หลากคำถามเรื่องตา ที่หลายคนคาใจ


ดวงตา
 
คำถามตาที่คาใจ (หมอชาวบ้าน)

          มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของ "ดวงตา" อีกหลายเรื่องที่หลายคนคาใจ วันนี้ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ โครงการศูนย์ตาธรรมศาสตร์ เพื่อสุภาพตาประชาชน หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะมาขออธิบายให้รับรู้กัน


1. ตาแดงติดต่อกันอย่างไร

          โรคตาแดง ติดต่อโดยตามีการสัมผัสกับเชื้อโรค ซึ่งอาจเกิดจากมือไปสัมผัสกับเชื้อโรคแล้วมาสัมผัสโดนตา จึงติดเชื้อตาแดง โดยเชื้อโรคอาจอยู่ตามที่ต่าง ๆ ที่สกปรก ตามโต๊ะ เก้าอี้ หรือของใช้ร่วมกันที่คนเป็นตาแดงใช้มือที่สัมผัสตาแดงของตนแล้วยังไม่ได้ล้างมือไปจับไว้ตามสิ่งของต่าง ๆ ไม่ได้ติดต่อกันโดยยืนอยู่ใกล้กันหรือมองตากัน


2. เป็นตากุ้งยิงบ่อย เกิดจากอะไร

          "ตากุ้งยิง" เกิดจากมีการอุดตันของต่อมน้ำตาหรือต่อมไขมันที่หนังตา อาจจากเจอฝุ่น หรือขยี้ตา ถ้าอดนอนด้วยจะทำให้เป็นง่ายขึ้น

ดวงตา

3. เด็กตาเข เกิดจากอะไร จากนอนอ่านหนังสือหรือดูโทรทัศน์ใกล้หรือเปล่า

          ตาเข เกิดจากเป็นเองแต่กำเนิด หรือจากมีสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้ตามัว ต่อมาตาข้างนั้นไม่ได้ใช้งานจึงเข หรือจากเส้นประสาทสมองที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อตาเสื่อม ซึ่งอาจมีหรือไม่มีอาการทางสมองอื่นร่วมด้วย นอกจากนั้นอาจเกิดจากภาวะสายตาผิดปกติ เช่น สายตา สั้น ยาว เอียง แต่ไม่ได้เกิดจากการนอนอ่านหนังสือหรือดูโทรทัศน์ใกล้ ๆ


4. มียาหรือวิตามินกินบำรุงสายตาหรือไม่

          การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหลากหลายก็เพียงพอแล้ว แต่การขาดวิตามินเอจะทำให้ตาบอดตอนกลางคืนและตาแห้งได้ แต่มักจะพบในคนที่ขาดอาหารอย่างรุนแรง ซึ่งก็จะขาดสารอาหารประเภทอื่นด้วย เช่น โปรตีน หรือวิตามิน เกลือแร่อื่น ๆ ไม่ใช่พบในคนที่กินอาหารในชีวิตตามปกติ

          ในปัจจุบันโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุมีการพูดถึงกันมากขึ้นในแง่สารอาหาร เช่น ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthine) ซึ่งพบได้ที่จอประสาทตา ได้มีบรรจุอยู่ในยาบำรุงหลายชนิด อาจให้ผลป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมนี้ได้ แต่ยังไม่มีผลจากงานวิจัยขนาดใหญ่รับรองชัดเจน

          สำหรับในคนอายุเกิน 55 ปี ที่มีจอประสาทตาเสื่อมปานกลางบ้างแล้ว มีการศึกษาขนาดใหญ่ของ AREDS พบว่าการกินยาต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) และธาตุสังกะสี จะลดความรุนแรงของโรคได้บางส่วน แต่คนที่ยังไม่เป็นโรคนี้หรือเป็นน้อย ๆ ไม่มีประโยชน์จากการกินยานี้


ตาแห้ง


5. ตาแห้งทำให้ตาบอดได้หรือเปล่า

          "ตาแห้ง" ทำให้ตาบอดได้ ปกติกระจกตาดำจะมีน้ำตาเคลือบผิวอยู่ตลอดเวลา ภาวะตาแห้งก็คือน้ำตาที่เคลือบผิวกระจกตาลดน้อยลง ผิวกระจกตาดำก็จะแห้งมีอาการแสบ เคืองตา ตามัว เซลล์ชั้นผิวก็จะเสียหลุดลอกไป เกิดการอักเสบแม้กระทั่งการติดเชื้อแทรกซ้อน สุดท้ายกระจกตาก็จะบางลงจนถึงทะลุได้ ทำให้ตาเสียหรือถ้าไม่ทะลุแต่มีการอักเสบมาก แม้รักษาหายแล้วกระจกตาดำก็จะขุ่นมัว ทำให้มองเห็นไม่ชัดได้

          ดังนั้น ตาแห้งอาจต้องรักษาให้เหมาะสม กำจัดสาเหตุ ให้น้ำตาเทียมทดแทนในบางราย ก็จะช่วยลดปัญหานี้ได้ในรายที่เป็นมาก ผู้ป่วยตาแห้งส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นรุนแรงจนถึงขั้นตาบอด


6. ตาแห้งเกิดจากใช้คอมพิวเตอร์ใช่หรือไม่ จากลมพัดเข้าตาด้วยหรือเปล่า

          เวลาใช้คอมพิวเตอร์ สมาธิเราจะอยู่ที่จอคอมพิวเตอร์จนทำให้กระพริบตาลดลง ทำให้น้ำตาที่จะมาเคลือบตาลดลง เกิดอาการตาแห้งได้ ดังนั้น ควรกระพริบตาบ่อยขึ้นหรือหลับตาเพื่อให้น้ำตามาเคลือบผิวตา

          ปกติคนเราจะกระพริบตา 10 ครั้งต่อนาที การกระพริบตาจะช่วยให้น้ำตามาเคลือบผิวตาได้ดี ส่วนลมพัดเข้าตาก็ทำให้น้ำตาระเหยไปได้ง่ายทำให้มีปัญหาตาแห้ง

          สาเหตุของตาแห้งนั้นมีหลายอย่าง จากการสร้างน้ำตาลดลงน้ำตาระเหยง่าย หรือความผิดปกติในประสิทธิภาพของการกระพริบตาหรือการหลับตา เป็นต้น


  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย


คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ 




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

 


 

 
 



เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หลากคำถามเรื่องตา ที่หลายคนคาใจ อัปเดตล่าสุด 1 สิงหาคม 2556 เวลา 17:56:29 6,841 อ่าน
TOP
x close