เป็นไข้ ไม่สบาย หรือเป็นหวัดที่มีทั้งน้ำมูกและเสมหะ ป่วยแบบนี้ใครก็คงอยากหายเร็ว ๆ และคงจะพยายามทำทุกทางให้อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยหนึ่งในวิธีที่นิยมก็คือหาผลไม้มารับประทานเพื่อเพิ่มทั้งความสดชื่น และเพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินมาเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แล้วอย่างสับปะรดล่ะ เป็นไข้กินสับปะรดได้ไหม หรือป่วยโรคอะไรไม่ควรกินสับปะรดบ้าง มาหาคำตอบกันค่ะ
เป็นไข้ กินสับปะรดได้ไหม
ไม่ว่าจะมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หรือเป็นหวัด ก็สามารถกินสับปะรดได้ค่ะ เนื่องจากสับปะรดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง โดยวิตามินซีจะไปช่วยเสริมกำลังภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับเชื้อโรค อีกทั้งแร่ธาตุต่าง ๆ ในสับปะรดยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอให้เราได้ แถมยังมีเอนไซม์โบรมีเลนที่เก่งในเรื่องต้านการอักเสบและขับเสมหะอีกต่างหาก ที่สำคัญสับปะรดก็จัดเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำ กินแล้วเพิ่มความชุ่มคอ บรรเทาอาการไอไปได้อีกเปลาะ
อย่างไรก็ดี ระดับความรุนแรงของอาการป่วย รวมไปถึงสภาพร่างกายของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้น หากอยากกินสับปะรด อาจจะลองกินไปก่อนสักชิ้นสองชิ้น แล้วเช็กอาการตอบสนองของตัวเองอีกที หรือในกรณีมีอาการป่วยที่รู้สึกกังวล ไม่ใช่แค่เป็นไข้ธรรมดา แนะนำให้สอบถามจากบุคลากรทางการแพทย์ดูก่อนก็ได้ค่ะป่วยโรคอะไรไม่ควรกินสับปะรด
1. ท้องเสีย
2. คลื่นไส้ อาเจียน
3. โรคกระเพาะอาหาร
4. กรดไหลย้อน
5. ปวดประจำเดือน
กรณีนี้อาจเจอแค่ในบางคนนะคะ โดยเฉพาะคนที่ปวดท้องประจำเดือนหนัก ๆ ประจำเดือนมามาก หรือมักจะมีอาการท้องเสียช่วงเป็นประจำเดือน การรับประทานสับปะรดก็อาจเพิ่มการบีบตัวของลำไส้ และก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ ซึ่งจะทำให้สาว ๆ ไม่สบายตัวเข้าไปใหญ่
ทว่าผู้หญิงหลายคนยังสามารถกินสับปะรดได้เป็นปกติ ไม่ได้รู้สึกปวดท้องประจำเดือนมากขึ้น ซึ่งก็มีข้อมูลจากงานวิจัยบางส่วนที่เชื่อว่า โบรมีเลนในสับปะรดอาจช่วยลดการอักเสบ และแมงกานีสในสับปะรดช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จึงช่วยลดอาการปวดท้องได้เหมือนกัน ดังนั้น สาว ๆ ที่มีประจำเดือนจะรับประทานสับปะรดได้หรือไม่นั้นให้ลองสังเกตตัวเองดู เพราะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนเลยค่ะ