เดอร์มอยด์ซีสต์ ถุงน้ำในรังไข่ อันตรายไหม อาการแบบไหนต้องระวัง !

           มาทำความรู้จักเดอร์มอยด์ซีสต์ หรือก้อนซีสต์ที่มีเส้นผม ฟัน เศษเล็บ อยู่ในนั้น หลายคนงงว่าทำไมอวัยวะบางส่วนของร่างกายไปอยู่ในช่องท้องได้ เอาเป็นว่าอาการนี้ไม่ได้โดนคุณไสย แต่เป็นภาวะผิดปกติของร่างกายที่สาว ๆ ต้องสังเกตตัวเองให้ดี

เดอร์มอยด์ซีสต์

          เรื่องภายในของสาว ๆ เป็นอะไรที่คาดเดาแทบไม่ได้ ดูอย่างซีสต์ในรังไข่ อยู่ดี ๆ ก็เจอว่ามีเศษเล็บ ฟัน เส้นผม ไขมัน อยู่ในก้อนซีสต์นั้น ทำเอาหลายคนคิดไปไกลว่าโดนเสกอะไรเข้าท้องหรือเปล่า ใจเย็น ๆ ค่ะสาว ๆ ลักษณะก้อนซีสต์ที่พบว่ามีอวัยวะบางอย่างงอกอยู่ในนั้นไม่ใช่ผลจากคุณไสย แต่เป็นความผิดปกติที่อยากให้ผู้หญิงทุกคนทำความเข้าใจเดอร์มอยด์ซีสต์ (Dermoid Cyst) เอาไว้สักหน่อย

เดอร์มอยด์ซีสต์ (Dermoid cyst) คืออะไร

          เดอร์มอยด์ซีสต์ เป็นโรคถุงน้ำรังไข่ หรือซีสต์รังไข่ชนิดหนึ่ง ที่มีความผิดปกติของเซลล์ที่สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ เกิดเจริญเติบโตอยู่ผิดที่ แทนที่จะพัฒนาเป็นเซลล์ที่ผิวหนัง กลับมาเจริญอยู่ในรังไข่ โดยความผิดปกตินี้จะเป็นกันตั้งแต่เกิด ทำให้เดอร์มอยด์ซีสในรังไข่ มีเส้นผม หนังศีรษะ ฟัน หรือเล็บ อยู่ในนั้นได้

          ทั้งนี้ เดอร์มอยด์ซีสต์สามารถพบได้หลายขนาด ตั้งแต่ 1-30 เซนติเมตร ลักษณะเดอร์มอยด์ซีสต์มักจะเป็นก้อนทรงรีคล้ายไข่ไก่ ผิวเรียบ ภายในมีของเหลวและมีอวัยวะดังที่กล่าวไป

เดอร์มอยด์ซีสต์

เดอร์มอยด์ซีสต์ ใครเสี่ยงบ้าง

          แม้เดอร์มอยด์ซีสจะเป็นความผิดปกติโดยกำเนิด แต่มักจะตรวจพบได้บ่อยในวัยเจริญพันธุ์ ช่วงอายุ 30 ปี โดยเฉลี่ย

เดอร์มอยด์ซีสต์ อาการเป็นอย่างไร

          เดอร์มอยด์ซีสต์มักไม่ค่อยแสดงอาการชี้ชัด แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมาพบแพทย์ด้วยอาการ ดังต่อไปนี้

               * ปวดท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง

               * หน้าท้องหนาผิดปกติ

               * คลำพบก้อนในช่องท้อง

               * บางรายอาจมีอาการปวดประจำเดือนหรือประจำเดือนมามากบ่อย ๆ

          อย่างไรก็ตาม เดอร์มอยด์ซีสต์มักไม่มีอาการบ่งชี้ที่ชัดเจน ดังนั้นสาว ๆ ควรไปตรวจภายในและอัลตราซาวด์เพื่อตรวจดูมดลูกและรังไข่เป็นประจำทุกปี

เดอร์มอยด์ซีสต์

เดอร์มอยด์ซีสต์ รักษาอย่างไร

          การรักษาเดอร์มอยด์ซีสต์สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเท่านั้น ไม่สามารถรักษาเดอร์มอยด์ซีสต์ด้วยการกินหรือฉีดฮอร์โมนเหมือนซีสต์ชนิดอื่น ๆ

เดอร์มอยด์ซีสต์ อันตรายไหม

          หากถุงน้ำเดอร์มอยด์ซีสต์มีขนาดใหญ่ ก็อาจเสี่ยงต่อการก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน ดังนี้

     1. ถุงน้ำบิดขั้ว (Torsion)

          หากถุงน้ำบิดขั้ว จะมีอาการปวดท้องน้อยด้านใดด้านหนึ่งอย่างรุนแรง กดเจ็บที่ท้องน้อย คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ต่ำ ๆ ซึ่งหากไม่ได้รับการผ่าตัดอาจทำให้รังไข่ข้างนั้นขาดเลือดไปเลี้ยงเป็นเวลานาน ส่งผลให้รังไข่เน่า และต้องตัดรังไข่ข้างนั้นทิ้งในที่สุด

     2. ถุงน้ำแตกหรือรั่ว (Rupture or Leakage)

          ภาวะแทรกซ้อนนี้ถือว่าอันตราย เพราะหากถุงน้ำแตกหรือรั่ว อาจก่อให้เกิดอาการปวดท้องน้อยเฉียบพลัน ปวดแทบจะตลอดเวลา และอาจมีเลือดออกในช่องท้องมากจนเกิดภาวะช็อกได้

     3. ติดเชื้อ (Infection)

          ภาวะนี้อาจพบได้ไม่บ่อย แต่หากมีการติดเชื้อจากเดอร์มอยด์ซีสต์ ผู้ป่วยอาจมีไข้สูง ร่วมกับปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง

เดอร์มอยด์ซีสต์

เดอร์มอยด์ซีสต์ จะเป็นมะเร็งได้ไหม

          โอกาสในการที่เดอร์มอยด์ซีสต์จะพัฒนาเป็นมะเร็งนั้นมีเพียง 1% เท่านั้น และการที่จะทราบได้ว่าถุงน้ำเดอร์มอยด์ซีสต์เสี่ยงเป็นมะเร็งไหม ก็ต้องผ่าตัดนำก้อนซีสต์นั้นออกมาตรวจให้ชัวร์อีกที

          แม้เดอร์มอยด์ซีสต์จะไม่ใช่คุณไสยอย่างที่กลัวกัน แต่ความอันตรายก็ไม่น้อยซะทีเดียวนะคะ ดังนั้นสาว ๆ ควรไปตรวจภายในกันเป็นประจำทุกปี เพราะเดอร์มอยด์ซีสต์ไม่มีวิธีป้องกันซะด้วยสิ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
amarinbabyandkids
เฟซบุ๊ก ใกล้หมอจิ๋ม
โรงพยาบาลกรุงเทพ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เดอร์มอยด์ซีสต์ ถุงน้ำในรังไข่ อันตรายไหม อาการแบบไหนต้องระวัง ! อัปเดตล่าสุด 21 พฤศจิกายน 2562 เวลา 14:56:06 35,423 อ่าน
TOP
x close