อาหารจานด่วน ขนม กับข้าวสะดวกซื้อที่ขายริมทาง เมนูไหนมีโซเดียมสูงบ้างต้องหลีกเลี่ยง เพราะกินมาก ๆ เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- ความเสี่ยงสูงมาก : ปริมาณโซเดียมเกินกว่า 2,000 มิลลิกรัม
- ความเสี่ยงสูง : ปริมาณโซเดียมระหว่าง 1,500-2,000 มิลลิกรัม
- ความเสี่ยงสูงปานกลาง : ปริมาณโซเดียมระหว่าง 1,000-1,500 มิลลิกรัม
- ความเสี่ยงน้อย : ปริมาณโซเดียมระหว่าง 600-1,000 มิลลิกรัม
โดยได้ผลดังนี้
อาหารประเภทกับข้าว
- กลุ่มอาหารเสี่ยงสูง มี 5 ชนิด หรือร้อยละ 18.5 ได้แก่ แกงจืดมะระ ผัดผักรวม ผัดพริกขิงถั่วฝักยาว หมูทอดกระเทียมพริกไทย และหลนเต้าเจี้ยว/ปู
- กลุ่มอาหารเสี่ยงปานกลาง มี 5 ชนิด หรือร้อยละ 18.5 ได้แก่ แกงเลียง ปลาทูต้มเค็ม หน่อไม้ผัดพริก กุนเชียง และน้ำพริกอ่อง
- กลุ่มอาหารเสี่ยงน้อย มี 1 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 4 คือ ปูผัดผงกะหรี่
- กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงมาก มี 10 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 35 เช่น ต้มเลือดหมู ส้มตำปูปลาร้า ส้มตำไทย ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ บะหมี่หมูต้มยำ สุกี้น้ำรวมมิตร
- กลุ่มอาหารเสี่ยงสูง มี 5 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 17 ได้แก่ โจ๊กหมู ยำรวมมิตร ลาบหมู ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า
- กลุ่มอาหารเสี่ยงปานกลาง มี 12 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 41 เช่น น้ำตกหมู ผัดไทย หอยทอด ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด เป็นต้น
- กลุ่มอาหารเสี่ยงน้อย มี 2 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 7 ได้แก่ ข้าวราดผัดกะเพราหมู/ไก่ และข้าวไข่เจียว
อาหารประเภทของว่างหรือขนม
- กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง มี 8 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 40 ได้แก่ ไส้กรอกทอด คอหมูย่าง ทอดมันปลากราย ขนมกุยช่าย เปาะเปี๊ยะทอด ไก่ทอด ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน และลูกชิ้นปิ้ง
- กลุ่มอาหารเสี่ยงปานกลาง มี 6 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 30 ได้แก่ หมูปิ้ง ไส้กรอกอีสาน ไก่ย่าง ปลาหมึกย่าง ขนมจีบ และกล้วยทอด
- กลุ่มอาหารเสี่ยงต่ำ มี 6 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 30 ได้แก่ ข้าวเหนียวสังขยา ขนมครก สาคูไส้หมู กล้วยบวชชี ตะโก้สาคู และซาลาเปาไส้หมู
ทั้งนี้ ดร.เนตรนภิส ระบุด้วยว่า การบริโภคโซเดียมในปริมาณมากเกินไปเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมตัวเองด้วยการบอกผู้ค้าว่า ขอรสอ่อน และลดการซดน้ำแกง ก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ หรือควรทำอาหารรับประทานเองอย่างน้อยให้ได้วันละมื้อ โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นของสด และลดการบริโภคอาหารแปรรูปที่มีโซเดียมแฝง เพื่อสุขภาพที่ดี
ขณะที่ ดร. นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้แนะนำให้คนไทยลดบริโภคเค็มหรือโซเดียมลดลง เพราะนำไปสู่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง ซึ่งหากบริโภคติดต่อกันนาน ๆ เข้าจะทำให้เกิดความเคยชินต่อรสเค็ม และจะยิ่งบริโภคอาหารโซเดียมสูงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของคนเมือง ทำให้การซื้อหาอาหารและกับข้าวตามถนนหนทางเป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่จากข้อมูลการสำรวจของสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ได้เตือนให้พวกเราทราบว่า อาหารสตรีตฟู้ด รวมทั้งของกินเล่นยอดฮิตหลายเมนู มีปริมาณโซเดียมสูงจนน่าตกใจ !
โดย ดร.เนตรนภิส วัฒนสุชาติ นักวิชัยเชี่ยวชาญจากสถาบัน ได้เปิดเผยผลวิจัยการศึกษาปริมาณโซเดียมและโซเดียมคลอไรด์ในอาหารบาทวิถี (Street Foods) จากการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารริมทางจากเขตต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร โดยเน้นในแหล่งชุมชน สถานที่ทำงาน ร้านอาหาร และรถเข็นตอนกลางคืน รวม 221 ตัวอย่าง 76 ชนิด ประกอบด้วยกับข้าว 27 ชนิด อาหารจานเดียว 29 ชนิด และอาหารว่างหรือขนม 20 ชนิด
จากนั้นนำตัวอย่างอาหารมาตรวจวัดระดับโซเดียม แล้วจัดเป็น 5 ระดับ คือ
- ความเสี่ยงสูง : ปริมาณโซเดียมระหว่าง 1,500-2,000 มิลลิกรัม
- ความเสี่ยงสูงปานกลาง : ปริมาณโซเดียมระหว่าง 1,000-1,500 มิลลิกรัม
- ความเสี่ยงน้อย : ปริมาณโซเดียมระหว่าง 600-1,000 มิลลิกรัม
โดยได้ผลดังนี้
- กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงมาก มี 16 ชนิด หรือร้อยละ 59 เช่น แกงเขียวหวาน แกงเทโพ ต้มยำ/ต้มโคล้ง แกงไตปลา น้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาร้า ผัดกะเพราหมู/ไก่ เป็นต้น
- กลุ่มอาหารเสี่ยงสูง มี 5 ชนิด หรือร้อยละ 18.5 ได้แก่ แกงจืดมะระ ผัดผักรวม ผัดพริกขิงถั่วฝักยาว หมูทอดกระเทียมพริกไทย และหลนเต้าเจี้ยว/ปู
- กลุ่มอาหารเสี่ยงปานกลาง มี 5 ชนิด หรือร้อยละ 18.5 ได้แก่ แกงเลียง ปลาทูต้มเค็ม หน่อไม้ผัดพริก กุนเชียง และน้ำพริกอ่อง
- กลุ่มอาหารเสี่ยงน้อย มี 1 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 4 คือ ปูผัดผงกะหรี่
อาหารประเภทจานเดียว
- กลุ่มอาหารเสี่ยงสูง มี 5 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 17 ได้แก่ โจ๊กหมู ยำรวมมิตร ลาบหมู ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า
- กลุ่มอาหารเสี่ยงปานกลาง มี 12 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 41 เช่น น้ำตกหมู ผัดไทย หอยทอด ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด เป็นต้น
- กลุ่มอาหารเสี่ยงน้อย มี 2 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 7 ได้แก่ ข้าวราดผัดกะเพราหมู/ไก่ และข้าวไข่เจียว
อาหารประเภทของว่างหรือขนม
- กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง มี 8 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 40 ได้แก่ ไส้กรอกทอด คอหมูย่าง ทอดมันปลากราย ขนมกุยช่าย เปาะเปี๊ยะทอด ไก่ทอด ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน และลูกชิ้นปิ้ง
- กลุ่มอาหารเสี่ยงปานกลาง มี 6 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 30 ได้แก่ หมูปิ้ง ไส้กรอกอีสาน ไก่ย่าง ปลาหมึกย่าง ขนมจีบ และกล้วยทอด
- กลุ่มอาหารเสี่ยงต่ำ มี 6 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 30 ได้แก่ ข้าวเหนียวสังขยา ขนมครก สาคูไส้หมู กล้วยบวชชี ตะโก้สาคู และซาลาเปาไส้หมู
ทั้งนี้ ดร.เนตรนภิส ระบุด้วยว่า การบริโภคโซเดียมในปริมาณมากเกินไปเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมตัวเองด้วยการบอกผู้ค้าว่า ขอรสอ่อน และลดการซดน้ำแกง ก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ หรือควรทำอาหารรับประทานเองอย่างน้อยให้ได้วันละมื้อ โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นของสด และลดการบริโภคอาหารแปรรูปที่มีโซเดียมแฝง เพื่อสุขภาพที่ดี
ขณะที่ ดร. นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้แนะนำให้คนไทยลดบริโภคเค็มหรือโซเดียมลดลง เพราะนำไปสู่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง ซึ่งหากบริโภคติดต่อกันนาน ๆ เข้าจะทำให้เกิดความเคยชินต่อรสเค็ม และจะยิ่งบริโภคอาหารโซเดียมสูงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ