มัทฉะกับชาเขียว ต่างกันยังไง
มัทฉะ (Matcha) เป็นชาที่มาจากต้นชาที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Camellia sinensis เหมือนกับชาเขียว (Green Tea) แต่จะถูกปลูกในที่ร่ม ซึ่งจะช่วยเพิ่มคลอโรฟิลล์ เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ สารพฤกษเคมีบางชนิด และสารสำคัญอื่น ๆ ให้กับมัทฉะ
นอกจากนี้กระบวนการผลิตมัทฉะกับชาเขียวก็แตกต่างกัน โดยมัทฉะจะนำใบชามาบดเป็นผงละเอียดเพื่อนำไปชงกับน้ำ แต่ชาเขียวจะถูกเก็บเกี่ยวและอบไอน้ำ จากนั้นนำไปคั่วจนแห้ง เวลาจะดื่มก็นำใบชาไปต้มกับน้ำร้อน แล้วสกัดเอาแต่น้ำชามาดื่ม ซึ่งจะแตกต่างจากมัทฉะที่เราจะได้ดื่มใบชาทั้งใบ ส่งผลให้คุณค่าทางโภชนาการและรสชาติของมัทฉะมีความแตกต่างจากชาเขียวไปด้วย
ประโยชน์ของมัทฉะ ดียังไง
มัทฉะที่เขาเลื่องลือกันมานาน มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้
-
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ : มัทฉะมีสารคาเทชิน โดยเฉพาะสาร EGCG (Epigallocatechin Gallate) มากกว่าชาเขียวถึง 3 เท่า และยังมีสารพฤกษเคมีชนิดต่าง ๆ เช่น คลอโรฟิลล์สูงอีกด้วย จึงมีประโยชน์ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และป้องกันโรคต่าง ๆ อันมีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระ
-
เพิ่มพลังงาน : มัทฉะมีคาเฟอีนประมาณ 38-89 มิลลิกรัมต่อปริมาณมัทฉะ 8 ออนซ์ (ประมาณ 240 มิลลิลิตร) สูงกว่าชาเขียวทั่วไปที่มีคาเฟอีนราว ๆ 23-49 มิลลิกรัม ยิ่งเมื่อมาทำงานร่วมกับคาเทชิน จึงช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและเพิ่มพลังงาน ให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีสมาธิมากขึ้น
-
ช่วยเผาผลาญไขมัน : สารคาเทชินในมัทฉะมีส่วนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน และมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย ส่งดีผลต่อการลดน้ำหนัก
-
ดีต่อสมองและช่วยผ่อนคลาย : มัทฉะมีแอล-ธีอะนีน (L-theanine) ที่มีผลต่อวงจรการทำงานของสมอง กระตุ้นให้เกิดคลื่นไฟฟ้าสมองชนิดหนึ่งที่เรียกว่า คลื่นอัลฟา (alpha waves) ที่เป็นคลื่นไฟฟ้าช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย จิตใจสงบ มีสมาธิ ลดความวิตกกังวล แต่ไม่ทำให้ง่วงนอน ซึ่งช่วยให้เราจดจ่อกับกิจกรรมที่กำลังทำได้ดีขึ้น
-
ดีต่อใจ : มีงานวิจัยพบว่า สารคาเทชิน ซึ่งเป็นสารในกลุ่มโพลีฟีนอล มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ป้องกันการอักเสบในหลอดเลือด ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
ถ้าเห็นประโยชน์แล้วอยากกินมัทฉะขึ้นมาทันใด ลองมาเก็บเคล็ดลับกินมัทฉะให้ได้ประโยชน์มากที่สุดกันก่อน
เคล็ดลับกินมัทฉะให้ได้ประโยชน์
1. เลือกมัทฉะแท้คุณภาพดี
2. ชงมัทฉะด้วยวิธีดั้งเดิม
3. ดื่มในปริมาณพอเหมาะ
4. ปรุงแต่งให้น้อยที่สุด
5. หลีกเลี่ยงการผสมนม
6. มัทฉะกินตอนไหนดี ควรรู้ให้ชัด
ข้อควรระวังในการกินมัทฉะ
ประโยชน์ของมัทฉะน่าสนใจก็จริง แต่ในการกินมัทฉะก็มีข้อควรระวังที่ไม่อยากให้มองข้าม เช่น
-
มัทฉะมีคาเฟอีนสูงกว่าชาเขียวทั่วไปพอสมควร ดังนั้นผู้ที่ต้องจำกัดหรือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีน เช่น คนที่มีปัญหานอนหลับยาก นอนไม่หลับเรื้อรัง, คนที่ไวต่อคาเฟอีน, คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้, ผู้ป่วยโรคหัวใจ, ผู้มีอาการตื่นตระหนก หรือเป็นโรควิตกกังวล ควรระมัดระวังการดื่มมัทฉะด้วย
-
ระวังการรับประทานมัทฉะในรูปแบบของหวานหรือขนมมากจนเกินไป ซึ่งนอกจากปริมาณคาเฟอีนที่ต้องกังวลแล้ว ยังมีแคลอรีจากส่วนประกอบอื่น ๆ ในขนมที่ร่างกายจะได้รับด้วย
-
คนที่กำลังกินยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาลดกรด ควรระวังการดื่มมัทฉะ เพราะคาเฟอีนในมัทฉะอาจมีปฏิสัมพันธ์กับยา ทำให้ประสิทธิภาพของยาเปลี่ยนแปลงไป
-
เลือกมัทฉะคุณภาพดี ระวังมัทฉะปลอม มัทฉะที่แต่งสีแต่งกลิ่นด้วยสารสังเคราะห์ ไม่ได้สกัดจากธรรมชาติแท้ ๆ