ยาสมุนไพรลดไข้ (ไทยโพสต์)
อาการไข้ เกิดจากการที่ร่างกายได้รับเชื้ อโรคพวกไวรัสหรือแบคทีเรียเข้ าสู่ร่างกาย เกิดการติดเชื้อและอักเสบ กระบวนการขับไล่เชื้อโรคในร่ างกายจะทำงานโดยส่งเม็ดเลื อดขาวออกมากินเชื้อโรคในเม็ดเลื อดแดง เรียกว่าระบบคุ้มกันของร่างกาย แต่ถ้าร่างกายปรับตัวไม่ทันกั บการเปลี่ ยนแปลงจากกระบวนการทำงานของเม็ ดเลือดขาวหรือภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ก็จะส่งผลให้เกิดอาการตัวร้ อนเป็นไข้ ถ้ามีอาการตัวร้อนจัดหรือไข้สู งต้องกินยาลดไข้ช่วย แต่ถ้ามีไข้สูงติดต่อกันเป็ นเวลา 24 ชั่วโมง อาจเป็นอันตรายได้ จึงควรรีบไปพบแพทย์
ในทางการแพทย์แผนไทยใช้ยาสมุ นไพรจำพวกที่มีรสขม รักษาอาการไข้อักเสบ สมุนไพรรสขมมีฤทธิ์เย็น ช่วยลดไข้ บำรุงโลหิตและน้ำดี ช่วยในการเจริญอาหารและย่ อยอาหาร ช่วยให้นอนหลับและขับถ่ายได้ดี สารรสขมที่พบส่วนใหญ่เป็ นสารในกลุ่มอัลคาลอยด์ (alkaloid) และกลุ่มเทอร์ปีนส์ รวมถึงกลุ่มกลัยโคไซด์ (glycoside) และฟลาโวนอยด์แต่มีส่วนน้อย
อัลคาลอยด์เป็นสารอินทรีย์ที่มี รสขมไม่ละลายน้ำแต่ละลายได้ดี ในตัวทำละลายอินทรีย์ พบได้ในส่วนต่าง ๆ ของพืชชั้นสูง ฤทธิ์ที่สำคัญของอัลคาลอยด์คื อการออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทสำหรั บเทอร์ปีนมีอยู่หลายชนิด แต่มีพวกไดเทอปีนส์ที่มี สารรสขมมากที่สุด เช่น ในฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีฤทธิ์แก้ไข้และพบว่าช่ วยปกป้องตับจากสารพิษ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้ น ต้านการอักเสบและแก้ท้องเสีย กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้ มกัน ต้านแบคทีเรีย รักษาโรคในระบบทางเดินหายใจ แก้หวัด แก้เจ็บคอ
สารรสขมทำหน้าที่ในการกระตุ้ นไขกระดูกผลิตเม็ดเลื อดขาวออกมากินเชื้อโรคที่เม็ ดเลือดแดง คือทำหน้าที่กวาดล้างสิ่ งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่ างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ แต่ถ้ารับประทานรสขมมากก็จะส่ งผลให้เม็ดเลือดขาวมากเกิ นไปจนไปกินเม็ดเลือดแดงได้ ทำให้มีปริมาณเม็ดเลื อดขาวมากกว่าเม็ดเลือดแดง จึงห้ามใช้ยารสขมติดต่อกันเป็ นระยะเวลานานเกิน 7 วัน
รสขมแสลงกับคนที่เป็นโรคหัวใจ หรือคนที่มีอาการท้องอืดเฟ้อจุ กเสียดแน่นอ่อนเพลีย กำลังตก แต่ในกรณีที่เป็นไข้มี อาการหนาวสั่นเนื่องจากภายในร่ างกายมีความเย็นจึงมี อาการหนาวสั่น กลุ่มนี้จะไม่ใช้ตัวยารสขมหรื อยาเย็นเพราะยิ่งไปเพิ่มความเย็ นภายในร่างกาย แต่จะใช้ตัวยาที่มีรสร้อน เช่น ขิง เพื่อไล่ความเย็นออกจากร่างกาย
การรักษาอาการไข้ใช้ทั้งยาตำรั บและยาเดี่ยว หรือยากลางบ้านที่หาได้ทั่วไป ซึ่งใช้ได้ในรูปของอาหารและยา ยาตำรับเป็นยาที่อยู่ในบัญชี ยาหลักแห่งชาติ คือ ยาห้ารากหรือเบญจโลกวิเชียร ยาตัวนี้ยังใช้ในการรักษาไข้เลื อดออก ไข้ชิคุนกุนยาได้ดี และยาจันทลีลา ซึ่งจะใช้แก้ไข้หัวลมและไข้ที่ เกิดจากปอด คือไข้ที่มักเป็นในช่วงหลังเวลา 14.00 น.ได้ดี ส่วนยาเดี่ยวที่ใช้กันมาก ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร และยังมีพวกสมุนไพรกลุ่มหญ้าต่ างๆ มีสรรพคุณที่แก้ไข้อย่างดีเช่ นกัน
ฟ้าทะลายโจร
ใช้ใบ/ทั้งต้น รสขม แก้ไข้ แก้หวัด แก้ทอนซิลอักเสบ แก้บิด แก้ท้องเดิน
วิธีใช้ แก้ไข้ เป็นหวัด ปวดหัว ตัวร้อน ใช้ใบและกิ่ง 1 กำมือ (แห้งหนัก 3 กรัม สดหนัก 25 กรัม) ต้มน้ำดื่มก่อนอาหารวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือเวลามีอาการ
ปัจจุบันมีฟ้าทะลายโจรแบบเม็ ดและแคปซูลจำหน่ายทั่วไป ซึ่งใช้ง่ายกว่าการต้มน้ำดื่ มมาก
ข้อควรระวัง ฟ้าทะลายโจรเป็นยาเย็น ใช้ติดต่อกันได้ไม่เกิน 7 วัน ถ้าใช้ในระยะยาวกว่านี้อาจทำให้ เกิดอาการหนาวสั่นหรือมือ-เท้ าเย็น กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย หรืออ่อนเพลีย กำลังตก
บอระเพ็ด
เถา รสขมเย็น แก้ไข้ทุกชนิด แก้ร้อนในกระหายน้ำ ทำให้เลือดเย็น บำรุงน้ำดี บำรุงธาตุไฟ เจริญอาหาร การใช้ให้ใช้เถา 30-40 กรัม ตำคั้นเอาน้ำดื่ม หรือต้มกับน้ำสะอาด โดยต้มน้ำ 3 ส่วน เคี่ยวให้เหลือน้ำยา 1 ส่วน ใช้ดื่มก่อนอาหารครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือเมื่อมีอาการ
หญ้าตีนกา
ใช้ทั้งต้น ขมเย็น แก้พิษไข้ ทำให้ใจชุ่มชื่น แก้ช้ำใน วิธีใช้ให้ใช้ทั้งต้นสัก 1 กำมือ ต้มเอาน้ำดื่มลดไข้ ช่วยให้จิตใจชุ่มชื่นหรือทั้งต้ นตำกับเหล้า ใช้พอกหรือทาแก้ฟกบวม แก้ปวดแสบปวดร้อนตามร่างกาย
ดอกชบา
ใช้ดอก รสหวานเย็น โดยใช้ดอกชบา 4 ดอกแช่ในน้ำต้มสุก 2 แก้ว แล้วดื่มต่างน้ำ จะช่วยดับร้อนผ่อนกระหายและแก้ ไข้ได้ดี
ดอกบัวหลวง
ใช้เกสรและดอก รสฝาดหอม แก้ไข้ แก้เสมหะและโลหิต บำรุงครรภ์ บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง ใช้เกสรดอกหรือทั้งดอก ต้มเอาน้ำดื่มแก้ไข้ หรือใช้กลีบดอกปรุงเป็นอาหารแก้ ไข้
หญ้าดอกขาว
ใช้ทั้งต้น รสเย็นขื่น ลดไข้ แก้ไอ วิธีใช้เอาทั้งต้นและใบนำไปต้ มกับน้ำดื่มแก้ไข้
หญ้าตีนนก
ใช้ทั้งต้น รสขมเย็น แก้พิษไข้ แก้ไข้เพื่อดี แก้ดีแห้ง แก้ดีซ่าน วิธีใช้เอาทั้งต้นต้มกับน้ำดื่ มแก้ไข้ ช่วยให้จิตใจชุ่มชื่นและแก้ช้ ำใน
คูน
ใช้ดอก รสขมเปรี้ยว แก้ไข้ ระบายท้อง แก้พรรดึก แก้แผลเรื้อรัง แก้โรคกระเพาะอาหาร วิธีใช้เอาดอกคูนปรุงเป็ นของหวานหรืออาหารรับประทานแก้ ไข้
ทองกวาว
ใช้ดอก รสฝาดขม ถอนพิษไข้ ขับปัสสาวะให้ใช้ดอกปรุงอาหาร หรือต้มกับน้ำดื่มช่วยลดไข้
ขิง
ใช้เหง้า รสเผ็ดร้อน แก้ไอ แก้ไข้ แก้ท้องอืดเฟ้อ โดยนำเหง้าแก่สด 10 กรัม และขิงแห้ง 2 กรัม ต้มกับน้ำตาลทรายแดง ดื่มเพื่อรักษาอาการ หรือใช้ขิงแก่ 2-3 เหง้านำมาทุบให้ละเอียดต้มกับน้ ำอาบเพื่อขับเหงื่อ ลดอาการไข้เนื่องจากหวัด
สมุนไพรเหล่านี้หาได้ง่าย ใช้แก้อาการไข้เบื้องต้นได้ แต่อย่าปล่อยไว้นาน และถ้ามีไข้สูงต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุให้ชัดเจน เพราะถ้าปล่อยให้โรคลุ กลามอาจนำไปสู่โรคอื่น ๆ จะทำให้การรักษายากยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก