การมโนว่าคนนั้นชอบเรา มากดไลก์เรา ก็แปลว่ารักแน่ ๆ อาจไม่ใช่อาการขำ ๆ สำหรับใครบางคน ยิ่งหากมีภาวะหลงผิดด้วยเรื่องนี้ก็เข้าขั้นเป็นภัยต่อใจได้แล้วนะ กดไลก์=รัก เป็นวลีที่หลายคนใช้โพสต์หรือคุยเล่นกับเพื่อนขำ ๆ เอาเฮฮาไปวัน ๆ แต่บางคนไม่ใช่แค่นั้นสิคะ เพราะมีอาการหลงผิดไปมาก ถึงขนาดปักใจเชื่อว่าเขารักเรา หลงเราจริงจัง หรืออาจเพ้อว่ามีความสัมพันธ์กับคนนั้นจริง ๆ ที่เรียกว่าภาวะ Erotomania ของคนคิดไปเอง และวันนี้เราจะพามารู้จักอาการนี้กัน คำว่า Erotomania คือ ภาวะหลงผิดเฉพาะอย่าง ที่จิตแพทย์ชาวฝรั่งเศสชื่อว่า Etienne Esquirol ให้คำจำกัดความขึ้นมาเมื่อปี 1819 แต่นอกจากจะเรียกว่า Erotomania ก็ยังมีชื่อ Clérambault syndrome ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกในวงกว้างมากกว่า โดยอีโรโทมาเนีย (Erotomania) จัดเป็นภาวะหลงผิด (Delusion Disorder) ซึ่งเป็นการหลงผิดคนละกลุ่มกับอาการที่เกิดกับผู้ป่วยจิตเภท ผู้ป่วยจะหลงผิดอย่างจริงจังว่ามีคนมาหลงรักเรา มโนว่าเป็นแฟนกับคนนั้นคนนี้ โดยที่ทั้งหมดเป็นแฟนทิพย์ สามีทิพย์ จากการคิดไปเองล้วน ๆ ความจริงคือแทบไม่รู้จักหรือได้เข้าใกล้คนที่เรามโนถึงด้วยซ้ำ หรืออาจเป็นคนใกล้ตัวก็ได้ เช่น เชื่ออย่างสนิทใจว่าใครคนใดคนหนึ่งเป็นแฟนเรา หรือเชื่อว่าตัวเองเป็นแฟนกับดารา ไอดอล หรือคนดัง คนที่ร่ำรวย สูงส่งกว่าเรา ทั้งที่ยังไม่เคยเจอเขาตัวเป็น ๆ เลยสักที ต่อมานักวิชาการจึงบัญญัติภาวะคิดไปเองว่าเป็นแฟนกับดารา หรือคลั่งคนดังมาก ๆ ด้วยคำว่า A romantic delusion เพิ่มขึ้นมาด้วย นอกจากสาเหตุข้างต้นแล้ว ยังมีกลุ่มเสี่ยงดังต่อไปนี้ด้วย * คนที่ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง * คนที่รู้สึกโดดเดี่ยว หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม * คนที่ชอบแยกตัวออกจากสังคม * คนที่มองมุมมองของผู้อื่นบกพร่อง ผิดเพี้ยนไป * คนที่มีภาวะหลอนจากการเสพติดสุราและยาเสพติด * คนที่มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นมาก่อน อย่างไรก็ตาม จากสถิติทางการแพทย์พบว่า เพศหญิงมีความเสี่ยงเป็น Erotomania มากกว่าเพศชายด้วยนะคะ อาการ Erotomania หรือโรคมโนว่าคนอื่นมาหลงรักตัวเอง แบบชัด ๆ จะสังเกตได้ดังนี้ 1. คลั่งไคล้เขามากจนนั่งดูรูป ดูคลิปได้ทั้งวัน 2. ส่งข้อความ จดหมายรัก ของขวัญ ให้แฟนในมโนเสมอ ๆ 3. ปักอกปักใจเชื่ออย่างแรงกล้าว่ากำลังคบหากันอยู่ 4. พยายามติดต่อกับแฟนในมโนอย่างดื้อด้าน แม้เขาจะไม่รับโทรศัพท์ หรือไม่ยอมพูดด้วย ก็ยังตื๊อไม่เลิก หรือมีพฤติกรรมสะกดรอยตาม 5. เชื่อสนิทใจว่าท่าทาง สายตา หรือคำพูดบางอย่างของใครคนนั้นสื่อถึงเรา หรือเขากำลังส่งสัญญาณบอกรักเราอย่างลับ ๆ หรือหากโดนคนนั้นปฏิเสธก็จะคิดว่าเขาอยากให้ความสัมพันธ์ของเราเป็นความลับ ไม่อยากเปิดเผยให้ใครรู้ 6. จะมีอาการไม่พอใจมากหากใครมายุ่งกับแฟนในมโนของตัวเอง 7. อาจคุกคามคนที่คิดว่าเป็นแฟนตัวเอง หรือทำร้ายคนที่มายุ่งกับแฟนในมโนของตัวเองได้ 8. ใช้เวลาไปกับเรื่องของคนรักทิพย์จนเสียการเสียงาน รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของตัวเอง ทั้งนี้ หากมีพฤติกรรมดังกล่าวนานต่อเนื่องกัน 6 เดือน หรือลากยาวเป็นปี จะจัดว่าอาการน่าเป็นห่วง และควรรีบพบจิตแพทย์เพื่อรักษา เพราะอาจทำให้มีอาการทางจิตอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น เป็นโรควิตกกังวล โรคคลั่งผอมเพราะอยากสวยดูดี หรือติดสุรา สารเสพติด Erotomania รักษาได้ด้วยวิธีทางจิตวิทยา ดังนี้ * การบำบัดจิต และการปรับพฤติกรรม * รักษาด้วยยา เช่น ยาต้านเศร้า หรือยาปรับอารมณ์ * หากมีโรคอื่น ๆ เกี่ยวข้องด้วย แพทย์อาจรักษาจากต้นเหตุของอาการ หรือบรรเทาโรคนั้นเพื่อให้อาการหลงผิดเบาลง เช่น หากติดสารเสพติดหรือสุรา ก็จะรักษาอาการเสพติดให้หาย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม Erotomania เป็นอาการหลงผิดคิดว่าคนอื่นเป็นคนรักของตัวเองที่ค่อนข้างมีความลุ่มหลงอย่างรุนแรง และเขาอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังป่วยอยู่ ดังนั้นหากเห็นคนใกล้ตัวมีภาวะนี้ พยายามพาเขาไปพบจิตแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาให้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขจะดีกว่า เพราะหากไม่ควบคุมให้ดีก็อาจสร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและผู้อื่นได้ โรคหลอกตัวเอง มโนเก่ง เบ่งเต็มโซเชียล คนรอบข้างคุณป่วยอยู่ไหมนะ ? โรคมโน อาการทางจิตของคนชอบคิดเพ้อเจ้อ ขี้โกหกเพราะป่วย ! โรคหลงตัวเอง (Narcisisitic) เช็กสิคุณแค่มั่นหน้า หรือมีอาการป่วย ? ชอบคิดว่าตัวเองไม่สวย เสพติดศัลยกรรมด้วย ระวังป่วยโรคไม่ชอบรูปร่างหน้าตาตัวเอง 9 สัญญาณป่วยโรคคิดว่าตัวเองเก่งไม่จริง Imposter syndrome เช็ก 11 สัญญาณเตือนป่วยจิตเวช มีอาการเหล่านี้พบแพทย์เถอะ โรคทางจิตเวช หรืออาการป่วยทางจิต มีอะไรบ้าง ทำไมคนยุคนี้ป่วยกันเยอะ ? รวมศูนย์ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต เครียด กังวลใจ พบจิตแพทย์ที่ไหนดี ขอบคุณข้อมูลจาก กรมสุขภาพจิต webmd.com medicalnewstoday.com healthline.com
แสดงความคิดเห็น