ส่องผลไม้ให้พลังงานไม่เกิน 60 กิโลแคลอรี กินเท่านี้สิไม่อ้วน

          ผลไม้ 60 กิโลแคลอรีนี่ต้องกินปริมาณเท่าไร แต่ละชนิดต้องกินปริมาณกี่กรัม อยากรู้ต้องอ่าน ผลไม้แคลอรีต่ำ กินแล้วไม่อ้วนมีอะไรบ้าง
          ผลไม้จัดเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ถ้ากินมากเกินไปก็อาจให้โทษแก่ร่างกายได้ อย่างน้อยก็ทำให้อ้วนขึ้นได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงมีคำแนะนำให้กินผลไม้อย่างเหมาะสม คือกินผลไม้ให้ได้ 3-5 ส่วนต่อวัน แต่เอ๊ะ...แล้วผลไม้ 1 ส่วน แต่ละชนิดต้องกินเท่าไรกันล่ะ มาเช็กเลยดีกว่าว่า ผลไม้ 1 ส่วน ซึ่งก็คือผลไม้ที่ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี ต้องกินมาก-น้อยขนาดไหน

1. กล้วย

          กล้วยจัดเป็นผลไม้ขนาดกลาง ถ้าให้กินกล้วย 1 ส่วน โดยได้รับพลังงานจากกล้วยประมาณ 60 กิโลแคลอรี ก็ควรกินกล้วยไข่ 2 ผลเล็ก หรือกินกล้วยน้ำว้า 1 ผลเล็ก ทั้งนี้กล้วยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารอาหารก็มากมาย แถมยังไฟเบอร์เยอะ ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้ด้วยนะ

- ประโยชน์ของกล้วย ช่วยเรื่องสุขภาพ มีประโยชน์มากกว่าที่คิด

2. ส้ม

         ส้มเป็นผลไม้ลดน้ำหนักที่หลายคนชอบมาก ๆ กินแล้วอร่อย สดชื่น และส้มยังเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีอยู่มาก ประโยชน์ต่อสุขภาพก็ไม่น้อยหน้าผลไม้ชนิดไหน ซึ่งถ้าอยากกินส้มแบบพอดี ๆ ไม่ให้ร่างกายได้น้ำตาลจากผลไม้มากจนเกินไป ก็แนะนำให้กินส้ม 1-2 ผลกลาง จะได้รับพลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี

- 12 ประโยชน์ของส้ม สรรพคุณมากล้น กินส้มวันละผลยิ่งดี !

3. ชมพู่

          ชมพู่ในปริมาณที่ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี จะอยู่ที่จำนวน 1 ผลใหญ่ ส่วนสรรพคุณของชมพู่ก็ไม่ต้องพูดเยอะ เพราะจัดเป็นผลไม้ลดน้ำหนักอย่างหนึ่งด้วยนะ

4. แอปเปิล

          ผลไม้ที่กินแล้วผิวสวยก็ต้องแอปเปิล และแอปเปิลยังเป็นผลไม้เพื่อนซี้ของคนลดน้ำหนักด้วยนะ แต่ถ้าอยากกินแอปเปิลแบบพอเหมาะ ไม่ทำให้น้ำหนักขึ้น 60 กิโลแคลอรีของแอปเปิลจะอยู่ที่ไม่เกิน 1 ผล

- มหัศจรรย์แห่งแอปเปิลต่างสี ประโยชน์ก็ดีต่างกัน

5. แตงโม

          โอ้...นั่นมันบักแตงโม เนื้อแดง ๆ หวาน ๆ กินแล้วชื่นใจ เพราะแตงโมเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำ มีวิตามิน มีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างไลโคปีน ที่สำคัญคือแตงโมเป็นผลไม้แคลอรีต่ำ ทว่าถ้าในปริมาณที่เหมาะสม เราก็ควรกินแตงโมประมาณ 6-8 ชิ้นคำ ซึ่งจะให้พลังงานราว ๆ 60 กิโลแคลอรีเท่านั้น

- แตงโม ผลไม้คลายร้อนทรงคุณค่า หวานฉ่ำมากล้ำสรรพคุณ

6. มะละกอ

          ผลไม้แก้ท้องผูกก็ต้องมีชื่อของมะละกออยู่ด้วยแน่ ๆ และมะละกอที่เนื้อสีส้มยังมีสารฟลาโวนอยด์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง รสชาติหวานกลาง ๆ แถมช่วยบำรุงผิวพรรณ ซึ่งถ้าอยากจัดมะละกอ 1 ส่วน หรือในปริมาณที่ให้พลังงาน 60 กิโลแคลอรี ก็กินมะละกอประมาณ 6-8 ชิ้นคำกำลังดี

- ประโยชน์ของมะละกอ ผลไม้สรรพคุณเด่น เป็นได้ทั้งคาว-หวาน

7. สับปะรด

          สับปะรดประมาณ 6-8 ชิ้นพอดีคำ ให้พลังงานราว ๆ 50-60 กิโลแคลอรี และนอกจากสับปะรดจะมีรสหวานอมเปรี้ยว ไฟเบอร์สูง วิตามิน-แร่ธาตุก็มากแล้ว ในสับปะรดยังมีเอนไซม์โบมีเลียน (Bromelian) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีคุณสมบัติช่วยย่อยโปรตีนได้ดี ส่งผลให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารโดยเฉพาะโปรตีนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ง่าย ดังนั้นใครกำลังลดน้ำหนักและสร้างกล้ามเนื้อไปพร้อม ๆ กัน สับปะรดคือผลไม้ที่ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวค่ะ

8. แก้วมังกร

          แก้วมังกรขนาด 1 ส่วน หรือที่ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี จะอยู่ที่ครึ่งผลกลาง ส่วนประโยชน์ของแก้วมังกร ก็ยืนหนึ่งเรื่องที่เป็นผลไม้ลดน้ำหนัก ยิ่งเมล็ดสีดำ ๆ ที่อยู่ในเนื้อแก้วมังกรก็เป็นตัวช่วยที่ดีในการขัดสิ่งตกค้างในลำไส้ ทั้งยังมีไฟเบอร์สูง ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดก็ได้

- แก้วมังกร 10 คุณประโยชน์สุดแจ่ม แย้มให้ฟังแล้วต้องรีบลอง

9. ฝรั่ง

          ฝรั่งในจำนวนที่ให้พลังงาน 60 กิโลแคลอรี ก็ควรกินฝรั่งประมาณครึ่งผลขนาดกลาง ซึ่งนอกจากจะทำให้รู้สึกอิ่มอยู่ท้องแล้ว ฝรั่งยังเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง มีวิตามินและแร่ธาตุเยอะพอสมควร คนกำลังลดน้ำหนักก็กินได้สบาย ๆ

- ฝรั่ง ตัวช่วยลดน้ำหนัก ผลไม้ยามว่าง สำหรับสาวอยากผอม

10. มะม่วง

          สำหรับคนที่ชอบกินมะม่วง ยิ่งเป็นมะม่วงมันก็คงกินได้เพลิน ๆ หลายลูกต่อครั้ง แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ เพราะอย่าลืมว่ามะม่วงเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ดังนั้นกินมะม่วง 1 ส่วน หรือประมาณครึ่งผลขนาดกลาง ซึ่งจะให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี จะดีกว่า ได้วิตามิน ไฟเบอร์ และพลังงานจากมะม่วงในสัดส่วนที่กำลังดี

- ประโยชน์ของมะม่วง ผลไม้มากคุณค่า ไม่คว้าไว้จะเสียใจ

11. สาลี่

          สาลี่เป็นผลไม้ขนาดกลาง มีรสหวาน ฉ่ำน้ำ กินแล้วอร่อยจนหลายคนอาจเผลอกินสาลี่มากเกินกว่าที่ควร ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดี น้ำหนักไม่ขึ้น ก็ควรรับประทานสาลี่ 1 ส่วน หรือประมาณ 1 ผลขนาดกลาง ซึ่งจะให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรีเท่านั้นเอง

- 8 ประโยชน์ของสาลี่ ผลไม้ฉ่ำน้ำความหมายดี วิตามินก็มีไม่น้อย

12. แคนตาลูป

          แคนตาลูปเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งเป็นธาตุอาหารสำคัญที่ช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต และมีส่วนช่วยให้สมองได้รับออกซิเจนมากขึ้น ที่สำคัญเห็นแบบนี้แคนตาลูปก็เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงด้วยนะ 1 ส่วนของแคนตาลูปก็ประมาณ 6-8 ชิ้นคำ ให้พลังงานไม่เกิน 60 กิโลแคลอรีเลย

13. สตรอว์เบอร์รี

          ผลไม้สีแดงที่ช่วยควบคุมความดันโลหิตและชะลอการอุดตันของเส้นเลือด มีวิตามินซีสูงไม่ใช่เล่น และมีซูเปอร์ไฟเบอร์เพคตินช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลที่เกาะตามผนังหลอดเลือดได้ด้วย ซึ่งสตรอว์เบอร์รี 1 ส่วน คือประมาณ 9 ผล

- 12 ประโยชน์ของสตรอว์เบอร์รี ผลไม้มีดีสีแดงสด

14. ส้มโอ

          ส้มโอเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง วิตามินซีสูง และให้พลังงานไม่มาก ทาน 2 กลีบขนาดกลาง ให้พลังงานเพียง 41 กิโลแคลอรีเท่านั้นเอง จัดเป็นผลไม้ช่วยลดน้ำหนักได้ดีอีกประเภท

 

15. มังคุด

          ราชินีแห่งผลไม้ไทยที่ไม่ได้แค่ช่วยปราบอาการร้อนในจากทุเรียน ถึงจะมีรสหวานแต่ก็ให้พลังงานต่ำ ทาน 1 ส่วน คือ 4 ผล ให้พลังงานไม่เกิน 60 กิโลแคลอรี แถมยังมีเส้นใยสูง จึงเป็นประโยชน์ต่อการขับถ่าย ทำให้ท้องไม่อืด

- ประโยชน์ของมังคุด ราชินีแห่งผลไม้ไทยที่ต้องลิ้มลอง

          ได้รู้กันไปแล้วว่าผลไม้ 1 ส่วน ที่ให้พลังงานไม่เกิน 60 กิโลแคลอรีต้องกินประมาณแค่ไหน แต่ก็ต้องย้ำกันอีกทีว่าผลไม้แต่ละชนิดจะมีน้ำหนักและขนาดที่แตกต่างกัน งั้นก็เอาเป็นว่าเราก็เลือกกินผลไม้อย่างพอเหมาะและอย่าลืมกินผัก-ผลไม้ให้หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้สารอาหารที่ครบถ้วน ที่สำคัญควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วยนะคะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

สำนักโภชนาการ กรมอนามัย, สำนักโภชนาการ กรมอนามัย

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ส่องผลไม้ให้พลังงานไม่เกิน 60 กิโลแคลอรี กินเท่านี้สิไม่อ้วน อัปเดตล่าสุด 3 พฤษภาคม 2566 เวลา 08:35:14 71,909 อ่าน
TOP
x close