จะต้องใส่หน้ากากอนามัยแบบไหน หรือใช้หน้ากากอย่างไรถึงจะป้องกันไวรัสโคโรนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูวิธีการใส่และใช้หน้ากากที่ถูกต้องกัน
ในช่วงที่เรายังต้องเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโคโรนา บ่อเกิดโรค COVID-19 อยู่ทุกวัน การใส่หน้ากากอนามัยคือวิธีการหนึ่งที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงได้ง่าย ๆ แต่หน้ากากอนามัยก็มีอยู่หลายประเภท กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงออกมาแนะนำถึงหน้ากากอนามัยประเภทต่าง ๆ มีแบบไหนบ้าง ไปดูกัน
หน้ากากอนามัยที่นิยมใช้ มีอยู่ 2 แบบ
1. หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น หรือ surgical mask
- ราคาถูก
- ป้องกันของเหลวซึมผ่านได้
- ป้องกันเชื้อไวรัสที่ปนมากับละอองน้ำมูก น้ำลาย เวลาไอหรือจาม ลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้
- ป้องกันเชื้อไวรัสขนาดเล็กมาก ๆ และฝุ่น PM2.5 ไม่ได้
- ราคาถูก
- ป้องกันของเหลวซึมผ่านได้
- ป้องกันเชื้อไวรัสที่ปนมากับละอองน้ำมูก น้ำลาย เวลาไอหรือจาม ลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้
- ป้องกันเชื้อไวรัสขนาดเล็กมาก ๆ และฝุ่น PM2.5 ไม่ได้
2. หน้ากากอนามัยแบบ N95
- ราคาสูง
- ถ้าหากใช้อย่างถูกวิธี สามารถกรองฝุ่นละอองขนาด 0.1-0.3 ไมครอน ได้อย่างน้อย 95%
- มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสและฝุ่นละออง ได้ดีกว่าหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา
- ป้องกันของเหลวซึมผ่านได้
- ป้องกันเชื้อไวรัสที่ปนมากับละอองน้ำมูกหรือน้ำลายได้
- ป้องกันเชื้อไวรัสขนาดเล็กมาก ๆ และฝุ่น PM2.5 ได้
- ถ้าหากใช้อย่างถูกวิธี สามารถกรองฝุ่นละอองขนาด 0.1-0.3 ไมครอน ได้อย่างน้อย 95%
- มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสและฝุ่นละออง ได้ดีกว่าหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา
- ป้องกันของเหลวซึมผ่านได้
- ป้องกันเชื้อไวรัสที่ปนมากับละอองน้ำมูกหรือน้ำลายได้
- ป้องกันเชื้อไวรัสขนาดเล็กมาก ๆ และฝุ่น PM2.5 ได้
อย่างไรก็ตาม การใช้หน้ากากอนามัยไม่ว่าแบบไหนก็ต้องรู้วิธีสวมใส่ให้ถูกต้อง จึงสามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
วิธีสวมใส่หน้ากากอนามัยแต่ละประเภท
วิธีการใส่หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น
1. ล้างมือก่อนสวมใส่หน้ากากอนามัยให้สะอาดทุกครั้ง
2. ใช้มือจับที่สายคล้องหูทั้ง 2 ข้าง โดยหันด้านสีเข้ม (เช่น สีฟ้า สีเขียว) ออกด้านนอก ให้ด้านสีจางชิดจมูก ขอบลวดต้องอยู่ด้านบน และรอยจีบพับต้องคว่ำลง
3. ใส่หน้ากากอนามัยโดยดึงที่สายคล้องหู แล้วมัดหน้ากากให้กระชับ แนบหน้าที่สุด
4. ดัดแถบเหล็ก หรือโครงลวด ให้แนบชิดสันจมูกมากที่สุด
5. ขยับหน้ากากอนามัยให้คลุมทับทั้งจมูก ปาก และคาง โดยจัดทรงหน้ากากอนามัยให้กระชับกับใบหน้า แนบสนิทกับผิวมากที่สุด ถ้าหากสายหรือตัวหน้ากากอนามัยหย่อนยาน ไม่แนบผิว ให้เปลี่ยนหน้ากากอนามัยอันใหม่ทันที
วิธีการใส่หน้ากากอนามัยแบบ N95
วิธีการใส่หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น
1. ล้างมือก่อนสวมใส่หน้ากากอนามัยให้สะอาดทุกครั้ง
2. ใช้มือจับที่สายคล้องหูทั้ง 2 ข้าง โดยหันด้านสีเข้ม (เช่น สีฟ้า สีเขียว) ออกด้านนอก ให้ด้านสีจางชิดจมูก ขอบลวดต้องอยู่ด้านบน และรอยจีบพับต้องคว่ำลง
3. ใส่หน้ากากอนามัยโดยดึงที่สายคล้องหู แล้วมัดหน้ากากให้กระชับ แนบหน้าที่สุด
4. ดัดแถบเหล็ก หรือโครงลวด ให้แนบชิดสันจมูกมากที่สุด
5. ขยับหน้ากากอนามัยให้คลุมทับทั้งจมูก ปาก และคาง โดยจัดทรงหน้ากากอนามัยให้กระชับกับใบหน้า แนบสนิทกับผิวมากที่สุด ถ้าหากสายหรือตัวหน้ากากอนามัยหย่อนยาน ไม่แนบผิว ให้เปลี่ยนหน้ากากอนามัยอันใหม่ทันที
วิธีการใส่หน้ากากอนามัยแบบ N95
ภาพจาก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
หมายเหตุ : Fit test หมายถึง การทดสอบการแนบสนิทของหน้ากากกับใบหน้า โดยใช้มือทั้งสองข้างโอบรอบหน้ากาก จากนั้นลองหายใจออกแรง ๆ กว่าปกติ ถ้าหน้ากากยังแนบสนิทจะไม่มีการรั่วของลมหายใจออกมา
ข้อแนะนำในการใช้หน้ากากอนามัย
- ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งทั้งก่อนและหลังใส่หน้ากากอนามัย เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรค เพราะมือของเราเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคจำนวนมาก
- ควรจับที่สายคล้องหูเมื่อต้องการถอดหน้ากากอนามัย ห้ามจับที่ตัวผ้าเด็ดขาด เพราะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคนับล้าน ๆ ตัว
- โดยทั่วไปหน้ากากอนามัยสามารถใช้ได้ 3 วัน แต่ในสถานการณ์ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส แนะนําให้เปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวัน ไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ
- เมื่อหน้ากากมีการชำรุด หรือปนเปื้อน ให้เปลี่ยนหน้ากากอนามัยอันใหม่ทันที
- ไม่ใช้หน้ากากอนามัยร่วมกับผู้อื่น
- การเก็บหน้ากากอนามัยนั้น ควรเก็บในถุงผ้า หรือถุงพลาสติก เมื่อไม่ใช้ เช่น เวลารับประทานอาหาร หรือเวลานอน
- การทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว ควรใส่ในถุงพลาสติกและทิ้งลงถังขยะให้มิดชิด
เพียงสวมใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี และใช้หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องตามนี้ ก็สามารถช่วยป้องกันเชื้อไวรัสที่แฝงมาทางอากาศและลมหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว
- ควรจับที่สายคล้องหูเมื่อต้องการถอดหน้ากากอนามัย ห้ามจับที่ตัวผ้าเด็ดขาด เพราะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคนับล้าน ๆ ตัว
- โดยทั่วไปหน้ากากอนามัยสามารถใช้ได้ 3 วัน แต่ในสถานการณ์ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส แนะนําให้เปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวัน ไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ
- เมื่อหน้ากากมีการชำรุด หรือปนเปื้อน ให้เปลี่ยนหน้ากากอนามัยอันใหม่ทันที
- ไม่ใช้หน้ากากอนามัยร่วมกับผู้อื่น
- การเก็บหน้ากากอนามัยนั้น ควรเก็บในถุงผ้า หรือถุงพลาสติก เมื่อไม่ใช้ เช่น เวลารับประทานอาหาร หรือเวลานอน
- การทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว ควรใส่ในถุงพลาสติกและทิ้งลงถังขยะให้มิดชิด
เพียงสวมใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี และใช้หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องตามนี้ ก็สามารถช่วยป้องกันเชื้อไวรัสที่แฝงมาทางอากาศและลมหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว
*หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563
ขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
กรมควบคุมโรค
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
U.S. CDC