
ขนมหวานไทย ๆ เลือกกินอะไรดีนะ ! (Lisa)
ขนมไทย ๆ มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าพวกขนม Junk Food แน่ แต่แคลอรีก็ไม่น้อยเหมือนกันในปริมาณ 100 กรัมเท่า ๆ กัน มาดูซิว่าอะไรน่ากลัวที่สุด


ทำมาจากถั่วเขียวกวนกับกะทิและน้ำตาล จากนั้น นำมาชุบไข่ และต้มในน้ำเชื่อม จึงมีโปรตีนจากถั่วประมาณ 10 กรัม มีแคลเซียม 116 มิลลิกรัม และมีฟอสฟอรัสถึง 210 มิลลิกรัม ถ้าอยากกินมาก ๆ เม็ดสองเม็ดก็พอไหว เพราะหนึ่งเม็ดหนักแค่ประมาณ 10 กรัมเท่านั้น

ทำจากถั่วเขียวกวนคล้าย ๆ กัน แต่เปลี่ยนจากชุบไข่มาเป็นชุบวุ้นใส ๆ แทน พลังงานก็เลยหดหาย แต่คุณค่าทางโภชนาการจากถั่วยังคงอยู่ แต่ก็ควรระวังเรื่อง "สี" สักหน่อย เลือกกินลูกที่สีอ่อน ๆ ไม่ค่อยฉูดฉาด หรือใช้สีจากธรรมชาติจะดีกว่า


แม้จะมีวิตามินเอถึงประมาณ 307 RE และฟอสฟอรัสสูงถึง 205 มิลลิกรัม แต่พลังงานก็สูงปรี้ด และคอเลสเตอรอลก็พุ่งได้ง่าย ๆ เพราะทำจากไข่แดงล้วน ๆ

ในบรรดาขนมหวานตระกูล "ทอง" ทองหยอดเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะ 100 กรัม มีประมาณ 15 ลูก หรือก็คือให้พลังงานประมาณ 20 Kcal ต่อลูก ดังนั้น หากกินสัก 2-3 ลูก ให้พอหายอยากก็โอเค


ขนมขึ้นชื่อของภาคใต้ชนิดนี้ทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมน้ำผึ้ง ใน 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรตถึง 70.3 กรัม แต่ก็มีวิตามินบี 1 บี 2 และไนอะซิน 0.13, 2.09 และ 2.0 มิลลิกรัมตามลำดับ

100 กรัมก็คือประมาณ 1 ถ้วยเล็ก ๆ อร่อยครบรสทั้งหวานมัน เค็ม แต่พลังงานไม่พุ่งปรี๊ดอย่างที่คิด จะเพิ่มคุณค่าทางอาหารด้วยการใส่เผือกต้ม ก็อร่อยไปอีกแบบ


ข้าวเหนียวมูนหวานมันโปะด้วยสังขยาหวาน ๆ พลังงานจะสูงก็ไม่แปลก แต่ที่น่ากังวลก็คือโซเดียมที่สูงถึง 315 มิลลิกรัม กินบ่อย ๆ ความดันโลหิตสูงอาจมาเยือนได้

ถึงจะให้พลังงานมากกว่านิดหน่อย แต่เปลี่ยนจากข้าวเหนียวมาเป็นฟักทองนึ่ง ยังไงก็เฮลตี้กว่า เพราะฟักทองอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระนั่นเอง





ขอขอบคุณข้อมูลจาก
