เท้าเป็นอวัยวะที่อยู่ล่างสุดของร่างกาย อาจจะคิดว่ามีแค่เพียงหน้าที่พาเราเดินไปไหนต่อไหน แต่จริง ๆ แล้ว เราสามารถเช็กปัญหาสุขภาพจากเท้าของเราเองได้ด้วยนะ
เคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่าตอนที่เราไม่สบายไปหาหมอนั้นเวลาที่พยาบาลซักประวัติน่ะ ทำไมถึงต้องบอกให้เราถอดถุงเท้าออกด้วย ทั้ง ๆ ที่โดยปกติแล้วก็เพียงแค่วัดอุณหภูมิร่างกาย วัดความดันโลหิต และช่างน้ำหนักก็น่าจะเพียงพอแล้ว นั่นก็เพราะว่าเท้าของเรานั้นสามารถบอกถึงสุขภาพร่างกายของเราในเบื้องต้นได้ไงล่ะ โดยเคยมีการศึกษาวิจัยพบว่า เท้าของเราเป็นอวัยวะส่วนแรกที่จะได้รับผลกระทบจากความผิดปกติของหัวใจและกระดูกสันหลัง วันนี้กระปุกดอทคอมจึงนำข้อมูลดี ๆ จากเว็บไซต์ prevention.com มากเล่าสู่กันฟังค่ะ มาลองสังเกตกันดีกว่าว่าเนอะเท้าของเรากำลังบอกถึงปัญหาสุขภาพอะไรบ้างหรือเปล่า
ขนบนเท้าและนิ้วเท้าหายไป ขนบนเท้าและนิ้วเท้านั้นเป็นสิ่
งที่ดี เพราะนั้นเป็นสัญญาณบอกให้คุณรู
้ว่าการไหลเวียนของเลือดนั้นยั
งดีอยู่ แต่ถ้าหากวันไหนขนเหล่านั้
นหายไปล่ะก็ นั่นแหละว่าระบบไหลเวียนเลื
อดของคุณกำลังมีปัญหา ควรรีบไปพบแพทย์เพื่
อทำการตรวจซะก่อนที่จะเกิดปั
ญหาอื่น ๆ ตามมา
เป็นตะคริวที่เท้าบ่อย ปกติแล้วตะคริวนั้นจะเกิดขึ้นบ่
อยก็ต่อเมื่อร่างกายขาดน้ำหรื
อสารอาหารที่มีประโยชน์ ทำให้ระบบประสาทบางส่วนมีปัญหา แน่นอนว่าเท้าก็เช่นกัน การเกิดตะคริวบ่อยที่เท้าบ่อย ๆ นั้นแปลว่าระบบประสาทของคุณกำลั
งขาดสารอาหารที่สำคัญ อย่างเช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และ แคลเซียม ดังนั้นถ้าหากเริ่มเป็นตะคริวบ่
อยขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อปรึ
กษาหรือรับประทานอาหารเสริมเพิ่
มเติมนะคะ
แผลแห้งช้า แผลเรื้อรังถือเป็นปัญหาร้ายแรงของผู้ป่วยโรคเบาหวาน เกิดขึ้นจากการที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งนั่นจะทำให้เท้าของคุณชาจนไม่ว่าจะเกิดบาดแผลอะไรก็จะไม่รู้สึกเจ็บ แล้วแน่นอนว่าคุณจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแผลมันเกิดขึ้นตอนไหนจนในที่สุดกว่าคุณจะรู้ตัวก็สายเกินไปเมื่่อแผลนั้นกลายเป็นแผลเรื้อรังและติดเชื้อ บางรายอาจถึงขั้นต้องตัดเท้าทิ้งเลยล่ะ นอกจากนั้นแผลเรื้อรังยังเป็นสั
ญญาณของมะเร็งผิวหนังอีกด้วย โดยที่มะเร็งผิวหนังนั้
นสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ทุกส่
วนของร่างกายแม้แต่ระหว่างซอกนิ
้วก็ไม่เว้น ทางที่ดีหากเจอแผลเรื้อรังที่
เท้าควรจะรีบไปพบแพทย์เพื่
อทำการตรวจเช็กจะดีกว่านะ
เท้าเย็นตลอดเวลา รู้หรือเปล่าว่าโรคไทรอยด์เป็
นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เท้าเย็
นตลอดเวลา โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคไทรอยด์
ชนิตที่ขาดฮอร์โมนไทรอยด์ และกลุ่มคนที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไปนั้นสามารถเป็นโรคไทรอยด์
โดยที่ไม่ทราบสาเหตุได้ง่าย โรคไทรอยด์นั้นไม่ได้แค่เพี
ยงทำให้เท้าของคุณเย็น แต่ยังทำให้เกิดผมร่วง อ่อนเพลีย ซึมเศร้า และน้ำหนักตัวขึ้นโดยไม่
ทราบสาเหุตุได้ ดังนั้นหากเกิดอาการเท้าเย็
นตลอดเวลาทางที่ดี
ควรจะไปหาหมอเพื่อตรวจเลือดนะคะ
เท้าใหญ่ขึ้นผิดปกติ หากอยู่ดี ๆ เท้าก็มีอาการบวมแดงขึ้น หรือมีอาการเจ็บปวดตามข้อต่าง ๆ ของเท้า ล่ะก็ ควรจะรีบไปหาหมอโดยด่วน เพราะนั้นอาจจะเป็นอาการของโรคเกาต์หรืออาการอักเสบติดเชื้อ ไม่ควรทิ้งเอาไว้โดยเด็ดขาดนะ
รู้สึกเท้าชา อาการเท้าชาทั้งสองข้างนั้นเกิดจากการที่เส้นประสาทอักเสบซึ่งมักพบในผู้ป่วยโรคเบาหวาน, โรคพิษสุราเรื้อรัง หรือผู้ที่รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด แต่ถ้าหากเท้าชาเพียงข้างเดียวล่ะก็ นั้นเป็นเพราะว่าคุณเกิดอาการเส้นประสาทอักเสบบริเวณข้อเท้าหรือด้านหลังฝ่าเท้า ซึ่งสาเหตุนั้นก็เกิดจากการที่คุณใส่รองเท้าคับจนเกินไป ดังนั้นถ้าหากรู้สึกชาที่เท้าล่ะก็ควรจะไปหาหมอจะดีที่สุด
นิ้วหัวแม่เท้าผิดรูป สาว ๆ หลายคน น่าจะรู้จักอาการนี้เป็นอย่างดี เพราะอาการนิ้วหัวแม่เท้าผิดรู
ปนั้นเกิดจากการที่สวมรองเท้าที
่ผิดลักษณะเป็นเวลานานจนทำให้
โครงสร้างของเท้าเปลี่ยนไป สาว ๆ ที่มีรองเท้าส้นสูงสวย ๆ เต็มตู้นี่ควรจะระวังเป็นอย่
างยิ่งเลยค่ะ เพราะรองเท้าที่สวยงามถูกใจเหล่
านั้นอาจจะเป็นตัวการของการที่
ทำให้โครงสร้างของเท้าเราผิดรู
ปไปได้ ซึ่งมันส่งผลต่อการเดินและสุ
ขภาพอื่น ๆ ตามมาอีกเพียบเลยล่ะ
อาการปวดส้นเท้า อาการปวดส้นเท้านั้นอาจเกิ
ดจากอาการรองช้ำที่มีสาเหตุ
มาจากการที่ส้นเท้
าของเราไปกระแทกกับอะไรบางอย่าง หรือจะเป็นการสวมรองเท้าที่แน่
นเกินไป การสวมรองเท้าแตะหรือรองเท้าผ้
าใบที่ไม่ดีต่อสุขภาพเท้าเป็
นเวลานาน ยิ่งถ้าทิ้งเอาไวเนาน ๆ ก็จะยิ่งทำให้อาการเรื้อรัง ควรรีบทำการรักษาและหลีกเลี่
ยงการใส่รองเท้าที่ไม่ดีต่อสุ
ขภาพเท้าด้วยนะคะ
คันบริเวณเท้า หรือ ผิวหนังลอกเป็นขุย การสวมรองเท้าที่อับชื้นหรือสกปรกติดต่อกันเป็นเวลาอาจทำให้เกิดเชื้อราที่เท้าและทำให้เกิดอาการคันหรือผิวหนังลอก แถมยังทำให้เท้ามีกลิ่นอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากคุณมีอาการคันหรือผิวหนังที่เท้าลอก ก็ควรจะทาครีมป้องกันเชื้อรามาทาเพื่อรักษา แล้วก็ควรทำให้รองเท้าแห้งและเอารองเท้าออกมาตากแดดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อฆ่าเชื้อราที่อยู่ในรองเท้าก็ได้นะ
เล็บเท้าเหลือง คงมีสาว ๆ จำนวนไม่น้อยที่เสียเงินไปกับการทำเล็บเท้า ทั้งเพ้นท์และทาสีเล็บเท้าใช่ไหมล่ะ แต่รู้หรือไม่ว่าการทำเล็บบ่อย ๆ นั้น อาจจะทำให้เล็บเหลืองได้ด้วยนะ ดังนั้นถ้าหากเห็นว่าเล็บเท้าของคุณเริ่มเหลือง คุณควรจะหยุดทาเล็บสักพักแล้วหาน้ำส้มสายชูมาเช็ดทำความสะอาดบ่อย ๆ ค่ะ อาการเล็บเหลืองนั้นนอกจากเกิดจากการทำเล็บแล้ว ในบางกรณียังเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติซึ่งเมื่ออายุมากขึ้นก็จะทำให้เล็บกลายเป็นสีเหลืองและเปราะบางลง นอกจากนี้เล็บเหลืองนั้นยังสามารถเกิดจากการติดเชื้อได้อีกด้วย โดยเฉพาะในหมู่นักกีฬา สุขภาพของเท้าเป็นสิ่งที่สำคัญ แม้ว่ามันจะอยู่ล่างสุดของร่างกาย แต่เราก็ควรดูแลรักษามันเป็นอย่างดี และหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ เพื่อที่เราจะได้รักษาได้อย่างทันท่วงทีนะคะ