นิ่วในไต เป็นอีกหนึ่งโรคที่คนชอบดื่มชานมเย็นมีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน แล้วสงสัยไหมว่า ชานมเกี่ยวข้องกับนิ่วในไตได้อย่างไร เครื่องดื่มแก้วโปรดอย่างชานมเย็น มีน้ำตาลในปริมาณที่สูงถึง 11 ช้อนชาต่อแก้ว แค่ดื่มเพลิน ๆ ก็รับไปเหนาะ ๆ 200-250 กิโลแคลอรี หรือเทียบได้กับข้าวขาว 3-4 ทัพพี หากดื่มมาก ๆ นอกจากโรคอ้วนและโรคเบาหวานจะถามหาแล้ว ยังอาจเสี่ยงป่วยด้วยโรคนิ่วในไตด้วย ว่าแต่...ดื่มชานมเย็นจะทำให้เป็นโรคนิ่วในไตได้อย่างไร วันนี้นำข้อมูลจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มาเตือนกัน อย่างที่ทราบว่า ในชานมนอกจากจะมีน้ำตาลในปริมาณมหาศาลแล้ว ยังมีสารอาหารบางอย่างที่เป็นตัวเร่งให้เกิดนิ่วในไต ได้แก่ น้ำตาลฟรักโทสจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ไตทำงานหนัก และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว ชานมบางชนิดมีส่วนผสมของนม ซึ่งมีแคลเซียมสูง และแคลเซียมส่วนเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ซึ่งอาจตกผลึกเป็นนิ่วได้ สารนี้พบได้ในใบชา โดยออกซาเลตจะจับตัวกับแคลเซียม กลายเป็นนิ่วชนิดแคลเซียมออกซาเลต ซึ่งเป็นชนิดที่พบมากที่สุด คนที่ดื่มชานมเย็นมานานจะให้หักดิบทันทีก็อาจทำไม่ได้ ดังนั้น ทางกรมอนามัยจึงมีคำแนะนำว่า ถ้าอยากดื่มชานมเย็นจริง ๆ ควรดื่มอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดนิ่ว ดังนี้ 1. ลดหวาน สั่งชานมแบบหวานน้อย หรือไม่ใส่น้ำตาลเลยยิ่งดี 2. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพื่อให้น้ำเปล่าช่วยเจือจางปัสสาวะ ลดการตกผลึกของแร่ธาตุ 3. เลือกนมไขมันต่ำ นมพร่องมันเนย หรือนมถั่วเหลือง ช่วยลดปริมาณแคลเซียม 4. รับประทานทานผัก-ผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย มะเขือเทศ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถดื่มชานมเย็นได้ แต่ต้องดื่มอย่างพอประมาณ ไม่จำเป็นต้องดื่มทุกวัน หากจะดื่มก็เลือกแบบหวานน้อย และอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าตามเยอะ ๆ 4 โรคเสี่ยงจากชานมไข่มุก กินมากไป ป่วยได้ไม่รู้ตัว ! เทียบให้เห็นชัด ๆ ชานมไข่มุก 1 แก้ว แคลพอ ๆ กับอาหารจานไหนบ้าง 5 วิธีกินชาไข่มุกแบบไม่อ้วน คนไดเอตไม่ต้องห่วงเลย ! ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
แสดงความคิดเห็น