เมนูต้านหวัดหากินได้ไม่ยากเลย (Lisa)
"อาการไข้ในช่วงอากาศเปลี่ยน คนรุ่นแม่เขาเรียกว่าไข้หัวลม ตามหลักการแพทย์แผนไทยก็คือเกิดจากการที่ธาตุทั้งสี่ในร่างกายไม่สมดุล ดังนั้น การกินอาหารซึ่งเป็นผลิตผลทางธรรมชาติของธาตุไฟ ลม น้ำ และดินก็จะช่วยปรับธาตุ ทำให้อาหารกลายเป็นยา"
โดยอาหารต้านไข้หัวลมตำรับไทยที่มักถูกยกขึ้นมากล่าวถึงบ่อย ๆ มีอยู่สองอย่างก็คือ แกงส้มดอกแค และเมี่ยงคำ เพราะเป็นเมนูที่ครบถ้วนที่สุดในการบำรุงธาตุในช่วงอากาศเปลี่ยน
แกงส้มดอกแค
นอกจากเครื่องแกงที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรต้านหวัดหลายชนิดแล้ว ด้วยรสชาติที่เผ็ดนำ เปรี้ยวตาม จึงบำรุงธาตุลมและธาตุน้ำได้เป็นอย่างดี ส่วนดอกแคก็คืออาหารบำรุงธาตุไฟนั่นเอง สามธาตุนี้เป็นธาตุเริ่มต้นของการเจ็บป่วย ถ้าป้องกันไว้ได้โอกาสที่ธาตุดินจะถูกกระทบก็มีน้อยมาก
เมี่ยงคำ
อาหารชนิดนี้มีคุณสมบัติในการบำรุงรักษาธาตุทั้ง 4 เพื่อให้สมดุลกัน หัวหอม ขิง และพริกจะช่วยบำรุงธาตุลม มะนาวและใบชะพลูบำรุงรักษาธาตุน้ำ เปลือกของมะนาวบำรุงรักษาธาตุไฟ ส่วนธาตุดินก็ได้จากน้ำอ้อย มะพร้าว ถั่วลิสง และกุ้งแห้ง
จานเด็ดต้องเผ็ดร้อน
ช่วงฤดูฝนแบบนี้ต้องกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต และทำให้ร่างกายอบอุ่นด้วยรสชาติเผ็ด ๆ ของอาหารบำรุงธาตุลม และแม้เราจะเป็นหวัดไปแล้ว อาหารรสชาติเผ็ดร้อนก็จะช่วยให้เราหายใจได้โล่งขึ้น ซึ่งความเผ็ดร้อนนั้นนอกจากได้จากพริกแล้ว ยังมีพริกไทย กระเทียม หัวหอม ขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ กระชาย ใบกะเพรา และอีกมากมาย
Note : ในทางวิทยาศาสตร์ก็มีการวิจัยรับรองว่า "แคปไซซิน" ซึ่งเป็นตัวการของรสชาติเผ็ดร้อนในพริกและพริกไทย มีคุณสมบัติช่วยลดน้ำมูก หรือลดปริมาณสารที่ขัดขวางระบบการหายใจ ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการไอ ถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของตัวยาหลาย ๆ ชนิดเลยทีเดียว
เสริมทัพต้านหวัดด้วยของเปรี้ยว ๆ
ขณะบำรุงธาตุลมให้แข็งแรง ธาตุต่อมาที่ต้องใส่ใจก็คือธาตุน้ำ ซึ่งก็คืออาหารรสเปรี้ยว เพื่อให้ธาตุน้ำในร่างกายสมดุลกับธาตุน้ำภายนอกที่มีมากขึ้น ผักและผลไม้รสเปรี้ยวที่คุณสามารถหาได้ทั่วไปก็คือ มะนาว มะกอก มะม่วง มะขาม มะเขือเทศ ส้ม สับปะรด เป็นต้น
Note ! ผักและผลไม้รสเปรี้ยว ๆ จะอุดมไปด้วยสารสำคัญอย่าง "วิตามินซี" ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยบรรเทาอาการน้ำมูกไหล แม้จะไม่ใช่ช่วงที่เราป่วยหรือเปลี่ยนฤดูกาลก็ควรกินให้เป็นปกตินิสัย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค ให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก