
ไม่ว่าคุณจะหุ่นเริด หน้าเป๊ะแค่ไหน แต่ถ้าปากมีกลิ่นเมื่อไหร่ ความงามก็คงหายวับไปกับตาทันที แต่ทำไม้-ทำไมแปรงฟันจนมั่นใจว่าสะอาดทุกซี่ กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็ยังติดแน่นจนหมดความมั่นใจอยู่อีก ?
บางคนอาจมองว่ากลิ่นปากเป็นเรื่องเล็ก ๆ ไม่เจ็บไม่ปวดไม่ใช่โรคร้ายแรงต้องรีบรักษา แต่สำหรับคนที่มีปัญหานี้ Lisa เชื่อว่ากลิ่นปากไม่ใช่ปัญหาจิ๊บ ๆ แน่นอน
"นอกเหนือจากปัญหาทางกาย เช่น การอักเสบ ที่อาจเป็นต้นเหตุของกลิ่นแล้ว กลิ่นปากยังทำให้คุณบุคลิกภาพไม่ดี สูญเสียความมั่นใจ บางคนก็อาจมีภาวะเครียด" นพ.สรัลชัย เกียรติสุระยานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโสต ศอ นาสิก กล่าว "และบางทีปัญหานี้ก็อาจส่งผลกระทบถึงหน้าที่การงาน แล้วก็ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนใกล้ตัวได้ด้วย"

สุขภาพของเหงือกและฟันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดกลิ่นปากก็จริง แต่ก็ไม่ใช่สาเหตุเดียว "กลิ่นปากเป็นก๊าซเหม็นที่เกิดขึ้นในร่างกายและออกมาทางลมหายใจ ต้นตออาจจะมาจากปาก คอ หรือจมูกก็ได้ทั้งนั้น" คุณหมอสรัลชัยอธิบายว่า สาเหตุหลัก ๆ ที่มักจะทำให้คุณมีกลิ่นปากก็คือ




หากไปพบทันตแพทย์ตรวจรักษาจนแน่ใจว่าฟันของคุณแข็งแรงดีไม่มีซี่ไหนผุ และไม่มีอาการเหงือกอักเสบแล้ว แต่กลิ่นปากก็ยังไม่ยอมจากไป คุณคงต้องพบคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก ดูสักหน่อย คุณหมอชี้ว่า "หากไม่ได้มีสาเหตุมาจาก เหงือกและฟัน อาการกลิ่นปากเรื้อรังมักเกิดจากผู้ป่วยมีนิ่วในต่อมทอนซิล (Tonsil Stone) จากการศึกษาในต่างประเทศพบว่านิ่วในต่อมทอนซิลพบได้ประมาณ 6% ของกลุ่มประชากรทั่วไป ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีการทำสถิติออกมา แต่ถ้าประเมินคร่าว ๆ ก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้านคน"

การจะตรวจพบนิ่วในต่อมทอนซิลนั้นบางครั้งต้องใช้เครื่องมือในการตรวจละเอียดโดยแพทย์เฉพาะทาง หู คอ จมูก แต่บางครั้งแค่คุณอ้าปากขึ้นมาก็อาจจะเห็นก้อนสีขาว ๆ เหลือง ๆ ที่ติดอยู่ตรงต่อมทอนซิลได้ชัดเจน ซึ่งนั่นไม่ใช่เศษอาหาร แต่เป็นก้อนที่เกิดจากการหมักหมมของน้ำลายผสมกับเศษอาหาร เศษเนื้อตายของต่อมทอนซิล และแบคทีเรียที่ไม่ต้องการอากาศ ซึ่งเจ้าแบคทีเรียตัวนี้นี่แหละจะสร้างแก๊สไข่เน่าขึ้นมารอบ ๆ ก้อนนิ่ว พอลมหายใจผ่านก้อนนี้ออกมา กลิ่นก็เลยเหม็นคลุ้งไปหมด

เหตุผลที่เดี๋ยวนี้มีคนเป็นนิ่วในต่อมทอนซิลมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการผ่าตัดต่อมทอนซิลเพื่อรักษาทอนซิลอักเสบน้อยลง ทำให้คนเป็นต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังกันมากขึ้น และเมื่อเกิดการอักเสบบ่อย ๆ ต่อมนี้ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพ โดยร่องรอบ ๆ ต่อมที่ปกติมีขนาดเล็ก ๆ เท่าเข็มหมุดจะขยายใหญ่ขึ้นจนคล้ายถุง ทำให้เศษอาหารและแบคทีเรียเข้าไปสะสมอยู่นั่นเอง นอกจากนี้ยาปฏิชีวนะหลายชนิดที่ใช้ในการรักษาต่อมทอนซิลอักเสบยังทำให้น้ำลายในช่องปากน้อยลงอีกด้วย "แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องมีนิ่ว ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นกับภูมิต้านทานของแต่ละคนด้วย" คุณหมออธิบายเพิ่มเติม

เมื่อต้นตอเกิดจากการที่ต่อมทอนซิลเปลี่ยนสภาพไป หากจะกำจัดปัญหาให้หายขาดก็คงต้องผ่าตัด แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นจึงไม่จำเป็นต้องตัดทิ้งไปอีกแล้ว
"ต่อมทอนซิลมีหน้าที่ดักเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย และเปลือกเยื่อหุ้มรอบนอกของต่อมนี้ยังทำให้ผนังด้านข้างลำคอแข็งแรง ช่วยค้ำเพดานอ่อนและลิ้นไก่ หากผ่าตัดต่อมทอลซิลทิ้งไปทั้งหมดอาจจะทำให้นอนกรนและมีการหยุดหายใจขณะหลับตามมาได้"
"วิธีที่ดีและทันสมัยกว่าคือการรักษาด้วยเลเซอร์ โดยผู้ป่วยไม่ต้องตัดทั้งต่อมทอนซิลทิ้งไป แถมยังเสียเลือดน้อย ฟื้นตัวได้เร็ว และนอนค้างที่โรงพยาบาลเพียงแค่หนึ่งคืนเท่านั้น"

"ปัญหานี้ไม่ได้เหมือนไส้ติ่งอักเสบ หรือโรคอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องรีบรักษา ไม่อย่างนั้นจะเจ็บจะปวด หรืออาจเป็นอันตรายถึงชีวิต มันคล้ายกับพวกฟันผุ จะรักษาหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณเอง ถ้าคุณรับได้และไม่คิดว่ากลิ่นเป็นปัญหากับชีวิตก็เป็นการตัดสินใจของคุณเอง" คุณหมอกล่าวทิ้งท้าย

คุณอาจจะมีนิ่วที่ต่อมทอนซิลซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นปากโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ลองสังเกตดูว่า คุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่







ขอขอบคุณข้อมูลจาก
