
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2560 สำนักข่าว cnn รายงานว่า คณะลูกขุน ศาลสูง ในลอนแอนเจลิส ได้ตัดสินให้ บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หรือ เจแอนด์เจ จ่ายค่าชดเชยกว่า 417 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 13,837 ล้านบาท ให้กับ นางอีวา เอเชเวอร์เรีย อายุ 63 ปี หลังจาก นางอีวา ได้ยื่นฟ้องร้องบริษัท เจแอนด์เจ โดยระบุว่า ตัวเธอเป็นโรคมะเร็งรังไข่ เนื่องจากใช้แป้งของบริษัทดังกล่าวทาจุดซ่อนเร้นมานานหลายสิบปี


และแม้ว่าทางบริษัทผู้ผลิตแป้งเด็กจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะยื่นอุทธรณ์คดีว่ามีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนความปลอดภัยในการใช้แป้งเด็กจอห์นสัน และยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันชัดเจนว่าการใช้แป้งเด็กบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์จะเชื่อมโยงไปถึงมะเร็งรังไข่ได้ แต่อย่างไรก็ตามศาลได้พิพากษาว่า ผลิตภัณฑ์แป้งเด็กจอห์นสันไม่มีคำเตือนที่ชัดเจนแก่ผู้บริโภคถึงความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ จึงมีคำตัดสินให้บริษัทแป้งยี่ห้อดังจ่ายชดเชยค่าเสียหายเป็นจำนวน 70 ล้านดอลลาร์ (compensatory damages) และจ่ายอีก 347 ล้านดอลลาร์ สำหรับค่าเสียหายเพื่อเป็นการลงโทษ (punitive damages)

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่การชดใช้ค่าเสียหายครั้งแรกของจอห์นสัน แอนด์ จอนห์สัน เพราะเมื่อปี 2559 คณะลูกขุนประจำรัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา ก็ได้พิพากษาให้บริษัทผู้ผลิตแป้งเด็กยี่ห้อดังรายนี้ จ่ายค่าเสียหาย 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท ให้กับครอบครัวของนางแจ็คเกอรีน ฟอกซ์ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งรังไข่ หลังเธอใช้แป้งฝุ่นทาบริเวณอวัยวะเพศมานานหลายปี (อ่านข่าว : หญิงทาแป้งจุดซ่อนเร้นเป็นมะเร็งรังไข่เสียชีวิต ศาลสั่งบริษัทแป้งเด็กยี่ห้อดังจ่าย 2 พันล้าน)