
เรื่องใกล้หัวใจที่คุณ (ต้อง) รู้ (ชีวจิต คู่มือรักษา 3 โรคยอดฮิต เบาหวาน ความดัน หัวใจ)
โดย ธัญนที หยกสกุล
ปัจจุบันโรคหัวใจถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตสูงสุดในกลุ่มประชากรทางซีกโลกตะวันตก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ นับว่าเป็นภัยที่น่ากลัวสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เรียกว่าไม่ต้องอายุมาก คุณก็มีสิทธิ์เป็นโรคหัวใจได้
สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าโรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่สาม
สอดคล้องกับข้อมูลจาก นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ที่เคยกล่าวว่า ในแต่ละปีมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 17,000 คน และยังตรงกับข้อมูลของสมาพันธ์โรคหัวใจในปี พ.ศ. 2555 ที่ออกมาเปิดเผยสถานการณ์โรคหัวใจและหลอดเลือดทั่วโลกว่า มีประชากรเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจสูงถึงปีละ 17.3 ล้านคน และคาดว่าในปี พ.ศ. 2573 จะเพิ่มขึ้นอีก 23 ล้านคนทั่วโลก
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจมาจากวิถีชีวิตอันเร่งรีบ การโหมงานหนัก การแบกรับความเครียดมหาศาล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนกดดันให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น และนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจโดยไม่รู้ตัว
หนังสือ โรคของหัวใจและหลอดเลือด ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงพวงทอง ไกรพิบูลย์ สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ อธิบายว่า "คนที่มีปัญหาทางอารมณ์และจิตใจจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ง่ายขึ้น เนื่องจากอารมณ์ของมนุษย์มีการเชื่อมโยงกับสมองส่วนไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ และความดันโลหิต"
"เมื่อใดก็ตามที่เราอารมณ์ไม่ดีหรือมีความเครียดสูง สมองจะกระตุ้นให้ความดันโลหิตซึ่งเป็นแรงดันเลือดที่เกิดจากการบีบและคลายตัวของหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักกว่าปกติ จนก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตามมา"
ในความเป็นจริงยังมีคนอีกเป็นจำนวนไม่น้อยที่ไม่ทราบความหมายและอาการของโรคหัวใจ ดังนั้น เราจึงควรมาทำความรู้จักกับโรคนี้กันดูสักหน่อย จะได้ป้องกันปัญหาปวดใจก่อนวัยอันควร


โรคหัวใจเป็นคำกว้าง ๆ ที่มีความหมายครอบคลุมโรคภาวะ และอาการหลายอย่างที่เกี่ยวกับหัวใจ รวมทั้งความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจ ลิ้นหัวใจ และตัวควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจให้สม่ำเสมอ
โรคหัวใจนั้นอาจแบ่งได้หลายหลายกลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มจะแสดงอาการของโรคแตกต่างกันไป
ดังนั้นมาลองเช็กกันดูว่า เราเข้าข่ายเสี่ยงต่อโรคหัวใจชนิดใดบ้าง

ถือเป็นอาการแรกของโรคหัวใจที่ปรากฏอย่างชัดเจนมีชื่อทางการแพทย์ว่า Heart Attack หรืออีกชื่อหนึ่งคือโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย (Myocardial Infarction) เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดเส้นใดเส้นหนึ่งที่ไปเลี้ยงหัวใจ
สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเกิดแผลในหลอดเลือดร่างกาย จึงสร้างลิ่มเลือดไปอุดรอยแผลนั้น หรือบางครั้งอาจเกิดจากการอักเสบของหลอดเลือดแดง การตีบของหลอดเลือด หรือการหดตัวอย่างเฉียบพลัน รวมถึงการติดสิ่งเสพติดก็ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการหัวใจวายได้
อาการบ่งชี้





โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Ischemic Heart Disease : IHD หรือ Coronary Heart Disease : CHD) เกิดจากผนังหลอดเลือดแดงแข็งและหนาตัว เนื่องจากมีไขมันเกาะอยู่ภายในผนังหลอดเลือด เรียกว่า "ตะกรันท่อหลอดเลือด" (Artherosclerotic Plaque) ค่อย ๆ หนาขึ้นทีละน้อย ช่องทางเดินเลือดจึงแคบลง ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงหัวใจได้เพียงพอ
ตะกรันที่ว่านี้อาจเกิดจกาหลายสาเหตุ เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดสูง (ส่วนใหญ่มักเกิดในผู้ป่วยเบาหวาน) ระดับไขมันแอลดีแอล (LDL : Low-density Lipoprotein) ในเลือดสูง ความดันเลือดสูง สูบบุหรี่จัด เป็นต้น
มีรายงานว่า ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบจะมีความเสี่ยงต่ออาการเจ็บหน้าอกรุนแรง เป็นลม และเสียชีวิตทันทีมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์
อาการบ่งชี้






ตารางแสดงปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค
ปัจจัยเสี่ยง | ความเสี่ยงเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (เปอร์เซ็นต์) |
ป่วยเป็นเบาหวาน | 30 |
สูบบุหรี่ | 30 |
มีไขมันในเลือดสูง | 20 |
มีความดันโลหิตสูง | 10 |
พฤติกรรมทำร้ายสุขภาพอื่น ๆ | 5 |
พันธุกรรม | 5 |


ในภาวะปกติ หัวใจจะเต้นด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอ ประมาณ 60-100 ครั้งต่อนาที แต่หากมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงขึ้นเป็น 150-250 ครั้งต่อนาที
สาเหตุส่วนใหญ่มาจากกล้ามเนื้อหัวใจที่ทำหน้าที่กำหนดจังหวะการเต้นถูกทำลาย ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น หัวใจผิดปกติตั้งแต่กำเนิด หรือป่วยเป็นโรคหัวใจชนิดอื่น ๆ เป็นทุนเดิม เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ เป็นต้น
นอกจากนี้ การได้รับสารบางอย่าง เช่น คาเฟอีน ยาสูบ แอลกอฮอล์ ยาลดน้ำหนัก ยาแก้ไอ ยาแก้หวัด ยาบ้า โคเคน ในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจส่งผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะได้เช่นกัน
อาการบ่งชี้





คนส่วนใหญ่มักคิดว่าหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวายคือภาวะหัวใจหยุดเต้น ซึ่งไม่ใช่ความจริงทั้งหมด จริง ๆ แล้วคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้เพียงพอ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น




อาการบ่งชี้





เห็นไหมล่ะว่า โรคหัวใจนั้นอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คุณคิด เพราะฉะนั้นเมื่อรักคนอื่นแล้ว อย่าลืมหันมารักหัวใจตัวเองกันให้เยอะ ๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดใจภายหลัง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

คู่มือรักษา 3 โรคยอดฮิต เบาหวาน ความดัน หัวใจ