โรคจิตเภท หูแว่ว เห็นภาพหลอน คิดว่ามีคนมาปองร้าย เช็กอาการให้ไวแล้วรีบไปรักษา

           โรคจิตเภท เป็นโรคทางจิตที่หากรู้ตัวทัน และรีบพาตัวเองเข้ากระบวนการรักษา ก็จะช่วยลดความรุนแรงของโรค และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข
โรคจิตเภท

           โรคจิตเภทที่ผู้ป่วยจะมีอาการหลอน หูแว่ว และถูกตราหน้าว่าโรคจิต จริง ๆ แล้วอาจมีมุมเงียบ ๆ ที่ทำให้ดูไม่ออกว่าป่วยด้วยนะคะ และหลายครั้งเราก็จะเห็นข่าวผู้ป่วยจิตเภทก่อความรุนแรงในสังคม หรือทำร้ายตัวเองอยู่ก็บ่อย ดังนั้นเพื่อเป็นการเช็กทั้งตัวเองและคนใกล้ชิด เราลองมารู้จักโรคนี้กันชัด ๆ ว่ามีสาเหตุจากอะไร อาการเบื้องต้นที่พอสังเกตได้ การรักษา รวมไปถึงหลักการดูแลผู้ป่วยจิตเภทด้วย

โรคจิตเภท คืออะไร

โรคจิตเภท

          โรคจิตเภท คือ หนึ่งในโรคจิตเวชที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Schizophrenia เป็นอาการผิดปกติของสมองที่ส่งผลต่อการรับรู้และความคิดที่แตกต่างและผิดไปจากความเป็นจริง ผู้ป่วยจึงมีพฤติกรรมแปลก ๆ ที่อาจกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ประสาทหลอน หูแว่ว หรือขาดการดูแลตัวเอง โดยโรคนี้ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเริ่มเป็นเมื่ออายุประมาณ 14-16 ปี หรือช่วงปลายวัยรุ่น และพบได้ประมาณร้อยละ 1 ของประชากร

โรคจิตเภท เกิดจากอะไร

โรคจิตเภท

          สาเหตุของโรคจิตเภท เกิดจากปัจจัยทางร่างกายและด้านจิตใจ ดังนี้

  • ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง และโครงสร้างของสมองบางส่วนที่ผิดไปจากปกติเล็กน้อย

  • ความเครียดในชีวิตประจำวัน ความกดดัน การจู้จี้ บังคับ หรือแม้แต่การปล่อยปละละเลย ก็ส่งผลต่ออารมณ์และทำให้โรคจิตเภทกำเริบได้

  • กรรมพันธุ์ โดยพบว่ายิ่งมีความใกล้ชิดกันทางสายเลือดมากเท่าไร ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น เช่น พี่และน้องแท้ ๆ จะเสี่ยงเป็นจิตเภท 9% หรือหากมีประวัติพ่อหรือแม่ป่วย ลูกจะเสี่ยงเป็นโรคนี้ 13%

โรคจิตเภท อาการเป็นอย่างไร

โรคจิตเภท

          อาการของโรคจิตเภท สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

1. กลุ่มอาการด้านบวก

           เป็นความผิดปกติทางด้านความคิด การรับรู้ การสื่อสาร และพฤติกรรมที่มากเกินคนทั่วไป เช่น พูดคนเดียว หัวเราะคนเดียว หลงผิด หวาดระแวง ฝังใจ เกิดภาพหลอน หูแว่ว ประสาทหลอน คิดว่ามีคนพูดหรือสั่งให้ทำสิ่งต่าง ๆ คิดว่าจะมีคนมาทำร้าย คิดว่ามีคนแอบตาม แอบมอง ทำให้ต้องพกอาวุธป้องกันตัว รวมถึงมีพฤติกรรมที่ผิดแผกแปลกไปจากเดิม

2. กลุ่มอาการด้านลบ

          จะเป็นภาวะความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่ลดน้อยลงจากสิ่งที่คนทั่วไปมี เช่น พูดน้อย พูดไม่รู้เรื่อง ไม่ค่อยแสดงออกทางอารมณ์ หน้าตาเฉยเมย ไร้อารมณ์ ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ขาดความกระตือรือร้น เฉื่อยชา เก็บตัว ซึม ไม่ชอบแสดงออก ขาดการดูแลตัวเอง ไม่นอนในเวลากลางคืน

          อย่างไรก็ตาม อาการจิตเภทอาจจะเกิดแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อย ๆ เผยมาทีละอาการ เช่น เริ่มมีอาการสับสน มีความคิดแปลก ๆ ไม่อยู่ในความเป็นจริง ไม่สุงสิงกับใคร เริ่มหวาดระแวง มีปัญหาการนอนหลับ และอาการจะค่อย ๆ รุนแรงขึ้น จนเริ่มมีปัญหาด้านการเรียน การทำงาน ขาดความรับผิดชอบในหน้าที่ หรือบางคนอาจมีอาการอย่างเฉียบพลันทันทีก็ได้เช่นกัน

โรคจิตเภท รักษาหายไหม

โรคจิตเภท

         หากมีอาการป่วยแล้วไม่ได้รักษาจะไม่สามารถหายเองได้ จนอาจนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าว อาละวาด ทำร้ายคนอื่น ดังนั้นญาติควรพาผู้ป่วยไปพบจิตแพทย์ ซึ่งจิตแพทย์จะมีวิธีการรักษาหลากหลายแนวทาง ได้แก่

  • การรักษาด้วยยา เพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมอง จะได้ควบคุมอาการไม่ให้กำเริบ แต่หากใช้ยาไม่ได้ผล แพทย์อาจพิจารณาใช้การช็อกไฟฟ้า

  • การฟื้นฟูสภาพจิตใจ เช่น ฝึกการเข้าสังคม และให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วย

  • การทำจิตบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจตนเอง รับรู้และเข้าใจปัญหาของตนเองมากขึ้น

  • ครอบครัวบำบัด เพื่อแนะแนวทางให้ญาติดูแลผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม

  • การบำบัดแบบกลุ่ม โดยจัดกิจกรรมกลุ่มระหว่างผู้ป่วย ญาติ เพื่อนของผู้ป่วย เพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

          ทั้งนี้ สิ่งสำคัญในการรักษาผู้ป่วยจิตเภทคือ ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาดยา มาพบแพทย์ตามนัด เพื่อควบคุมให้โรคสงบและไม่กำเริบจนกระทบกับการใช้ชีวิต เพราะโรคนี้ส่วนใหญ่จะต้องรักษาแบบประคับประคองไปเรื่อย ๆ ไม่หายขาด

ญาติควรดูแลผู้ป่วยจิตเภทอย่างไร

         กำลังใจสำคัญในการรักษาผู้ป่วยจิตเวชให้อาการดีขึ้นได้ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากญาติ ๆ ดังนี้

  • หมั่นเอาใจใส่ คอยดูแลให้ผู้ป่วยรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ

  • ทำความเข้าใจผู้ป่วย โดยไม่ควรใช้คำพูดจารุนแรงหรือใช้อารมณ์กับผู้ป่วย

  • กระตุ้น แต่ไม่บังคับ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เช่น ให้ดูแลรักษาสุขอนามัยของตัวเอง ช่วยทำงานบ้านอย่างง่าย ๆ ไม่บังคับ ไม่ตำหนิติเตียนโดยไม่จำเป็น หรือปล่อยปละละเลยผู้ป่วยจนเกินไป

          ผู้ป่วยจิตเภทส่วนใหญ่อาจจะดื้อ ไม่ยอมกินยา ไม่พยายามในการรักษาตัว ดังนั้นญาติหรือคนในครอบครัวจำเป็นต้องมีความอดทนในการดูแลผู้ป่วยให้มาก ๆ และพยายามใส่ใจดูแลเขาตามที่จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาแนะนำ

บทความที่เกี่ยวข้องกับโรคจิตเวช

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โรคจิตเภท หูแว่ว เห็นภาพหลอน คิดว่ามีคนมาปองร้าย เช็กอาการให้ไวแล้วรีบไปรักษา อัปเดตล่าสุด 4 ตุลาคม 2566 เวลา 17:57:30 45,658 อ่าน
TOP
x close