เตือนตรุษจีนระวัง ของไหว้เจ้า สารฟอกขาวเพียบ (ไทยรัฐ)
สธ.เตือนระวังตรุษจีนปีนี้ พบสารฟอกขาวเกินมาตรฐาน อยู่ในของไหว้เจ้าหลายชนิด โดย ดอกไม้จีน-เห็ดหูหนู พบมีมากสุด แนะควรใช้วิธีล้างก่อนปรุงมากกว่านำไปแช่น้ำ...
นายมงคล เจนจิตติกุล ผู้อำนวยการสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร เปิดเผยผลการตรวจวิเคราะห์ เพื่อหาการตกค้างของสารฟอกขาวซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในอาหารแห้ง ว่า สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ตรวจวิเคราะห์ เพื่อหาการตกค้างของสารฟอกขาว ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในอาหารแห้ง ระหว่างปี พ.ศ. 2551 - 2552 ประกอบด้วย ดอกไม้จีน 13 ตัวอย่าง พบ 12 ตัวอย่าง มีปริมาณสารฟอกขาวสูงสุด เยื่อไผ่ 24 ตัวอย่าง พบ 12 ตัวอย่าง เห็ดหูหนูขาว 91 ตัวอย่าง พบ 46 ตัวอย่าง พุทราจีน 3 ตัวอย่าง พบ 1 ตัวอย่าง เห็ดหอม 16 ตัวอย่าง พบ 4 ตัวอย่าง เก๋ากี้ 2 ตัวอย่าง พบปริมาณสารฟอกขาวสูงทั้ง 2 ตัวอย่าง
ส่วนอาหารแห้งที่ไม่พบ หรือมีซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในปริมาณน้อย ได้แก่ สาหร่าย 27ตัวอย่าง พบเพียง 1 ตัวอย่าง และเม็ดบัว 3 ตัวอย่างไม่พบทุกตัวอย่าง ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้พบปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ได้ไม่เกิน 1,500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
ด้าน นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าวว่า การตรวจวิเคราะห์สารฟอกขาวดังกล่าว เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะออกมาจับจ่ายตลาด เพื่อเลือกซื้ออาหารแห้งมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร สำหรับไหว้เจ้าและไหว้บรรพบุรุษ จะต้องมีความใส่ใจในการเลือกซื้อ และคำนึงถึงความปลอดภัยต่อการบริโภคด้วย
ซึ่งซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulphur dioxide) เป็นสารเคมีตัวหนึ่งในกลุ่มซัลไฟต์ หรือสารฟอกขาวที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเปลี่ยนสีของอาหาร ไม่ให้เป็นสีน้ำตาลยับยั้งการเจริญเติบโตของยีสต์ รา บักเตรี หากใช้ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในปริมาณที่พอเหมาะ จะไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคทั่วไป
อย่างไรก็ตาม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ศึกษาการลดปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ใน ดอกไม้จีนและเห็ดหูหนูก่อนนำไปปรุงอาหาร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการลดปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในผักแห้งอื่น ๆ พบว่า หากนำดอกไม้จีนมาล้างน้ำ จะลดปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ได้มากกว่าการแช่น้ำ สำหรับเห็ดหูหนูควรนำมาล้างน้ำและลวกในน้ำเดือด 2 นาทีก่อนนำไปปรุงอาหาร จะทำให้สามารถลดปริมาณสารนี้ได้เช่นกัน ผู้บริโภคสามารถนำผลการศึกษานี้ไปใช้ประโยชน์ในการปรุงอาหาร เพื่อลดความเสี่ยงในการรับสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ต่อไปได้
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก