7 วิธีลดน้ำตาล ลดโรคภัย (สุขกายสบายใจ) แม้รสหวานจะช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้กับอาหาร แต่ถ้าบริโภคในปริมาณมากจะทำให้เกิดโรคอ้วน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เป็นของแถมตามมาได้ ดังนั้นวิธีง่ายที่สุดและเห็นผลในการลดน้ำหนักและพลังงานคือกินน้ำตาลโดยลดปริมาณน้ำตาลลงทีละน้อย เช่น ลดปริมาณน้ำตาลในชา กาแฟ หรืออาจใช้น้ำตาลเทียม เลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง ด้วยวิธีเหล่านี้ ![](//img.kapook.com/image/icon/women_icon/28.gif)
1. อย่าหลงคารมคำโฆษณาว่าเป็น "น้ำตาลสุขภาพ" เพราะไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลชนิดใดก็ล้วนให้พลังงานเท่ากัน
![](//img.kapook.com/image/icon/women_icon/28.gif)
2. รับประทานผลไม้แทนขนมหวาน เพราะผลไม้มีวิตามิน แร่ธาตุ และมีเส้นใยอาหารที่ช่วยลด หรือชะลอการดูดซึมน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอ้วน แต่ควรจำกัดปริมาณเพียงวันละ 2 อุ้งมือ เพราะในผลไม้ก็มีน้ำตาลอยู่ด้วย และเลี่ยงดื่มน้ำผลไม้ เพราะจะได้รับน้ำตาลมากเกินความต้องการ
![](//img.kapook.com/image/icon/women_icon/28.gif)
3. ลดหรือกำจัดคาร์โบไฮเดรตแปรรูป จำพวกขนมปังและเบเกอรี ซึ่งจะเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลในเลือดได้เร็วพอ ๆ กับการกินกลูโคส นอกจากนี้คาร์โบไฮเดรตที่เหลือใช้จะถูกเก็บสะสมเป็นไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นไขมันที่ร่างกายเก็บเป็นเสบียง
![](//img.kapook.com/image/icon/women_icon/28.gif)
4. ระวังของว่างไร้ไขมัน จากความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า ถ้าอาหารไร้ไขมันจะไม่ทำให้อ้วน ความจริงอาหารไร้ไขมันยังมีน้ำตาลและปริมาณแคลอรีสูง
![](//img.kapook.com/image/icon/women_icon/28.gif)
5. อ่านฉลากอาหารเพื่อค้นหาน้ำตาลและไขมันไม่ดี สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน อาจใช้สารความหวานชนิดที่ให้พลังงานต่ำ ซึ่งมักระบุไว้บนฉลากว่า "ปราศจากน้ำตาล" หรือ "sugar free"
![](//img.kapook.com/image/icon/women_icon/28.gif)
6. ระวังการใช้สารให้ความหวานเทียม หรือสารทดแทนความหวานมากเกินควร เพราะอาจทำให้ร่างกายมีความอยากน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตมากขึ้น
![](//img.kapook.com/image/icon/women_icon/28.gif)
7. คำนวณปริมาณน้ำตาล โดยอ่านข้อมูลโภชนาการที่แสดงปริมาณน้ำตาลทั้งหมดเป็นกรัมแล้วหารด้วย 4 จะได้เท่ากับจำนวนน้ำตาลที่กินเข้าไปเป็นช้อนชา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก