x close

อาหารเสริมเพิ่มความสวย...ช่วยได้แค่ไหน?


อาหารเสริม


อาหารเสริมเพิ่มความสวย...ช่วยได้แค่ไหน? (Lisa)

          เดี๋ยวนี้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อความสวยความงามเกลื่อนท้องตลาดไปหมด แต่ละแบรนด์ก็โฆษณาสรรพคุณกันซะเลิศเลอจนผู้รู้หลายคนออกมาฟันธงว่าเวอร์เกินจริง แล้วความจริงคืออะไร? กินแล้วสวยขึ้นจริงไหม? มาไขปัญหาไปกับ ภก.เอกภพ จิระวัฒนโสภณ กันค่ะ

ALA (อัลฟาไลโปอิก แอซิด)

          เชื่อกันว่า : ตัวช่วยเพิ่มความขาวยิ่งกินคู่กับกลูต้าไธโอนยิ่งเห็นผลเร็วขึ้นสองเท่า เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด

          เรื่องจริง : อาหารเสริม ALA ดังมากในแถบยุโรปและเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังแพร่เข้ามาในบ้านเรา สารตัวนี้จัดเป็น Universal Antioxidant ช่วยบำรุงและปกป้องผิวพรรณจากสภาวะภายนอก และช่วยเพิ่มระดับของการสร้างสารกลูต้าไธโอนในร่างกายได้ (แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องกันคู่กันนะ) นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยพบว่า ALA มีสรรพคุณช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลได้ดีขึ้นและสามารถชะลอการเสื่อมของเส้นประสาทในผู้ป่วยเหวานได้ด้วย

          ข้อควรระวัง : ALA พบได้ในผักสีเขียวเข้ม ๆ และเครื่องในสัตว์ แต่มีปริมาณน้อยมาก จึงนิยมกินในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากกว่า แต่ควรเริ่มจากปริมาณน้อย ๆ ก่อน หากรับโดสสูงเกินไป อาจคลื่นไส้และอาเจียนได้

คอลลาเจน

          เชื่อกันว่า : กินคอลลาเจนแล้วผิวจะเด้ง เนียนนุ่ม และขาวใสมากขึ้น ยิ่งกินมากยิ่งดี

          เรื่องจริง : คอลลาเจนก็คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในเนื้อสัตว์ทั่วไป แต่ที่นิยมนำมาสกัดเป็นอาหารเสริมก็คือเนื้อปลา เพราะเชื่อว่าเป็นคอลลาเจนคุณภาพดี มีกรดอะมิโนคล้ายของมนุษย์มากที่สุดกินแล้วจะช่วยในเรื่องเสริมโครงสร้างความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวนุ่มขึ้นได้ แต่ไม่ได้มีสรรพคุณในเรื่องของความขาวกระจ่างใส

          ข้อควรระวัง : วันหนึ่ง ๆ ร่างกายเรารับคอลลาเจนได้เพียงประมาณวันละ 3,000-5,000 มิลลิกรัม และ อย. ก็กำหนดให้กินได้เต็มที่ไม่เกิน 10,000 มิลลิกรัมเท่านั้น การกินมากเกินไปอาจทำให้เกิดยูรีน (ของเสียจากการย่อยโปรตีน) สะสม ซึ่งเป็นอันตรายต่อไต


อาหารเสริม

แอล-คาร์นีทีน

          เชื่อกันว่า : ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ทำให้ผอมลงและสัดส่วนกระชับขึ้นได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องอดอาหารหรือออกกำลังกาย

          เรื่องจริง : แอล-คาร์นีทีนเป็นเหมือนสายพานที่ทำหน้าที่ในการลำเลียงเอากรดไขมันผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เข้าสู่ไมโทคอนเดรียของเซลล์เพื่อเผาผลาญ ซึ่งสายพานนี้จะเคลื่อนที่ได้ ก็ต่อเมื่อมีการออกกำลังกายร่วมด้วยเท่านั้น อาจจะบอกว่าแอล-คาร์นีทีนเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยให้การออกกำลังกายเห็นผลเร็วขึ้นก็ได้ แต่หากไม่มีการออกกำลังเลยต่อให้กินจนหมดขวดก็ไม่มีทางผอม

          ข้อควรระวัง : คนที่มีอาการแพ้ต่ออาหารโปรตีน เช่น ไข่ นม หรือข้าวสาลี ไม่ควรกินผลิตภัณฑ์ที่เสริมแอล-คาร์นีทีนเป็นอันขาด รวมถึงคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับและไตด้วย

กลูต้าไธโอน

          เชื่อกันว่า : กินแล้วขาว ยิ่งฉีดยิ่งขาว บางคนก็บอกว่าฉีดดีกว่ากินเพราะเห็นผลเร็วและชัดเจน

          เรื่องจริง : ปกติตับของเรามีการสร้างกลูต้าไธโอนอยู่แล้วโดยผ่านการรวมตัวของกรดอะมิโน 3 ชนิดคือ กลูตามีน ซีสเทอีน และไกลซีน มีหน้าที่กำจัดสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย เมื่อมีปริมาณกลูต้าไธโอนสูงก็จะไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ผิว ทำให้ผิวขาวขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ร่างกายเราก็สามารถดูดซึมกลูต้าไธโอนจากการกินได้เพียงส่วนน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่จะสลายกลายเป็นกรดอะมิโนไปหมด

          ข้อควรระวัง : ห้ามฉีดเด็ดขาด ! จริงอยู่ที่การฉีดจะทำให้กลูต้าไธโอนไม่ผ่านระบบย่อย และแสดงผลด้านความขาวได้เต็มที่ แต่หากร่างกายได้รับกลูต้าไธโอนเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง ตับก็จะเลิกสร้างสาวตัวนี้ ทำให้ป่วยได้ง่ายและเป็นมะเร็งได้ในที่สุด แถมยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากเทคนิคการฉีดไม่สะอาดและเสี่ยงต่อการช็อกจากแพ้การประกอบในยาฉีดด้วย


  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย 

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อาหารเสริมเพิ่มความสวย...ช่วยได้แค่ไหน? อัปเดตล่าสุด 23 มิถุนายน 2564 เวลา 16:30:43 2,859 อ่าน
TOP