ยาไอซ์ วัยรุ่นอยากผอมอยากขาวแต่อาจตายได้ (Momypedia)
ยาไอซ์ มีชื่อทางเคมีว่า เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ ที่อยู่ในรูปเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) หรือยาบ้า แต่ยาไอซ์มีความบริสุทธิ์สูงกว่ายาบ้า 4-5 เท่า ดังนั้น เมื่อเสพแล้วจึงออกฤทธิ์เร็วและแรงกว่ายาบ้า
ชื่อ ยาไอซ์ หรือ "ICE" เรียกตามลักษณะ คือ ก้อนผลึกใสเหมือนน้ำแข็ง ปัจจุบันจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาเสพติดร้ายแรงตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ยาไอซ์ที่ลักลอบขายในปัจจุบันนอกจากจะเป็นผลึกใส หรือผงสีขาวละเอียดแล้ว ยังมีสีชมพู สีฟ้า หรือเขียว รวมทั้งมีชื่อเรียกอื่น ๆ เช่น meth, crystal meth, shabu, glass, krank, tweak และ tina
ความเชื่อที่ทำให้วัยรุ่นเสพยาไอซ์
เชื่อว่าเสพยาไอซ์แล้วจะผอม หุ่นดี ช่วยลดน้ำหนัก
เชื่อว่าเสพยาไอซ์แล้วจะผิวสวย ผิวขาว
เชื่อว่าเสพยาไอซ์แล้วจะสวยหล่อ
เชื่อว่าเสพยาไอซ์แล้วจะไม่มีกลิ่นตัว
เชื่อว่าเสพยาไอซ์แล้วจะสมองดี เรียนเก่ง
เชื่อว่าเสพยาไอซ์แล้วจะมีกำลังเยอะ เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของยาไอซ์
เมื่อเสพยาไอซ์เข้าร่างกายแล้ว ยาไอซ์จะแสดงอาการและฤทธิ์ยานาน 8-24 ชั่วโมง และยังจะมีสารพิษตกค้างอยู่ในร่างกายหลายวัน วิธีการเสพยาไอซ์จะออกฤทธิ์ในเวลาที่ต่างกันดังนี้
สูดควันหรือไอระเหย ออกฤทธิ์ทันที
สูดผงยาเข้าโพรงจมูก ออกฤทธิ์ภายใน 3-5 วินาที
ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ออกฤทธิ์ภายใน 15-30 วินาที
กินโดยตรง ออกฤทธิ์ภายใน 30 นาที
อาการเมื่อเสพยาไอซ์และโทษของยาไอซ์
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ระบุว่า ความเชื่อที่ทำให้วัยรุ่นเสพยาไอซ์ไม่เป็นความจริง เพราะยาไอซ์เป็นยาเสพติดให้โทษชนิดรุนแรง แม้เสพยาไอซ์ในปริมาณน้อยก็สามารถทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ได้ โดยอาการเมื่อเสพยาไอซ์มีดังนี้
ไม่รู้สึกอยากอาหารซึ่งเป็นสาเหตุทำให้น้ำหนักลดลง แต่เมื่อเลิกเสพก็จะน้ำหนักตัวขึ้นปกติหรือเกิด "โยโย่เอฟเฟกต์"
ผิวซีด ผิวแห้ง และค่อย ๆ ดำคล้ำเมื่อเสพติดเป็นเวลานาน
อารมณ์ดี ตื่นเต้น และพูดมากหลังจากเสพยาเพียงไม่กี่นาที เริ่มย้ำคิดย้ำทำ พูดซ้ำ ๆ หวาดระแวง
รูม่านตาขยาย การมองพร่ามัว เหงื่อออกมาก วิงเวียน ริมฝีปากแห้ง
ความดันโลหิตสูงขึ้น อัตราการหายใจสูงขึ้น อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ปวดหัวอย่างรุนแรง อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้นและผิดปกติ มือและนิ้วสั่น และมีภาวะผิดปกติเสียหายอย่างถาวรของเส้นโลหิตในระยะยาว
เซ็กส์เสื่อม หมดความรู้สึกทางเพศ
อาการประสาทหลอนนำไปสู่โรคนอนไม่หลับเรื้อรัง สมองทำงานน้อยลง
หัวใจเต้นผิดจังหวะ เต้นเร็ว และอาจเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้
ภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังของผู้เสพยาไอซ์
ภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังของผู้เสพยาไอซ์
การบำบัดผู้เสพยาไอซ์
การบำบัดรักษายาไอซ์ ยังไม่มียารักษาเฉพาะ แต่จะรักษาตามอาการ ซึ่งผู้เสพยาไอซ์มักจะมีอาการซึมเศร้า บางรายรุนแรงถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย แพทย์จะใช้ยาต้านการซึมเศร้า นอกจากนี้ยังต้องฟื้นฟูโรคสมองติดยา เนื่องจากยาไอซ์เข้าไปทำลายเซลล์สมอง ซึ่งต้องใช้เวลาในการบำบัดรักษาและฟื้นฟูอย่างน้อย 3-4 เดือน และติดตามดูแลช่วยเหลือหลังผ่านการบำบัด 1 ปี เพื่อไม่ให้กลับไปเสพซ้ำอีก ผู้ที่ผ่านการบำบัดครบระยะเวลาสามารถเลิกเสพยาถาวรถึง 90%
ป้องกันยาไอซ์จากลูกอย่างไร
จากการตรวจสอบพบว่ามีการเรียกยาไอซ์ว่าเป็นยาเสพติดชั้นสูง เพราะยาไอซ์เป็นยาเสพติดที่มีราคาแพง มีความบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์เร็ว แต่ก็ไม่ใช่ยาเสพติดที่หาได้ง่ายทั่วไป การสถิติการจับกุมพบว่ายาไอซ์มักจะขายและตรวจพบได้ตามสถานบันเทิง สถานที่สังสรรค์ต่าง ๆ และพบว่ามีผู้เสพที่เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
การป้องกันลูกจากการเสพยาไอซ์หรืออยู่ในที่เสี่ยงที่จะได้รับยาไอซ์
ให้ความรู้ที่ถูกต้องกับลูกเรื่องยาไอซ์และยาเสพติดต่าง ๆ โดยใช้ข้อมูลและรูปภาพที่สามารถหาได้ตามสื่อต่าง ๆ ให้ลูกได้ดูและเห็นอันตรายที่แท้จริง
คอยติดตามข่าวสารเรื่องสิ่งเสพติดที่อาจจะเกิดขึ้น หรือระบาดเพื่อจะได้รับข้อมูลและนำไปสังเกตอาการลูกหากเกิดความสงสัยว่าลูกเสพยา หรือใช้เป็นข้อมูลอธิบายให้ลูกได้รับรู้เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกไปเสพสิ่งเสพติด
หมั่นสอบถามลูกเรื่องการเรียน และการคบเพื่อน หรือสอบถามเรื่องกลุ่มเพื่อนที่ลูกคบหาอยู่ รวมทั้งหาโอกาสพบและพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนลูกบ้างเพื่อสังเกตความผิดปกติ เช่น ให้ลูกพาเพื่อนมากินข้าว ทำกิจกรรมที่บ้าน หรือไปส่งลูกเองเมื่อลูกขอไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมนอกบ้านกับเพื่อน
คอยสังเกตความผิดปกติของลูก เช่น เก็บตัว สูบผอม ผลการเรียนตก หรือไม่ค่อยอยู่บ้าน พ่อแม่ควรสอบถามให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกเพื่อที่จะหาทางดูแล แก้ไข และป้องกันได้ทันท่วงที
สอนลูกเสมอให้รู้จักปฏิเสธและป้องกันตัว เช่น เมื่อเพื่อนชวนเสพยา ดื่มของมึนเมา สูบบุหรี่ ให้ลูกปฏิเสธ หรือไม่กินของที่รู้สึกว่ามีความผิดปกติ ซึ่งการที่ลูกจะปฏิเสธแบบนี้ได้ทั้งที่สนุกอยู่กับกลุ่มเพื่อนก็ต้องเริ่มจากพ่อแม่ให้ความรู้เรื่องสิ่งเสพติดอย่างจริงจัง หาภาพตัวอย่างหรือกรณีตัวอย่างมาให้ลูกได้เห็นภาพชัดเจน
สำหรับข้อสุดท้ายที่อยากแนะนำเพิ่มเติมคือ การตรวจสอบสิ่งของเครื่องใช้ของลูก ซึ่งพ่อแม่หลายคนไม่กล้าตรวจสอบ เพราะกลัวลูกจะว่าว่าวุ่นวายหรือไปค้นข้าวของละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่ในฐานะพ่อแม่ การตรวจสอบเพื่อป้องกันเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ทั้งนั้นขอให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพ่อแม่เองว่าจะตรวจสอบโดยที่ลูกไม่รู้ หรือจะทำความเข้าใจและตกลงกับลูกก่อนว่าการขอดูห้องนอน ขอดูของใช้ก็เพื่อช่วยกันป้องกันดูแล ไม่ใช่เพื่อการจับผิดเอาโทษ
ยาเสพติดคือสิ่งเร้าและอันตรายจากภายนอกที่เราสามารถป้องกันได้จากภายใน คือ การสร้างภูมิคุ้มกันทางใจที่เข้มแข็ง และการปกป้องดูแลของพ่อแม่ที่เริ่มได้ตั้งแต่ในบ้านนะคะ
ขอปิดท้ายด้วยคลิปรณรงค์ต่อต้านยาไอซ์ความยาวคลิปละ 30 วินาที จากนักศึกษาและเยาวชนใน "โครงการปล่อยของ ๑" การประกวดสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์รณรงค์แก้ไขปัญหาค่านิยมที่ไม่พึงประสงค์เกี่ยวกับการใช้สารเสพติดประเภทไอซ์ของเด็กและเยาวชน โดยสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เมื่อปี 2555 ไอเดียในการรณรงค์ต้านยาไอซ์เจ๋งไม่เบาเลยค่ะ
คลิป ปล่อยของ ๑ ตอน ความสุขที่ใกล้ตัว โพสต์โดย FriendsChannelTv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
คลิป ปล่อยของ ๑ ตอน ขอดำอย่างนี้ดีกว่า โพสต์โดย Panut julkasem สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
คลิป ปล่อยของ ๑ ตอน ขอดำอย่างนี้ดีกว่า โพสต์โดย Panut julkasem สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก