วิธีแก้ปวดฟัน พิชิตได้ง่าย ๆ ทำแล้วสบาย ไม่ต้องทนปวด !


         วิธีแก้ปวดฟันเบื้องต้นด้วยตัวเอง หรือจะใช้สมุนไพรแก้ปวดฟันก็บรรเทาอาการปวดกวนใจให้หายได้

          อาการปวดฟัน ไม่ว่าเกิดขึ้นเมื่อไรก็สร้างความรำคาญใจให้กับคนที่ปวดได้เสมอจนต้องไปพึ่งยาแก้ปวดขนานใหญ่ ทว่าการใช้ยาแก้ปวดบางครั้งก็ไม่ได้ช่วยให้อาการดีขึ้น แล้วจะใช้วิธีไหนกันล่ะถึงจะช่วยให้ปวดฟันน้อยลงได้ วันนี้เราขอรวบรวมเอาวิธีแก้ปวดฟันง่าย ๆ ที่คุณทำได้ด้วยตัวเองมาฝาก จะได้ไม่ต้องนั่งหงุดหงิดกับอาการปวดฟันให้เสียการเสียงานกันอีกต่อไป
 

ปวดฟัน เกิดจากอะไร ?


          อาการปวดฟัน เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับฟันทุกซี่ในช่องปาก ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีสาเหตุมาจากฟันผุ โดยอาการเริ่มแรกจะคล้ายกับอาการเสียวฟันแล้วจึงลุกลามกลายเป็นอาการปวดไปที่บริเวณใต้คางและศีรษะ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อรับประทานอาหารบางชนิดที่จะเข้าไปกระตุ้นแบคทีเรียตัวการฟันผุในช่องปากให้ปล่อยกรดออกมาทำลายเนื้อฟันจนลึกเข้าไปถึงโพรงประสาทฟันด้านใน ทั้งนี้อาหารส่วนใหญ่ที่ก่อให้เกิดอาการปวดมักเป็นของร้อน ของเย็น และของหวาน

          นอกจากนี้อาการปวดฟันยังอาจเกิดขึ้นได้จากการแตกหักของฟัน ฟันคุด หรือโรคเหงือก หรือเกิดจากการที่ฟันกำลังขึ้นใหม่ได้เช่นกัน ซึ่งอาการปวดฟันไม่สามารถหายไปได้เอง หากไม่ได้รับการรักษาที่ต้นเหตุโดยทันตแพทย์ แต่ก็สามารถบรรเทาอาการให้ปวดน้อยลงได้ในช่วงระยะหนึ่งก่อนที่จะไปพบแพทย์ค่ะ

วิธีแก้ปวดฟัน


วิธีแก้ปวดฟัน บรรเทาอาการลงได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

         
          เมื่อเกิดอาการปวดฟันแล้ว สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงก็คงเป็นวิธีแก้ปวดฟันที่ได้ผลและช่วยลดอาการปวดได้อย่างเร็วที่สุดก่อนที่จะไปพบแพทย์ ซึ่งอาการปวดฟันสามารถบรรเทาลงได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

         1. ประคบร้อนบริเวณซีกแก้มที่เกิดอาการปวดฟันด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น หรือจะเป็นกระเป๋าน้ำร้อนที่ใส่น้ำอุ่นจัดก็แล้วแต่สะดวก

         2. ผสมเกลือป่น 1 ช้อนชากับน้ำต้มสุก 1 แก้วกาแฟ คนจนเกลือละลายแล้วนำมาบ้วนปากนาน 30 วินาที เกลือจะช่วยลดอาการเหงือกบวมและลดการอักเสบได้

         3. แช่ใบชาดำหรือชาเปปเปอร์มินต์กับน้ำร้อนนาน 20 นาที จากนั้นรอจนน้ำชาอุ่น ๆ แล้วนำมาบ้วนปากสักพัก ใบชาเหล่านี้จะมีสรรพคุณลดอาการอักเสบและช่วยลดอาการเหงือกบวมจากฟันผุได้

วิธีแก้ปวดฟัน
 
          4. บ้วนปากด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีความเข้มข้น 3% สักพัก ให้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุของอาการฟันผุ

          5. หากอาการปวดฟันมีลักษณะปวดตุบ ๆ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อ ให้ประคบซีกแก้มที่เกิดอาการปวดฟันด้วยน้ำแข็งประมาณ 5-10 นาที ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง ความเย็นจะช่วยลดอาการปวดและลดบวมลง

          6. นวดกดจุดบรรเทาอาการปวดฟัน ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ชั่วคราว โดยมีวิธีดังนี้

               - นวดคลึงเบา ๆ ที่แก้มบริเวณเหนือฟันที่ปวด จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ชั่วคราว

               - ใช้น้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ กดและถู หรือหรือใช้มืออีกข้างนวดบริเวณง่ามมือระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ จะทำให้อาการปวดฟันทุเลาลง

               - สำหรับคนที่ปวดบริเวณกรามล่าง ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือนวดบริเวณกระดูกขากรรไกรที่รองรับฟันล่าง ส่วนคนที่ปวดบริเวณกรามบนให้วางนิ้วหัวแม่มือ ตรงบริเวณส่วนกลางของหู แล้วลากนิ้วไปทางด้านหน้า จนกระทั่งถึงรอยบุ๋มใต้กระดูกประมาณหนึ่งนิ้วบริเวณหน้าใบหู จากนั้นกดแรง ๆ ประมาณ 10 นาที

          7. ใช้ยา โดยยาที่สามารถบรรเทาอาการปวดฟันได้มี 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่

วิธีแก้ปวดฟัน

          - ยาแก้ปวด

          ยาแก้ปวดที่สามารถบรรเทาอาการปวดได้นั้นมีหลายชนิด โดยจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการปวด ซึ่งถ้าหากอาการไม่รุนแรงมากก็สามารถใช้ยาพาราเซตามอลได้ แต่ถ้าหากปวดในระดับปานกลางก็อาจจะต้องเปลี่ยนมาใช้ยาในกลุ่มออกฤทธิ์แก้ปวดอย่างแอสไพริน กรดมีเฟนนามิก ไอบูโพรเฟน เป็นต้น

          - ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย (ยาแก้อักเสบ)

          ยาในกลุ่มนี้จะถูกใช้ในกรณีที่มีอาการเหงือกบวมหรือเป็นหนองร่วมด้วย โดยยาที่ทันตแพทย์นิยมใช้ได้แก่ ยาอะม็อกซีซิลลิน ยากอีริโทรไมซิน หรือยาร็อกซีโทรไมซิน ซึ่งการใช้ยาจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของทันแพทย์หรือเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ เพราะฤทธิ์ของยาค่อนข้างรุนแรงและมักจะมีผู้ป่วยแพ้ยา โดยเฉพาะยาอะม็อกซีซิลลิน ดังนั้นก่อนนำยาแก้อักเสบมาใช้รักษาอาการปวดควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนจะดีที่สุดค่ะ

สมุนไพรรักษาอาการปวดฟัน บรรเทาได้ด้วยของดีจากธรรมชาติ


          นอกเหนือจากวิธีแก้ปวดฟันข้างต้นแล้ว การใช้สมุนไพรบางชนิดก็สามารถบรรเทาอาการปวดฟันลงได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย โดยสมุนไพรที่สามารถบรรเทาอาการปวดฟันได้มีดังนี้ค่ะ

วิธีแก้ปวดฟัน

1. กานพลู

 


          ในวงการทันตกรรม กานพลูถือเป็นสมุนไพรที่ช่วยรักษาอาการปวดฟันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะน้ำมันจากดอกกานพลูที่มีฤทธิ์เป็นยาชาซึ่งทันตแพทย์บางคนนำมาใช้ทดแทนยาชาที่มีฤทธิ์รุนแรงเพื่อความปลอดภัยของคนไข้ อีกทั้งน้ำมันกานพลูยังช่วยฆ่าเชื้อโรคที่เกิดขึ้นภายในช่องปากอีกด้วย วิธีใช้ก็ไม่ยากเพียงนำสำลีพันปลายไม้ชุบน้ำมันกานพลูแล้วนำไปจิ้มไว้ตรงบริเวณฟันที่ปวดสักครู่ก็จะช่วยให้อาการบรรเทาลง แต่ถ้าหากไม่มีน้ำมันกานพลูละก็ สามารถนำกานพลูมาอมไว้บริเวณที่ปวด หรือนำไปทุบแช่กับเหล้าขาว จากนั้นนำสำลีชุบเหล้าขาวมาอุดไว้ที่ตรงที่ปวดได้เช่นกัน

2. ดาวเรือง


          ดอกดาวเรืองที่เราคุ้นเคยชนิดนี้มีดีมากกว่าแค่เพียงไว้ใช้ประดับให้สวยงามเท่านั้น เพราะถ้าหากนำดอกแห้ง 7-8 ดอกไปต้มกับน้ำในปริมาณที่พอเหมาะแล้วจิบทั้งวัน ก็สามารถลดอาการปวดฟันได้โดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวด อีกทั้งยังสามารถขับร้อนในร่างกายได้อีกด้วย

3. เมล็ดผักชี


          เราอาจจะเคยได้ยินว่าการบ้วนปากด้วยน้ำเกลือบ่อย ๆ ลดอาการปวดฟันได้ นั่นเป็นเรื่องจริงค่ะ แต่ถ้าบ้วนบ่อยเกินไปอาจจะได้ผลเสียจากเกลือที่ผสมกับน้ำแทน เพราะในเกลือมีโซเดียมสูง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสุขภาพ ฉะนั้นขอแนะนำให้ลองนำเมล็ดผักชีไปต้มกับน้ำ แล้วนำมาบ้วนปากบ่อย ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะได้รับโซเดียมมากเกินไป แถมยังบรรเทาอาการปวดฟันได้อีกด้วย ดีกว่าน้ำเกลือเยอะเลยเห็นไหมล่ะคะ

วิธีแก้ปวดฟัน
 

4. ผักบุ้งนา


          ผักบุ้งนาที่เรานิยมนำมารับประทานเป็นผักเคียงกับอาหารอีสานจำพวกส้มตำ ก็ช่วยบรรเทาอาการแก้ปวดฟันได้เหมือนกัน โดยการนำรากของผักบุ้งนามาตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาแต่น้ำผสมกับน้ำส้มสายชูเล็กน้อย แล้วนำมาอมไว้ประมาณ 5 นาที บ้วนออก และบ้วนปากด้วยน้ำสะอาด จะรู้สึกได้เลยล่ะว่าอาการปวดฟันลดลง
         

5. มะระ


          "หวานเป็นลม ขมเป็นยา" จะใช้คำนี้กับมะระก็คงไม่ผิด เพราะนอกจากมะระจะมีฤทธิ์เย็นช่วยขับร้อนแล้ว ก็ยังสามารถนำรากมาใช้รักษาอาการปวดฟันได้ แค่เพียงนำรากสดมาตำให้พอแหลกแล้วนำมาพอกบริเวณซี่ฟันที่ปวด ใช้ลิ้นกดไว้สักครู่ใหญ่ จากนั้นคายออก อาการปวดฟันที่กวนใจก็จะบรรเทาลงค่ะ

วิธีแก้ปวดฟัน
         

6. ว่านหางจระเข้


          ว่านหางจระเข้ สมุนไพรครอบจักรวาลที่สามารถรักษาอาการได้สารพัด ไม่เพียงแต่ช่วยสมานแผล หรือดับร้อนเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถฆ่าเชื้อโรคและสลายพิษของเชื้อโรคได้ จึงไม่แปลกถ้าหากจะถูกนำมาใช้รักษาอาการปวดฟันเนื่องจากฟันผุ เพียงนำว่านหางจระเข้มาล้างยางออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เหน็บไว้บริเวณซอกฟันซี่ที่ปวด หรือจะนำสำลีพันปลายไม้จุ่มน้ำวุ้นของว่านหางจระเข้มาป้ายบริเวณที่ปวดก็สามารถบรรเทาอาการปวดได้ชั่วคราว จะได้ไม่ต้องทรมานก่อนที่จะไปพบทันตแพทย์ไงล่ะ

7. น้ำมันกระเทียม


          นอกจากกระเทียมสดจะมีประโยชน์มากมายแล้ว น้ำมันกระเทียมก็ยังช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้ชั่วคราวอีกด้วย แค่เพียงนำสำลีชุบกับน้ำมันกระเทียมแล้วทาบริเวณที่ปวดฟัน ทิ้งเอาไว้สักครู่อาการก็จะลดลง แต่วิธีนี้จะช่วยบรรเทาอาการได้เพียงชั่วคราวเท่านั้นนะ

วิธีแก้ปวดฟัน

8. ใบชา


          ใบชามีคุณสมบัติที่ไม่ควรมองข้ามนั่นก็คือช่วยลดการอักเสบและลดอาการเหงือกบวม จึงเหมาะจะนำมาใช้บรรเทาอาการปวดฟันอย่างยิ่ง เพียงนำใบชาแห้งไปแช่ในน้ำร้อนประมาณ 20 นาที แล้วรอจนกว่าน้ำชาจะเริ่มอุ่น จากนั้นนำมาบ้วนปากบ่อย ๆ จะช่วยให้ปวดฟันลดน้อยลง แต่อย่าลืมบ้วนน้ำสะอาดตามนะ เพราะน้ำชาอาจทำให้เกิดคราบหินปูนได้

9. เมล็ดกุยช่าย


          ปิดท้ายกันด้วยผลิตผลจากพืชผักที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างกุยช่าย ซึ่งต้องขอบอกว่าเมล็ดที่มาจากต้นกุยช่ายสามารถบรรเทาอาการปวดฟันจากฟันผุได้ โดยในแพทย์แผนจีนจะนำเมล็ดกุยช่ายมาคั่วให้เกรียมดำ แล้วนำมาทุบให้แหลก นำไปละลายในน้ำมันยาง นำสำลีชุบน้ำมันยางที่ผสมกับเมล็ดกุยช่ายบดมาอุดบริเวณที่ปวดฟันจากฟันผุ ทิ้งไว้ข้ามคืนก็จะบรรเทาอาการปวดฟันและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุได้ค่ะ

10. ข่อย


          ใช้กิ่งสดของข่อยมาหั่นและต้มในน้ำเกลือ เคี่ยวให้งวดจนเหลือน้ำครึ่งเดียว และใช้น้ำต้มข่อยบ้วนปากเช้า-เย็น ข่อยจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ลดอาการปวดฟันได้อีกทาง

วิธีป้องกันอาการปวดฟัน


วิธีแก้ปวดฟัน

          สาเหตุของอาการปวดฟันส่วนใหญ่มักเกิดจากอาการฟันผุ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ฟันผุ เราก็ควรรักษาสุขภาพของฟันให้ดี โดยแปรงฟันให้ถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันในส่วนที่แปรงสีฟันเข้าไปไม่ถึง นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แข็งหรือร้อนจัด เย็นจัด เพื่อรักษาไม่ให้เคลือบฟันผุกร่อน รวมทั้งอย่าลืมไปตรวจเช็กสุขภาพฟันอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้งเป็นประจำด้วย

       
   ถึงแม้ว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้ แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าวิธีดีที่สุดในการรักษาอาการปวดฟันก็คือการไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้อง เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้อาจจะทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง จนสุดท้ายลุกลามไปยังฟันซี่อื่น ๆ และอาจต้องใช้เวลารักษามากกว่าเดิม อย่ามัวแต่กลัวทันตแพทย์กันเลยดีกว่า ไม่อย่างนั้นผลที่ได้อาจไม่คุ้มกับที่เสียไปนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดฟัน



ขอบคุณข้อมูลจาก : หมอชาวบ้าน, ชีวจิต, โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ, Reader\'s digest

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิธีแก้ปวดฟัน พิชิตได้ง่าย ๆ ทำแล้วสบาย ไม่ต้องทนปวด ! อัปเดตล่าสุด 24 ตุลาคม 2566 เวลา 10:21:41 1,809,236 อ่าน
TOP
x close