ปลุกพลังบวกให้กาย-ใจ แจ่มใสทุกวัน (สสส.)
โดย ภาวิณี เทพคำราม Team Content www.thaihealth.or.th
วันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้นำเคล็ดลับในการฟื้นฟูพลังบวกให้กับชีวิต ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจให้กลับมาสดชื่นแจ่มใสในทุก ๆ วัน เพื่อการทำงานอย่างมีความสุขมาฝากกัน
"โค้ชสิริลักษณ์ ตันศิริ" โค้ชด้านการพัฒนาตนเอง และนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ฝากสวัสดีปีใหม่ไทยถึงผู้อ่านทุกท่าน ก่อนจะเล่าว่า คนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการทำงาน ดังนั้นเราทุกคนจึงต้องทำงานอย่างมีความสุขและสนุกสนาน เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกเบื่องาน หรือซึมเศร้า นั่นก็เท่ากับว่า "คุณภาพชีวิตของคนเรากำลังแย่ลง"
โค้ชสิริลักษณ์ มีคำแนะนำสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศและคนทำงานด้วยว่า การสร้างพลังบวกในการทำงานเพื่อให้เกิดความสุขอย่างง่าย ๆ ผ่านอายาตนะทั้ง 5 คือ...
ตาในแต่ละวันเราต้องเลือกมองสิ่งที่ดี เพราะสิ่งที่เรามองนั้นจะสร้างพลังบวกให้ตัวเรา ได้รู้สึกสดชื่น แจ่มใส เช่น มองภาพธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียว มองดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน มองความน่ารักของเด็ก ๆ มองดูรอยยิ้มของผู้คน เป็นต้น เมื่อเรามองในสิ่งที่เป็นบวก เราก็จะได้รับพลังบวกเหล่านั้นเข้ามา แต่ถ้าเราเลือกมองแต่เรื่องลบ ๆ เช่น ข่าวเครียด ๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์ คนทะเลาะกัน หน้าตาบูดบึ้ง สิ่งเหล่านั้นก็จะส่งพลังลบให้เราได้
หู
เสียงต่าง ๆ ที่เราได้ยินสามารถสร้างบรรยากาศการทำงานได้เป็นอย่างดี เลือกฟังเสียงที่ไพเราะ สร้างความเบิกบานใจให้กับเรา เช่น เพลงที่ความหมายดีๆ เพลงบรรเลงที่ช่วยให้เกิดการผ่อนคลาย หรือหากต้องการความกระชุ่มกระชวยก็อาจจะเปิดเพลงที่มีจังหวะเร็วขึ้น นอกจากนั้นคำพูดดี ๆ คำชม การให้กำลังใจแก่ตัวเองและผู้อื่นก็สามารถสร้างพลังบวกให้เราได้เช่นกัน การเลือกพูดคุยกับคนที่คิดบวกก็จะช่วยให้เราได้รับพลังด้านบวกเพิ่มเข้ามา และการที่เราเองให้กำลังใจคนอื่นนั้น ก็จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น และมีความสุขที่ได้แบ่งปันสิ่งดี ๆ
ส่วนคำพูดที่ไม่ดี เราอาจจะได้ยินแล้วไม่ชอบใจ ก็ปล่อยมันผ่านเลยไป ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยอยู่กับมัน และรีบเรียกพลังบวกกลับคืนมาโดยเร็ว
จมูก
การรับกลิ่น เริ่มต้นจากการทำตัวเราเองให้สะอาดสะอ้าน การรับกลิ่นหอมไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม กลิ่นแป้ง กลิ่นยาสระผม กลิ่นหอมรอบกายต่างๆ สามารถทำให้จิตใจเราเบิกบานได้ หรือแม้แต่บางคนที่ชอบดื่มกาแฟ เวลาที่ได้กลิ่นหอมของกาแฟก็จะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า รวมไปถึงการฉีดสเปรย์ปรับอากาศกลิ่นหอมอ่อนๆ ในที่ทำงานก็สามารถสร้างบรรยากาศที่สดชื่นช่วยให้ทำงานได้อย่างมีความสุข
ลิ้น
การรับรส ในแต่ละวันเรามีสิทธิ์เลือกว่าจะรับประทานอะไร การได้กินอาหารที่อร่อย และอาหารที่เราชอบ นอกจากจะทำให้เรามีความสุขแล้ว อาหารที่สะอาด อร่อย และมีคุณภาพ ยังจะทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงอีกด้วย ซึ่งนี่ก็ถือเป็นการสร้างพลังบวกให้ชีวิตได้อีกทาง
กาย
การสัมผัสผ่านทางผิวหนัง เช่น การที่เราอยู่ในบรรยากาศที่โล่ง โปร่ง เย็นสบาย จะช่วยให้จิตใจผ่อนคลายได้ หรือแม้แต่การจัดโต๊ะทำงานให้เข้าที่เป็นระเบียบ การหาของนุ่ม ๆ มาไว้กอดและสัมผัสในที่ทำงาน เช่น ตุ๊กตา, หมอนอิง ก็จะช่วยสร้างความรื่นรมย์ในการทำงานได้เช่นเดียวกัน รวมไปถึงการสัมผัสที่อ่อนโยนกับเพื่อน เช่น จับมือ หรือสวมกอดให้กำลังใจกัน ก็เป็นการถ่ายทอดความรัก เติมกำลังใจให้กันได้เป็นอย่างดี ทำให้ต่างคนต่างมีความสุข
นอกจากนี้การออกกำลังกาย และการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างกระฉับกระเฉงยังช่วยให้เกิดพลังชีวิตที่เป็นบวก สมองจะแจ่มใส ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย และเมื่อเรายิ้มแย้มคนรอบข้างก็จะพลอยแจ่มใสไปด้วย
ทั้งหมดนี้จะมาลงท้ายที่ "จิตใจ" ซึ่งถ้าเราสามารถทำทุกอย่างที่กล่าวมานี้ และสามารถสร้างพลังบวกให้ตนเองได้ จิตใจเราก็จะรู้สึกผ่องใส และนี่คือการเติมพลังชีวิตชั้นยอดเลยทีเดียว
โค้ชสิริลักษณ์ ยังทิ้งท้ายด้วยว่า สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้คือ การมอบความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น การรักในงานที่ทำ และตระหนักถึงคุณค่าในภารกิจหน้าที่ของตัวเอง แค่นี้เราก็จะมีความสุขในทุก ๆ วันได้แล้วค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก