต่อวัน

           นอกจากนี้ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาทีจะช่วยให้ร่างกายดึงพลังงานสะสมที่อยู่ในรูปไขมันออกมาใช้เพราะการออกกำลังกายจะไปกระตุ้นตับอ่อนให้ผลิตฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่งคือกลูคากอน มีหน้าที่ในการรักษาระดับของกลูโคสในเลือดไม่ให้ต่ำเกินไปโดยการสลายไกลโครเจนที่สะสมไว้เป็นกลูโคสรวมไปถึงการเอาไขมันที่สะสมมาใช้ด้วย

           ไม่ต้องกลัวอ้วนอีกต่อไป แถมยังไม่ขาดสารอาหารแค่เลือกทานแป้งให้ถูกชนิดในสัดส่วนและปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย เพราะนอกจากรูปร่างที่ดีแล้ว สุขภาพที่ดีย่อมเป็นที่ปรารถนาของทุกคน

  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย 

 

  คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทานแป้ง...แบบไม่อ้วน อัปเดตล่าสุด 16 ธันวาคม 2556 เวลา 16:58:14 1,345 อ่าน
TOP
x close