ไม่อยากตาดับสนิทต้องเลี่ยงพยาธิปอดหนูให้ไกล ว่าแต่เมนูไหนเสี่ยงพยาธิไชตาบ้าง แล้วถ้าเป็นมีวิธีรักษาให้หายไหม เมนูอร่อย ๆ บางทีก็แฝงมาพร้อมอันตรายที่ใครก็ไม่อยากเจอ อย่างที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้แถลงข่าวพบคนไข้เป็นพยาธิปอดหนูขึ้นตาจนตาบอด เนื่องจากชอบกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ (อ่านข่าว : พิษกุ้งแช่น้ำปลา กินสุก ๆ ดิบ ๆ จนหนอนไชขึ้นตา หมอเผยตาบอด 1 ข้าง) ซึ่งถือเป็นคนไข้รายที่ 19 ของประเทศไทยในรอบ 50 ปี และจากข่าวนี้ก็ทำให้คนสนใจใคร่รู้จักพยาธิปอดหนูกันมากขึ้น งั้นก็อย่ารอช้า มาดูกันเลยดีกว่าว่าพยาธิปอดหนูคืออะไร มาจากไหน เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้อย่างไร และมีอันตรายยังไงบ้าง พยาธิปอดหนู หรืออีกชื่อคือพยาธิหอยโข่ง เป็นพยาธิตัวกลมที่มีชื่อเต็ม ๆ ในภาษาอังกฤษว่า Angiostrongylus cantonensis แต่ที่เรียกว่าพยาธิปอดหนูก็เพราะเป็นพยาธิที่อาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู ตัวเต็มวัยมีลักษณะรูปร่างเรียว ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ตัวเมียจะมีลายเป็นเกลียวขาวสลับดำอยู่ในตัว ตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าและที่หางจะมีแผ่นบาง ๆ เล็ก ๆ แผ่ออกมา โดยพยาธิตัวเมียจะออกไข่ในหลอดเลือดแดงและฟักตัวเป็นตัวอ่อนระยะที่ 1 เวลาหนูถ่ายก็จะปะปนออกมากับมูลหนู แล้วไชเข้าหอยทาก หรือ หอยน้ำจืด เช่น หอยโข่ง หอยขม หอยเชอรี่ กุ้งน้ำจืด หรือปลาน้ำจืดเพื่อหาที่อยู่ใหม่ และจะเจริญไปเป็นตัวอ่อนระยะที่ 2 และ 3 ซึ่งก่อโรคในมนุษย์ได้ พยาธิชนิดนี้พบมากในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย ที่มักพบผู้ป่วยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง หลายคนสงสัยว่าเรารับพยาธิปอดหนูเข้าสู่ร่างกายจากทางไหน ก็ต้องบอกว่า จากการกินอาหารที่มีพยาธิปอดหนูปะปนอยู่นี่แหละค่ะ โดยเฉพาะคนที่ชอบรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ซึ่งนอกจากพยาธิปอดหนูก็ยังเสี่ยงรับพยาธิอื่น ๆ เข้าสู่ร่างกายด้วย เช่น พยาธิตัวตืด พยาธิใบไม้ พยาธิตัวจี๊ด โดยเมนูเสี่ยงพยาธิ ได้แก่ กุ้งแช่น้ำปลา ก้อย ลาบ ลู่ ดิบ พล่า ยำ น้ำตก อ่อม หมก กุ้งดอง ทะเลดอง หอยลวก หมึกชอต ปลาดิบ เช่น แซลมอนดิบ มีพยาธิอะนิซาคิส (Anisakis simplex) เมนูสัตว์น้ำจืดที่ไม่ปรุงจนสุกอื่น ๆ เนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก เช่น เนื้อหมู เนื้อวัวที่อาจมีพยาธิปะปนอยู่ ผัก-ผลไม้สดที่ไม่ล้างให้สะอาด และเมื่อพยาธิเข้าสู่กระแสเลือด ก็จะชอนไชไปตามระบบประสาทต่าง ๆ เช่น ขึ้นตา ไขสันหลัง หรือขึ้นสมองได้ โดยส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวนพยาธิ ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย และตำแหน่งที่พยาธิชอนไชเข้าไปด้วย เช่น หากพยาธิปอดหนูขึ้นตา จะมีอาการตามัวเฉียบพลัน โดยไม่ปวดหรือเคืองตา แต่จะชอนเข้าสู่เยื่อบุตา ทำให้เยื่อบุตาฉีกขาด มีเลือดออก และตาบอดได้ ส่วนในกรณีที่พยาธิปอดหนูขึ้นสมอง ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง คอแข็ง หลังแข็ง ชัก หมดสติ หรือพบอาการอัมพาตแขน ขา หรือใบหน้าบางส่วน การรักษาโรคพยาธิปอดหนูจะใช้ยาฆ่าพยาธิ และรักษาตามอาการ เช่น ในคนที่มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง แพทย์จะให้ยาแก้ปวด หรือเจาะน้ำไขสันหลังเป็นระยะ ๆ เพื่อลดความดันของน้ำไขสันหลังร่วมด้วย แต่หากพยาธิปอดหนูขึ้นตา แพทย์จะรีบทำการผ่าตัดนำพยาธิออกจากดวงตาโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ส่วนใหญ่หลังการผ่าตัดผู้ป่วยก็มักจะสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร ดังนั้นจึงควรป้องกันตัวเองจากพยาธิปอดหนูให้ดี ๆ การป้องกันพยาธิปอดหนูทำได้ง่าย ๆ ดังนี้ ไม่รับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ โดยเฉพาะจำพวกปลาน้ำจืด และหอยน้ำจืดต่าง ๆ รับประทานอาหารที่ปรุงสุก ปรุงร้อน สดใหม่ เท่านั้น ล้างผัก ผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทานทุกครั้ง หากต้องดื่มน้ำจากแหล่งธรรมชาติ ควรต้มน้ำให้สุกจนเดือดจัดก่อนนำมาดื่ม ดูแลสุขอนามัยของตนเองให้ดี ควบคุมและกำจัดหนูและหอยน้ำจืดที่เป็นพาหะ พยาธิปอดหนูอันตรายถึงพิการหรือตายได้เลย ดังนั้นใครที่ชอบกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ทั้งหลาย อยากให้พักก่อนนะคะ เพราะนอกจากจะพาตัวเองไปเสี่ยงกับพยาธิปอดหนูหรือชนิดพยาธิอื่น ๆ แล้ว ยังอาจเสี่ยงกับอาการท้องเสีย ท้องร่วง หรืออาหารเป็นพิษได้ด้วย - รู้เรื่องพยาธิ อาการแบบไหนต้องสงสัยว่ามีพยาธิ ใช้ยาถ่ายพยาธิดีไหม ? - คันก้น บริเวณรูทวาร เกิดจากอะไรได้บ้าง ใช่พยาธิไหม - ชอบกินปลาดิบต้องรู้ 6 อาการเสี่ยงที่ร่างกายเราอาจต้องเจอ ! - กินปลาดิบอย่างไร ให้ห่างไกลจากพยาธิ ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก PR Medicine NU คณะแพทยศาสตร์ ม.นเรศวร ขอบคุณข้อมูลจาก : คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน
แสดงความคิดเห็น