x close

ใช้กระดาษทิชชูเช็ดจุดซ่อนเร้นหลังเข้าห้องน้ำ เสี่ยงติดเชื้อ HPV เป็นมะเร็งปากมดลูกได้จริงหรือ ?!

          กระดาษทิชชูเช็ดจุดซ่อนเร้น เป็นไอเทมที่สาว ๆ ใช้เช็ดจุดสงวนหลังปัสสาวะเสร็จกันอย่างแพร่หลาย แล้วที่ว่ากระดาษทิชชูนี้เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งปากมดลูก เป็นเรื่องจริงหรือแค่เข้าใจผิดกันไปเองกันแน่
ใช้ทิชชูเช็ดจุดซ่อนเร้น

         มะเร็งปากมดลูก เป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยมานักต่อนัก และเราพอทราบกันว่าสาเหตุหลักของโรคนี้คือเชื้อไวรัส HPV แต่ที่อาจจะยังไม่เคลียร์กันก็คือ เชื้อตัวนี้ติดกันได้ง่าย ๆ ผ่านกระดาษทิชชูที่ใช้เช็ดทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นเลยหรือ และวันนี้เราจะพามาหาคำตอบกันว่ากระดาษชำระในห้องน้ำ อันตรายไหม

ใช้กระดาษทิชชูเช็ดจุดซ่อนเร้น
ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้จริงไหม

กระดาษชำระ

         จากข้อมูลของรายการชัวร์ก่อนแชร์ ที่เคยได้ไปสอบถาม พ.ต.ต. ภาคภูมิ เตชะขะวนิชกุล นายแพทย์ สบ 2 หน่วยมะเร็งนรีเวช โรงพยาบาลตำรวจ ถึงประเด็นนี้ ทำให้ทราบว่า กระดาษทิชชูอาจเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ที่อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ทำให้มีตกขาวผิดปกติ หรือภาวะตกขาวผิดปกติเรื้อรัง หรือทำให้เกิดอาการคันได้ แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก

         โดยสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูก มาจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) ที่มีอยู่หลายสายพันธุ์ ทั้งชนิดที่ไม่รุนแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคหูด และชนิดรุนแรงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งการจะติดเชื้อไวรัส HPV ที่ก่อโรคมะเร็งปากมดลูกได้ต้องมีการนำเชื้อไวรัสตัวนี้เข้าสู่ปากมดลูก เช่น การมีเพศสัมพันธ์ การใส่ผ้าอนามัยแบบสอด การสวนล้างช่องคลอด หรือนำเอาวัสดุใด ๆ สอดเข้าไปในช่องคลอด แต่ไม่ใช่แค่สัมผัสหรือนั่งทับเชื้อไวรัส HPV แล้วจะก่อโรคมะเร็งปากมดลูกได้

         ขณะที่ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวถึงประเด็นนี้เช่นกันว่า ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันแน่ชัดว่าการใช้ทิชชูเช็ดอวัยวะสืบพันธุ์ทำให้เกิดโรคมะเร็งในมนุษย์

ใช้กระดาษทิชชูเช็ดจุดซ่อนเร้น
ปลอดภัยไหม

กระดาษทิชชู

           หากทิชชูที่ใช้อยู่ในลักษณะที่มีรอยเปียก ชื้น หรือผลิตจากวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ อาจไม่ค่อยปลอดภัยต่อน้องสาวของเราเท่าไร ยิ่งในคนที่มีอาการแพ้ง่าย ถ้าใช้กระดาษชำระที่ฟอกขาว ใส่น้ำหอม แต่งสีย้อม หรือเป็นกระดาษรีไซเคิล ก็ยิ่งเสี่ยงต่ออาการแพ้ ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง หรือเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราได้ง่ายขึ้น

           ดังนั้น หากต้องการใช้ทิชชูทำความสะอาดควรเลือกทิชชูที่ผลิตจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม ที่สำคัญก็คือ กระดาษทิชชูต้องแห้งและสะอาด

วิธีตรวจสอบว่า
ทิชชูผสมเยื่อรีไซเคิลหรือไม่

          นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ให้ข้อมูลว่า กระดาษทิชชูที่มีเยื่อรีไซเคิลผสมไม่เหมาะแก่การนำมาทำความสะอาดร่างกาย เพราะทำมาจากกระดาษที่ใช้งานแล้ว และผ่านขั้นตอนการกำจัดหมึกด้วยความร้อน จึงมีสารเรืองแสงตกค้าง ก่อให้เกิดการระคายเคือง อีกทั้งเมื่อสารเรืองแสงได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดยังอาจเหนี่ยวนำให้เกิดสารก่อมะเร็งที่ผิวหนังได้

          สำหรับวิธีสังเกตว่าเป็นกระดาษทิชชูที่ผสมเยื่อรีไซเคิลหรือไม่นั้น ให้ดูจากเนื้อกระดาษที่มักจะมีผิวขรุขระ มีการเติมสีลงไป มีราคาถูก เพราะคุณภาพต่ำกว่ากระดาษทิชชูทั่วไป นอกจากนี้ยังสามารถทดสอบได้ด้วยการนำกระดาษไปจุ่มน้ำ แล้วนำขึ้นมาวางไว้สักครู่ ถ้าเป็นเยื่อรีไซเคิล เนื้อกระดาษจะเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ

วิธีดูแลอวัยวะเพศหญิงหลังปัสสาวะ

วิธีการดูแลอวัยวะเพศหญิง

          เพื่อสุขอนามัยที่ดี สาว ๆ สามารถดูแลจุดซ่อนเร้นหลังเข้าห้องน้ำได้ ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการใช้กระดาษชำระที่มีกลิ่นและสีของสารเคมี รวมทั้งกระดาษที่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม เพื่อลดโอกาสเกิดอาการแพ้

  • ไม่ควรใช้กระดาษชำระที่อยู่ในสภาพเปียกชื้น มีร่องรอยของความสกปรก ไม่ถูกสุขอนามัย 

  • ไม่ควรใช้ทิชชูที่มีเนื้อบางเกินไป เพราะเวลาเช็ดอาจมีเศษทิชชูติดกับจุดซ่อนเร้นหรือเข้าสู่ช่องคลอดได้

  • เลือกใช้ผ้าแห้ง หนา นุ่ม และสะอาด ซับอวัยวะเพศแทนกระดาษชำระ หรือใช้ทิชชูเปียกสำหรับจุดซ่อนเร้นทำความสะอาดแทน

  • แนะนำให้เช็ดจากด้านหน้ามาด้านหลังอย่างเบามือ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อจากรูทวารมาสู่ปากช่องคลอด

  • หลังปัสสาวะเสร็จควรซับจุดซ่อนเร้นให้แห้งดีก่อนสวมใส่กางเกงชั้นใน

           นอกจากนี้หากเกิดอาการผิดปกติกับจุดซ่อนเร้น ไม่ว่าจะเป็นอาการคัน ตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็นอับชื้น หรือเป็นตุ่มคันที่อวัยวะเพศ ควรรีบไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษา เพราะหากปล่อยไว้อาการอาจลุกลามจนเป็นปัญหาสุขภาพใหญ่นะคะ

บทความที่เกี่ยวข้องกับจุดซ่อนเร้น

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ใช้กระดาษทิชชูเช็ดจุดซ่อนเร้นหลังเข้าห้องน้ำ เสี่ยงติดเชื้อ HPV เป็นมะเร็งปากมดลูกได้จริงหรือ ?! อัปเดตล่าสุด 27 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15:29:20 17,008 อ่าน
TOP