เมื่ออายุมากขึ้นจะเตี้ยลงทุกคนไหม หรือความเตี้ยลงจะเป็นสัญญาณโรคกระดูกพรุน ข้อเข่าเสื่อมหรือเปล่า ลองเช็กดูว่า แก่แล้วทำไมเตี้ยลง
![อายุมากขึ้น ทำไมเตี้ยลง อายุมากขึ้น ทำไมเตี้ยลง]()
หลายคนสงสัยว่าความสูงของเราจะลดลงได้ไหมเมื่อเราอายุมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนเคยวัดส่วนสูงแล้วมันมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ เอาล่ะค่ะ มาลองไขข้อข้องใจ อะไรที่เป็นสาเหตุให้เตี้ยลงได้บ้าง แล้วจะมีวิธีป้องกันความสูงลดลงเมื่อเราอายุมากขึ้นหรือเปล่า
เตี้ยลง เพราะอะไร
![อายุมากขึ้น ทำไมเตี้ยลง อายุมากขึ้น ทำไมเตี้ยลง]()
โดยปกติแล้วร่างกายจะหยุดการเจริญเติบโตทางด้านส่วนสูงที่อายุประมาณ 20 ปี ซึ่งเพศหญิงจะหยุดสูงเร็วกว่าเพศชาย และเมื่ออายุย่างเข้าเลข 4 ความสูงของเราจะค่อย ๆ ลดลงประมาณ 1 เซนติเมตร หรือประมาณครึ่งนิ้วทุก ๆ 10 ปี ซึ่งความสูงอายุก็มักจะมาพร้อมกับสภาพร่างกายที่เสื่อมลงไปด้วย หลาย ๆ อวัยวะของเราจะทำงานลดลง บางฮอร์โมนก็หยุดหลั่งไปซะเฉย ๆ เช่นเดียวกันกับความสูง ที่เมื่อก่อนเคยมีมากกว่านี้ แต่เพราะสาเหตุด้านล่างนี้แหละที่อาจทำให้เตี้ยลงได้
ความเสื่อมของหมอนรองกระดูก
เมื่ออายุมากขึ้นหมอนรองกระดูกสันหลังอาจมีภาวะยุบ ทำให้ความยาวของกระดูกสันหลังลดลง ความสูงเลยลดลงตามไปด้วย
การอยู่ในอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม
ไม่ว่าจะนั่งหลังค่อม นั่งไขว่ห้าง นั่งกอดอก หรือการยืนโดยลงน้ำหนักที่ขาข้างใดข้างหนึ่งจนติดเป็นนิสัย พฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้กระดูกมีการคด งอ ผิดรูป ทำให้ความสูงลดลงไปได้
กระดูกพรุน
เกิดจากการที่ร่างกายเกิดความไม่สมดุลในการสร้างและทำลายกระดูก ส่งผลให้มีการทำลายมวลกระดูกมากขึ้น แต่สร้างมวลกระดูกน้อยลง จนกลายเป็นโรคกระดูกพรุน กระดูกจึงมีขนาดเล็กและสั้นลง ส่วนสูงก็ลดลงในที่สุด โดยเฉพาะคนที่มีส่วนสูงลดลงมากกว่า 4 เซนติเมตร ต้องรีบเช็กมวลกระดูกกับแพทย์โดยด่วน
ข้อเข่าเสื่อม
![อายุมากขึ้น ทำไมเตี้ยลง อายุมากขึ้น ทำไมเตี้ยลง]()
ภาวะข้อเข่าเสื่อมอาจเกิดจากการเสื่อมของร่างกาย การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ทำให้เข่าต้องรับแรงกดจนเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หรือปัจจัยเสี่ยงอย่างการใช้ข้อเข่าที่ไม่เหมาะสม อุบัติเหตุ การติดเชื้อต่าง ๆ ก็อาจทำให้เข่าเสื่อมสภาพในด้านโครงสร้าง เกิดการทรุด คด งอ ผิดรูป จนทำให้เตี้ยลงได้
- รู้จักโรคข้อเข่าเสื่อม และวิธีออกกำลังที่เหมาะสม
วัยหมดประจำเดือน
ผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลงหรือหายไป ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้มีผลกับการสร้างและลดมวลกระดูกในร่างกาย ทำให้ผู้หญิงวัยนี้เสี่ยงโรคกระดูกพรุนมากขึ้น และจะสังเกตได้ว่าความสูงลดลงจากที่เคยเป็นด้วย
การใช้ยาสเตียรอยด์ติดต่อกันนาน ๆ
ผู้ป่วยที่ต้องรักษาด้วยยาสเตียรอยด์ติดต่อกันนานกว่า 3 เดือน อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนเมื่อสูงอายุได้
พฤติกรรมดื่มสุราและสูบบุหรี่
นอกจากทำลายสุขภาพด้านอื่น ๆ แล้ว การสูบบุหรี่หรือดื่มสุราเป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนทำให้ความสูงลดลงได้
วิธีชะลอให้ส่วนสูงลดลงช้าหน่อย
![ความสูง ความสูง]()
แม้ว่าเราจะปฏิเสธความเสื่อมของร่างกายไม่ได้ แต่เราสามารถชะลอให้ร่างกายเสื่อมช้าลงได้ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. รับประทานอาหารเสริมกระดูก
![อายุมากขึ้น ทำไมเตี้ยลง อายุมากขึ้น ทำไมเตี้ยลง]()
แคลเซียมเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับกระดูก โดยคนอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับแคลเซียม 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน และควรได้รับวิตามินดีวันละประมาณ 600 IU เพื่อช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกด้วย โดยอาหารแคลเซียมสูงก็ได้แก่ ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียว นม กระดูกอ่อน ถั่ว เต้าหู้ เป็นต้น ส่วนวิตามินดีสามารถรับได้จากแสงแดด ดังนั้น ควรพยายามสัมผัสแสงแดดช่วงเช้าให้ได้ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 15 นาที
- 12 อาหารอุดมแคลเซียม ไม่ต้องง้อนมเลยก็ได้
- 12 ผักแคลเซียมสูง ทางเลือกเสริมกระดูกแข็งแรง
2. ออกกำลังกายเป็นประจำ
ควรหมั่นออกกำลังกายตั้งแต่อายุยังน้อย และหากไม่มีปัญหาเรื่องกระดูก ข้อเข่า หรือน้ำหนักตัว แนะนำให้ออกกำลังกายแบบลงน้ำหนัก (Weight-bearing exercises) หรือการออกกำลังกายแบบต้านแรงโน้มถ่วง เช่น การเดิน วิ่งเหยาะ ๆ รำมวยจีน เต้นรำ วิดพื้น หรือกระโดดเชือก ซึ่งการออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างมวลกระดูก ป้องกันการสูญเสียกระดูก ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น และยังทำให้กล้ามเนื้อและระบบเลือดทำงานได้ดีขึ้นด้วย แต่หากใครมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ไม่สามารถออกกำลังกายแนวนี้ได้ ลองปรึกษาแพทย์ว่าควรเลือกออกกำลังกายแบบไหนถึงจะเหมาะ
- 15 วิธีออกกำลังกายเพิ่มส่วนสูง + ช่วยลดน้ำหนัก
3. พยายามอยู่ในท่าที่เหมาะสม
อย่างที่รู้กันว่าการนั่งไขว่ห้าง การนั่งหลังค่อม อาจทำให้กระดูกคด งอ โค้ง จนเตี้ยลงได้ ดังนั้นพยายามหลีกเลี่ยงอิริยาบถที่ไม่ดีต่อกระดูกจะดีกว่า
4. หลีกเลี่ยงการสูบบุรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
ตัวบั่นทอนมวลกระดูกอย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ถ้าเป็นไปได้ควรเลี่ยงให้ไกล
5. หลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์
แม้ยาสเตียรอยด์จะรักษาอาการป่วยบางอย่างได้ค่อนข้างดี แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาประเภทนี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะส่งผลเสียต่อมวลกระดูกของร่างกายได้
ถ้าไม่อยากให้ความสูงของตัวเราลดลง ก็พยายามดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี นอกจากนี้ควรหมั่นเช็กความผิดปกติของตัวเองด้วย อย่างถ้าพบว่าความสูงของตัวเองลดลงเกิน 4 เซนติเมตร แบบนี้ต้องหาเวลาไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพแล้วนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลลานนา, รามา แชนแนล, หมอชาวบ้าน, โรงพยาบาลพญาไท, huffpost

เตี้ยลง เพราะอะไร

โดยปกติแล้วร่างกายจะหยุดการเจริญเติบโตทางด้านส่วนสูงที่อายุประมาณ 20 ปี ซึ่งเพศหญิงจะหยุดสูงเร็วกว่าเพศชาย และเมื่ออายุย่างเข้าเลข 4 ความสูงของเราจะค่อย ๆ ลดลงประมาณ 1 เซนติเมตร หรือประมาณครึ่งนิ้วทุก ๆ 10 ปี ซึ่งความสูงอายุก็มักจะมาพร้อมกับสภาพร่างกายที่เสื่อมลงไปด้วย หลาย ๆ อวัยวะของเราจะทำงานลดลง บางฮอร์โมนก็หยุดหลั่งไปซะเฉย ๆ เช่นเดียวกันกับความสูง ที่เมื่อก่อนเคยมีมากกว่านี้ แต่เพราะสาเหตุด้านล่างนี้แหละที่อาจทำให้เตี้ยลงได้
ความเสื่อมของหมอนรองกระดูก
เมื่ออายุมากขึ้นหมอนรองกระดูกสันหลังอาจมีภาวะยุบ ทำให้ความยาวของกระดูกสันหลังลดลง ความสูงเลยลดลงตามไปด้วย
การอยู่ในอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม

ไม่ว่าจะนั่งหลังค่อม นั่งไขว่ห้าง นั่งกอดอก หรือการยืนโดยลงน้ำหนักที่ขาข้างใดข้างหนึ่งจนติดเป็นนิสัย พฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้กระดูกมีการคด งอ ผิดรูป ทำให้ความสูงลดลงไปได้
กระดูกพรุน
เกิดจากการที่ร่างกายเกิดความไม่สมดุลในการสร้างและทำลายกระดูก ส่งผลให้มีการทำลายมวลกระดูกมากขึ้น แต่สร้างมวลกระดูกน้อยลง จนกลายเป็นโรคกระดูกพรุน กระดูกจึงมีขนาดเล็กและสั้นลง ส่วนสูงก็ลดลงในที่สุด โดยเฉพาะคนที่มีส่วนสูงลดลงมากกว่า 4 เซนติเมตร ต้องรีบเช็กมวลกระดูกกับแพทย์โดยด่วน
ข้อเข่าเสื่อม

ภาวะข้อเข่าเสื่อมอาจเกิดจากการเสื่อมของร่างกาย การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ทำให้เข่าต้องรับแรงกดจนเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หรือปัจจัยเสี่ยงอย่างการใช้ข้อเข่าที่ไม่เหมาะสม อุบัติเหตุ การติดเชื้อต่าง ๆ ก็อาจทำให้เข่าเสื่อมสภาพในด้านโครงสร้าง เกิดการทรุด คด งอ ผิดรูป จนทำให้เตี้ยลงได้
- รู้จักโรคข้อเข่าเสื่อม และวิธีออกกำลังที่เหมาะสม
วัยหมดประจำเดือน
ผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลงหรือหายไป ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้มีผลกับการสร้างและลดมวลกระดูกในร่างกาย ทำให้ผู้หญิงวัยนี้เสี่ยงโรคกระดูกพรุนมากขึ้น และจะสังเกตได้ว่าความสูงลดลงจากที่เคยเป็นด้วย
การใช้ยาสเตียรอยด์ติดต่อกันนาน ๆ

ผู้ป่วยที่ต้องรักษาด้วยยาสเตียรอยด์ติดต่อกันนานกว่า 3 เดือน อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนเมื่อสูงอายุได้
พฤติกรรมดื่มสุราและสูบบุหรี่
นอกจากทำลายสุขภาพด้านอื่น ๆ แล้ว การสูบบุหรี่หรือดื่มสุราเป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนทำให้ความสูงลดลงได้

1. รับประทานอาหารเสริมกระดูก

แคลเซียมเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับกระดูก โดยคนอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับแคลเซียม 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน และควรได้รับวิตามินดีวันละประมาณ 600 IU เพื่อช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกด้วย โดยอาหารแคลเซียมสูงก็ได้แก่ ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียว นม กระดูกอ่อน ถั่ว เต้าหู้ เป็นต้น ส่วนวิตามินดีสามารถรับได้จากแสงแดด ดังนั้น ควรพยายามสัมผัสแสงแดดช่วงเช้าให้ได้ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 15 นาที
- 12 อาหารอุดมแคลเซียม ไม่ต้องง้อนมเลยก็ได้
- 12 ผักแคลเซียมสูง ทางเลือกเสริมกระดูกแข็งแรง
2. ออกกำลังกายเป็นประจำ

ควรหมั่นออกกำลังกายตั้งแต่อายุยังน้อย และหากไม่มีปัญหาเรื่องกระดูก ข้อเข่า หรือน้ำหนักตัว แนะนำให้ออกกำลังกายแบบลงน้ำหนัก (Weight-bearing exercises) หรือการออกกำลังกายแบบต้านแรงโน้มถ่วง เช่น การเดิน วิ่งเหยาะ ๆ รำมวยจีน เต้นรำ วิดพื้น หรือกระโดดเชือก ซึ่งการออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างมวลกระดูก ป้องกันการสูญเสียกระดูก ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น และยังทำให้กล้ามเนื้อและระบบเลือดทำงานได้ดีขึ้นด้วย แต่หากใครมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ไม่สามารถออกกำลังกายแนวนี้ได้ ลองปรึกษาแพทย์ว่าควรเลือกออกกำลังกายแบบไหนถึงจะเหมาะ
- 15 วิธีออกกำลังกายเพิ่มส่วนสูง + ช่วยลดน้ำหนัก
3. พยายามอยู่ในท่าที่เหมาะสม
อย่างที่รู้กันว่าการนั่งไขว่ห้าง การนั่งหลังค่อม อาจทำให้กระดูกคด งอ โค้ง จนเตี้ยลงได้ ดังนั้นพยายามหลีกเลี่ยงอิริยาบถที่ไม่ดีต่อกระดูกจะดีกว่า
4. หลีกเลี่ยงการสูบบุรี่ และดื่มแอลกอฮอล์

ตัวบั่นทอนมวลกระดูกอย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ถ้าเป็นไปได้ควรเลี่ยงให้ไกล
5. หลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์
แม้ยาสเตียรอยด์จะรักษาอาการป่วยบางอย่างได้ค่อนข้างดี แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาประเภทนี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะส่งผลเสียต่อมวลกระดูกของร่างกายได้
ถ้าไม่อยากให้ความสูงของตัวเราลดลง ก็พยายามดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี นอกจากนี้ควรหมั่นเช็กความผิดปกติของตัวเองด้วย อย่างถ้าพบว่าความสูงของตัวเองลดลงเกิน 4 เซนติเมตร แบบนี้ต้องหาเวลาไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพแล้วนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลลานนา, รามา แชนแนล, หมอชาวบ้าน, โรงพยาบาลพญาไท, huffpost