x close

2 ท่าเช็กอาการติดโทรศัพท์ เป็นสมาร์ทโฟนแอดดิกหรือเปล่าได้รู้กัน !

ติดสมาร์ทโฟน

          ติดสมาร์ทโฟน มากเกินไปไหม เช็กง่าย ๆ ด้วย 2 ท่าสุดง่าย ถ้ามีอาการเหล่านี้บอกเลยระวังให้ดี

          ทุกวันนี้เชื่อว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่มีสมาร์ทโฟนเสมือนเป็นอวัยวะที่ 33 ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน ถ้าไม่มีสมาร์ทโฟนติดไปด้วยก็รู้สึกแปลก ๆ บางคนนี่ถึงกับกระวนกระวายเลยก็ว่าได้ แต่พอถามว่าตัวเองติดสมาร์ทโฟนไหมก็มักจะบอกไม่ได้ติด อย่าเพิ่งชะล่าใจว่าตัวเองไม่ใช่คนจำพวก สมาร์ทโฟน แอดดิก (Smartphone Addict) นะ ถ้ายังไม่ได้ลองทดสอบตัวเองด้วยท่าทางเหล่านี้ที่เราหยิบมาฝากกัน ซึ่งบอกได้คำเดียวเลยว่า แค่ทำตามที่ว่านี้ก็จะรู้ได้ทันทีว่าคุณน่ะใช่คนติดสมาร์ทโฟนหรือไม่ รีบทำตามเลยจะได้รู้กันค่ะ

ท่าที่ 1

ติดสมาร์ทโฟน

          ท่านี้เป็นท่าง่าย ๆ ที่เราแค่เพียงสังเกตมือของเราก็จะทราบได้ทันทีว่าเราเป็นคนติดสมาร์ทโฟนหรือเปล่า ซึ่งอาการนี้เรียกว่า Smartphone Pinky โดยมีวิธีสังเกตง่าย ๆ คือ กางมือออก ถ้าหากนิ้วก้อยของคุณมีลักษณะงอที่บริเวณข้อที่ 2 ของนิ้วก้อย แปลว่าคุณน่ะเป็นคนติดสมาร์ทโฟนแล้วล่ะ เพราะอาการงอของนิ้วก้อยแบบนี้ เป็นอาการที่เกิดจากการที่เราถือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน โดยปกติแล้วเมื่อเราถือโทรศัพท์มือถือก็จะต้องเอานิ้วก้อยรองที่ใต้โทรศัพท์ และเมื่อนิ้วก้อยต้องรองรับน้ำหนักมาก ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดอาการงอของนิ้วได้ค่ะ ซึ่งในเริ่มแรกจะไม่มีอาการปวดหรือเจ็บ แต่ถ้าทิ้งเอาไว้นาน ๆ คุณหมอแมว เจ้าของเพจเฟซบุ๊กความรู้สนุก ๆ แบบหมอแมว  ก็เตือนว่าจะมีอาการแบบนี้ค่ะ


          มีอาการเจ็บที่นิ้วก้อยด้านในที่บริเวณข้อสุดท้าย และถ้าหากกดมาก ๆ จะทำให้นิ้วดูเบี้ยวเล็กน้อย

          เกิดอาการปวดล้าข้อนิ้วก้อย เวลากำเหยียดนิ้วก้อยจะรู้สึกเจ็บ

          หากมีอาการรุนแรงอาจจะเกิดอาการชาที่ปลายนิ้วก้อยด้านใน เนื่องจากไปโดนบริเวณที่เกิดการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็น

          ทั้งนี้ถ้าหากมีอาการเหล่านี้เป็นเวลานานก็ควรไปพบแพทย์ดีกว่าค่ะ เพราะอาจจะไม่ใช่แค่อาการ Smartphone Pinky แต่อาจจะมีอาการอักเสบของปลายประสาทเรื้อรังจนอาจเป็นอันตรายได้ค่ะ

ท่าที่ 2 

ติดสมาร์ทโฟน
ภาพจาก meddic.jp

ติดสมาร์ทโฟน
          วิธีการทดสอบนี้มีชื่อเรียกว่า Eichoff’s Test หรือ Finkelstein\'s test เป็นวิธีทดสอบว่าเป็น โรคเดอ เกอร์แวง (De Quervain\'s Disease) หรือปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ หรือไม่ อาการของโรคนี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้นิ้วโป้งมากจนเกินไป อย่างเช่นการเล่นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนติดต่อกันนาน ๆ เป็นประจำ จนทำให้เกิดการปวดอักเสบบริเวณข้อมือ วิธีทดสอบมีดังนี้ค่ะ

          กำมือโดยให้ทั้ง 4 นิ้วกำนิ้วโป้งไว้ให้แน่น

          งอข้อมือลงด้านล่างจนบริเวณตั้งแต่ข้อมือจนถึงข้อนิ้วโป้งตึง

          หากมีอาการปวดนั่นแปลว่าคุณมีอาการของโรค De Quervain’s Disease

          อาการของโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับมือทั้ง 2 ข้าง แต่อาการเจ็บปวดนี้จะขึ้นอยู่กับว่าใช้มือข้างใดถือโทรศัพท์มากกว่ากันค่ะ

          หากรู้ว่าตัวเองมีอาการปวด อันเป็นจุดเริ่มต้นของอาการปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบแล้ว ต้องเริ่มบริหารมือตัวเองเดี๋ยวนี้เลย ซึ่งเรามีท่าง่าย ๆ มาบอกกัน

          1. แตะปลายนิ้วหัวแม่มือกับปลายนิ้วชี้ค้างไว้ 5 วินาที แล้วจึงใช้นิ้วหัวแม่มือสลับแตะนิ้วก้อยค้างไว้อีก 5 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง

          2. ดัดข้อมือ โดยพยายามงอข้อมือตัวเองลงให้มากที่สุด ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นให้ดัดข้อมือกระดกขึ้นให้มากที่สุด ค้างไว้อีก 5 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง

          3. หงายมือขึ้น แล้วกำมือ จากนั้นค่อย ๆ กระดกข้อมือขึ้น ค้างไว้ 5 วินาที แล้วค่อยกลับไปตำแหน่งเดิม ทำซ้ำ 10 ครั้ง

          4. กระดกข้อมือขึ้น-ลง สลับกัน 10 ครั้ง (สามารถถือวัตถุที่มีน้ำหนักมากไว้ในมือด้วยได้)

          5. กระดกข้อมือเอียงไปทางด้านข้าง ทำขึ้น-ลง สลับกัน 10 ครั้ง (สามารถถือวัตถุที่มีน้ำหนักมากไว้ในมือด้วยได้)

          6. นำลูกบอลยางมาบีบ โดยบีบให้แน่นที่สุด ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นคลายออก แล้วบีบใหม่ ทำซ้ำ 10 ครั้ง

          ได้วิธีสังเกตอาการติดโทรศัพท์แบบง่าย ๆ ไปแล้ว ถ้ามีอาการเหล่านี้ก็อย่านิ่งนอนใจเลยนะ เพราะอาการเหล่านี้ที่เห็นว่าเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจจะให้ผลตามมาที่คาดไม่ถึงก็ได้ ยังไงสมาร์ทโฟนก็ไม่น่าจะสำคัญกว่าสุขภาพของตัวเองใช่ไหมล่ะคะ

 ***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 21 กันยายน 2558

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
rocketnews24.com
เพจเฟซบุ๊ก ความรู้สนุก ๆ แบบหมอแมว
koreaboo.com
โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
2 ท่าเช็กอาการติดโทรศัพท์ เป็นสมาร์ทโฟนแอดดิกหรือเปล่าได้รู้กัน ! อัปเดตล่าสุด 18 ตุลาคม 2560 เวลา 15:56:43 22,742 อ่าน
TOP