ถ้าเราไม่ชอบกินปลา ก็ใช่ว่าจะหากรดไขมันโอเมก้า 3 จากแหล่งอื่นไม่ได้นะ ลองมาทำความรู้จักกับอาหารเหล่านี้ก่อนเลย
กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยพัฒนาสมองและการจดจำ
แถมยังมีประโยชน์ต่อระบบประสาท และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายด้วยนั้น
คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่าคงหากินได้จากปลาอย่างเดียว อย่างปลาทู ปลาแซลมอน
ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล ใช่ไหมล่ะคะ
อ๊ะ...แต่ถ้าเราไม่ชอบกินปลา
หรือเป็นคนแพ้อาหารทะเลล่ะ ก็ใช่ว่าจะหาอาหารที่มีโอเมก้าสูงจากแหล่งอื่นไม่ได้นะ ลองมาทำความรู้จักกับอาหารเหล่านี้
ที่จะช่วยเติมโอเมก้า 3 ให้ร่างกายของคุณ
1. น้ำมันคาโนลา
เคยได้ยินชื่อว่าเป็นน้ำมันพืชเพื่อสุขภาพ
แล้วรู้ไหมว่าน้ำมันชนิดนี้มีประโยชน์อย่างไร ? ขอบอกเลยว่า
ถ้าถามหากรดไขมันโอเมก้า 3 แล้วละก็ ต้องนึกถึงน้ำมันคาโนลาไว้เลยค่ะ
เพราะน้ำมันชนิดนี้มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่สูงมาก ๆ คือมีโอเมก้า 3
ชนิดอัลฟาไลโนเลนิก หรือ ALA ประมาณ 1,300 มิลลิกรัม ต่อ 1 ช้อนโต๊ะ
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสถาบันทางการแพทย์จะแนะนำให้ผู้ชายรับประทานกรดไขมันโอเมก้า 3
วันละอย่างน้อย 1,100 มิลลิกรัม ส่วนผู้หญิงวันละ 1,600 มิลลิกรัม
แต่แค่น้ำมันคาโนลา 1 ช้อนโต๊ะ ก็ให้ ALA สูงเกือบเท่าความต้องการใน 1
วันเลยเห็นไหม
นอกจากนี้
น้ำมันคาโนลายังเหมาะแก่การนำมาประกอบอาหารด้วยล่ะ
เพราะมีจุดเกิดควันสูงมากถึง 468 องศาฟาเรนไฮต์ (242.2 องศาเซลเซียส)
ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าน้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูงจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการได้รับสารก่อมะเร็งที่มีในควันน้ำมันเมื่อทำอาหารประเภทผัดหรือทอด
2. เมล็กแฟลกซ์ หรือน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์
ในเมล็ดแฟลกซ์ หรือเมล็ดลินิน ก็มีกรดอัลฟาไลโนเลนิก หรือ ALA
อยู่เหมือนกัน เมื่อกินเข้าไปก็จะเปลี่ยนเป็นชนิด DHA และ EPA
เพียงแค่กินเมล็ดแฟลกซ์ 2 ช้อนโต๊ะ ก็จะได้รับ ALA สูงถึง 3,800
มิลลิกรัมแล้ว โดยอาจจะโรยกับขนมปัง
หรือผสมในสมูทตี้แก้วอร่อยของคุณก็ได้นะ
3. ถั่วแระ
ถั่วแระครึ่งถ้วยที่นำไปต้มจะให้โอเมก้า 3 ถึง 300 มิลลิกรัม
แถมยังมีโปรตีน 11 กรัม ไฟเบอร์ 9 กรัม ถือเป็นของว่างชั้นเลิศ กินแล้วได้ประโยชน์ ไม่อ้วนชัวร์
4. วอลนัท
ถั่วเปลือกแข็งอย่างวอลนัท
นอกจากจะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพหัวใจแล้ว วอลนัทในปริมาณ 30
กรัม ยังให้โอเมก้า 3 ถึง 2,600 มิลลิกรัมเลยนะ
ซึ่งถ้าไม่อยากกินวอลนัทเป็นของกินเล่น ก็ลองนำวอลนัทไปผัดกับอาหาร
หรือใช้น้ำมันวอลนัททำอาหารแทนก็เข้าท่าอยู่
5. ผลิตภัณฑ์จากนม
เชื่อไหมว่า ในน้ำนมวัว แพะ แกะ ที่ผู้เลี้ยงให้กินหญ้าตามธรรมชาติ
จะมีกรดโอเมก้า 3 มากกว่าวัว แพะ แกะ ที่เลี้ยงด้วยอาหารสังเคราะห์ ถึง 100
มิลลิกรัม ต่อ 240 มิลลิลิตร
ดังนั้น เวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมทั้งหลายลองอ่านฉลากดูหน่อยว่ามีกรดโอเมก้า 3 อยู่มากน้อยแค่ไหน
6. ผักโขม
ผักโขมแสนอร่อยที่มีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ
โอเมก้า 3 ด้วยล่ะ เพียงแค่ครึ่งถ้วยก็ให้โอเมก้า 3 ประมาณ 100
มิลลิกรัมแล้ว นำมาต้มกินเป็นประจำ รับรองสมองสดใส ความจำเยี่ยม !
7. ถั่วเหลือง
แหล่งโปรตีนชั้นเลิศอย่างถั่วเหลืองก็มีกรดไขมันโอเมก้า 3 อยู่เหมือนกันนะ
เพราะฉะนั้นเลือกกินอาหารที่ทำจากถั่วเหลืองอย่างเต้าหู้
ซึ่งเต้าหู้ประมาณ 120 กรัม จะให้โอเมก้า 3 ถึง 300 มิลลิกรัมเลย
หรือจะดื่มนมถั่วเหลืองก็ได้ ดื่มเพียงวันละ 1 แก้ว
ร่างกายก็ได้รับปริมาณโอเมก้า 3 ที่เพียงพอแล้วค่ะ
อ่านจบแล้วก็ลองหาอาหารเหล่านี้มาเติมโอเมก้า 3 ให้ร่างกายกันนะ