
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า วิตามินดี เป็นวิตามินอีกชนิดหนึ่งที่คนไทยได้รับไม่เพียงพอ แม้ร่างกายของเราสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้เองที่ผิวหนังเมื่อได้รับรังสี UVB จากแสงแดด แต่จากการสำรวจสุขภาพ ของประชากรไทยกลับพบว่า มีคนไทยมากถึง 45.2% ที่ขาดวิตามินตัวนี้ โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ที่มีพฤติกรรมหลบเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดเสมอเมื่อออกแดด ซึ่งการขาดวิตามินดีเช่นนี้ส่งผลให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ไม่เต็มที่ นำไปสู่โรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกมากมาย อีกทั้งยังสัมพันธ์กับการเกิดโรคอื่น ๆ เช่น โรคซึมเศร้า โรคเบาหวาน โรคมะเร็งบางชนิด รวมถึงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงจนเสี่ยงติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
ดังนั้น ในช่วง 1-2 ปีมานี้ เราจึงเห็นคนหันมารับประทานอาหารเสริมวิตามิน D3 กันมากขึ้น เพื่อเติมวิตามินดีที่ขาดหายไป ว่าแต่...วิตามิน D3 คืออะไร แตกต่างกับวิตามินดีที่เรารู้จักไหม แล้วทำไมถึงต้องรับประทานเสริมตัวนี้ ตามมาศึกษาข้อมูลด้านล่างกันได้เลยวิตามิน D3 คืออะไร
ต่างกับ วิตามิน D อย่างไร

ต้องอธิบายก่อนว่า วิตามินดี ที่เราเรียกกันเป็นคำเรียกรวมวิตามินดีทุกชนิด แต่หากแยกประเภทจะมีอยู่ 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ วิตามิน D2 และวิตามิน D3 ซึ่งทั้ง 2 ชนิดมีความแตกต่างกัน คือ
-
วิตามิน D2 (Ergocalciferol) ส่วนใหญ่ได้มาจากพืช ตระกูลเห็ด รา และยีสต์ เช่น เห็ดหอม ร่างกายสามารถดูดซึมได้น้อยกว่าวิตามิน D3
- วิตามิน D3 (Cholecalciferol) ร่างกายสร้างขึ้นเองได้จากการสัมผัสแสงแดด รวมถึงการรับประทานอาหารบางชนิด ซึ่งร่างกายจะดูดซึมวิตามิน D3 ได้ดีกว่าวิตามิน D2 จึงมีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือดได้ดีกว่า
วิตามิน D3 มีในอาหารอะไรบ้าง

อาหารที่มีวิตามิน D3 คือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ไข่แดง ตับ นม เนย น้ำมันตับปลา เนื้อวัว ชีส ปลาที่มีไขมันสูงอย่างปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม วิตามินดีในร่างกายของเรามาจากการสังเคราะห์ที่ผิวหนังถึง 80-90% ส่วนอีก 10-20% ได้จากการรับประทานอาหารที่มีวิตามินดี ด้วยเหตุนี้แม้เราจะรับประทานอาหารดังที่กล่าวมา แต่ถ้าไม่ค่อยถูกแสงแดด หรือสวมเสื้อผ้าปกปิดร่างกาย กางร่ม ทาครีมกันแดดเมื่อออกนอกอาคาร ย่อมมีแนวโน้มขาดวิตามินดี ยังไม่รวมถึงคนที่รักษาสุขภาพ ไม่ชอบกินไข่แดง ตับ เนย เพราะกลัวคอเลสเตอรอลพุ่ง แบบนี้ก็ยิ่งขาดวิตามินดี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลาย ๆ เรื่อง
วิตามิน D3 ช่วยอะไร
ไม่ใช่แค่ดีต่อกระดูก

ประโยชน์ของวิตามิน D3 มีหลายด้านที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น
-
ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสจากระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญต่อกระดูกและฟัน ดังนั้น วิตามินดีจึงมีส่วนช่วยเสริมสร้างและรักษาความแข็งแรงของกระดูก ลดความเสี่ยงการเกิดโรคกระดูกพรุน โรคกระดูกอ่อน โดยมีการศึกษาพบว่า ผู้สูงอายุที่รับประทานอาหารเสริมวิตามิน D3 และแคลเซียมเสริม มีความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกสะโพกหักและกระดูกหักที่ไม่ใช่กระดูกสันหลัง (กระดูกนอกกระดูกสันหลัง) ลดลง 6%
-
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย โดยทำให้เม็ดเลือดขาวตอบสนองต่อเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น
-
ช่วยลดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ทั้งโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ โรค RSV และโควิด 19
-
อาจช่วยลดความรุนแรงของโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune Diseases) บางชนิดได้ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) เป็นต้น
-
มีงานวิจัยพบว่า ระดับวิตามินดีที่ต่ำอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะซึมเศร้า ดังนั้น การได้รับวิตามินดีในปริมาณที่เพียงพออาจช่วยลดความเสี่ยงหรือบรรเทาอาการของภาวะซึมเศร้าได้
-
มีความสำคัญต่อการทำงานของสมองและระบบประสาท ซึ่งส่งผลต่อความจำ การเรียนรู้ และการตัดสินใจ
-
มีส่วนช่วยควบคุมสารสื่อประสาท รวมถึงเซโรโทนินและโดปามีน ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมอารมณ์ โดยผู้ที่มีระดับวิตามินดีสูงมักมีแนวโน้มที่จะอารมณ์ดีและมีความเครียดน้อยกว่าผู้ที่มีระดับวิตามินดีต่ำ
-
ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย โดยวิตามินดีจะช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ รวมถึงบรรเทาอาการเมื่อยล้า
-
ป้องกันการลื่นล้ม เพราะวิตามินดีมีส่วนช่วยเรื่องการยืดและหดตัวของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขา จึงช่วยให้ผู้สูงอายุก้าวเดินและทรงตัวได้ดี โดยจากการศึกษาในคนไข้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มคนไข้ที่มีอัตราการลื่นล้มสูง พบว่า การรับประทานวิตามินดีปริมาณสูงสามารถลดโอกาสการลื่นล้มอันเนื่องจากกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงได้ 22%
-
ควบคุมความดันโลหิต และรักษาสมดุลของระดับแคลเซียมในร่างกาย จึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
-
มีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย ป้องกันโรคเบาหวานประเภทที่ 2
-
มีความสำคัญต่อการแบ่งตัวของเซลล์ให้เป็นไปอย่างปกติ รวมทั้งควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกาย
ใครเสี่ยงขาดวิตามิน D3
-
คนที่ไม่ค่อยได้รับแสงแดด เช่น ทำงานออฟฟิศ ใช้ชีวิตในร่มเป็นเวลานาน สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด ทาครีมกันแดด
-
คนที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ โดยเฉพาะไม่ค่อยได้กินปลาที่มีไขมันสูง นม ชีส ไข่แดง อย่างคนกินเจ กินมังสวิรัติ เป็นต้น
-
ผู้สูงอายุ มีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี เพราะร่างกายเสื่อมลง การสร้างวิตามินดีของผิวหนังลดลง
-
คนที่มีผิวคล้ำจะมีเม็ดสีเมลานินมากกว่าคนผิวขาว ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพในการสังเคราะห์วิตามินดีจากแสงแดด
-
คนที่มีโรคในระบบลำไส้ อาจมีปัญหาเรื่องการดูดซึมไขมัน
-
คนที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง ซึ่งส่งผลต่อการดูดซึมวิตามินดี เช่น โรคในระบบลำไส้ โรคอ้วน โรคไต โรคตับ โรคเซลิแอค โรคโครห์น เป็นต้น
-
คนที่ใช้ยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาแก้ชัก หรือยาลดไขมัน อาจมีผลต่อระดับวิตามินดีในร่างกาย
ขาดวิตามิน D3 จะเป็นอย่างไร

อาการขาดวิตามินดี หรือ D3 ส่งสัญญาณให้เห็นดังนี้
-
อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
-
มีอาการปวดกระดูก ปวดข้อ มวลกระดูกลดลงมาก กระดูกหักง่าย ในเด็กอาจเกิดโรคกระดูกอ่อน
-
ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยไม่ทราบสาเหตุ กล้ามเนื้ออ่อนแรง กล้ามเนื้อกระตุก หรือเป็นตะคริวบ่อย
-
รู้สึกเสียวเหมือนมีอะไรทิ่มแทงที่มือหรือเท้า
-
มีงานวิจัยพบว่า คนที่มีระดับวิตามินดีในเลือดต่ำกว่า 30 ng/mL มีความเสี่ยงติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ง่ายกว่าคนที่มีระดับวิตามินดีในเลือดปกติ
-
อารมณ์แปรปรวน มีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล
-
เจ็บป่วยง่าย
-
แผลหายช้า
-
นอนหลับยาก
วิตามิน D3
ควรกินปริมาณเท่าไรต่อวัน
เพื่อป้องกันการขาดวิตามินดี เราควรได้รับวิตามินดังนี้
-
เด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 1 ขวบ ควรได้รับวิตามินดีอย่างน้อย 400 IU/วัน (10 ไมโครกรัม)
-
ผู้ที่มีอายุ 1-70 ปี ควรได้รับวิตามินดีอย่างน้อย 600 IU/วัน (15 ไมโครกรัม)
-
ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ควรได้รับวิตามินดีอย่างน้อย 800 IU/วัน (20 ไมโครกรัม)
-
ผู้หญิงที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ ควรได้รับวิตามินดี 400-600 IU/วัน (10-15 ไมโครกรัม)
-
สตรีตั้งครรภ์ในกลุ่มความเสี่ยงสูง ควรได้รับวิตามินดี 2,000-4,000 IU/วัน (50-100 ไมโครกรัม)
ทั้งนี้ เพื่อให้มีระดับวิตามินดีในเลือด 25(OH)D อยู่ที่ 30-50 ng/mL ซึ่งเป็นระดับมาตรฐานที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย และไม่ควรรับประทานวิตามินดีเกินวันละ 4,000 IU หรือ 100 ไมโครกรัม ยกเว้นกรณีที่มีข้อบ่งชี้พิเศษและอยู่ในการดูแลของแพทย์ อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและภาวะสุขภาพที่เป็นอยู่ด้วย
อย่างที่กล่าวไปว่าการได้รับวิตามินดีจากแสงแดดเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักไม่ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ รวมถึงคนที่เป็นวีแกนหรือกินเจ กินมังสวิรัติ ก็ยิ่งไม่ได้รับวิตามิน D3 จากอาหาร ด้วยเหตุนี้การรับประทานอาหารเสริมวิตามิน D3 จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
วิธีเลือกซื้ออาหารเสริมวิตามิน D3

-
อาหารเสริมวิตามิน D3 มีให้เลือกอยู่ 2 แบบ คือ มีส่วนประกอบของวิตามิน D3 แบบเพียว ๆ กับมีส่วนประกอบของวิตามินและแร่ธาตุชนิดอื่นรวมอยู่ด้วยในเม็ดเดียว ขึ้นอยู่กับเราว่าต้องการสารอาหารชนิดอื่นด้วยหรือไม่ โดยวิตามินที่ผสมมาจะมีส่วนช่วยเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน เช่น
-
วิตามิน D3+แคลเซียม : วิตามิน D3 ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม มีประโยชน์ต่อสุขภาพกระดูก
-
วิตามิน D3+K2 : วิตามิน D3 ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม ในขณะที่วิตามิน K2 ช่วยนำแคลเซียมไปใช้ในกระดูกและฟันอย่างถูกต้อง
-
วิตามิน D3+แมกนีเซียม : แมกนีเซียมจะช่วยในการเปลี่ยนวิตามิน D3 ให้อยู่ในรูปแบบที่ใช้งานได้
-
วิตามิน D3+วิตามินบี : ทั้งคู่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
-
วิตามิน D3+วิตามินซี+สังกะสี : เสริมการทำงานในเรื่องภูมิคุ้มกัน ลดระยะเวลาของการเป็นไข้หวัด
-
-
เลือกปริมาณวิตามิน D3 ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน โดยพิจารณาจากอายุและปัญหาสุขภาพ เช่น หากเป็นผู้สูงอายุควรได้รับวิตามิน D3 อย่างน้อย 800 IU/วัน (20 ไมโครกรัม)
-
เลือกจากรูปแบบของวิตามินที่เราสะดวกรับประทาน ซึ่งมีทั้งแบบเม็ด แคปซูล แคปซูลนิ่ม เม็ดฟู่ ฯลฯ ซึ่งถ้าเป็นแบบแคปซูลนิ่มจะดูดซึมได้ดีกว่า
-
เลือกตามขนาดของผลิตภัณฑ์ เช่น หากต้องพกพาออกไปรับประทานนอกบ้านบ่อย ๆ ก็ควรเลือกกระปุกเล็ก แต่ถ้ารับประทานที่บ้านกันหลายคนก็ควรเลือกกระปุกใหญ่ที่มีจำนวนเม็ดมากกว่า และราคามักจะประหยัดกว่าเล็กน้อย
-
เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเลข อย. ระบุชัดเจน
-
อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบปริมาณวิตามินและคำแนะนำในการรับประทาน
-
เลือกผลิตภัณฑ์ที่ฝาปิดสนิท มิดชิด ไม่มีรอยเปิด หรือร่องรอยการแกะ ขวดต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่บุบ ไม่แตก หรือมีรอยร้าว ฉลากต้องติดแน่น ไม่ฉีกขาด หรือเลือนราง
-
ตรวจสอบส่วนผสมอื่น ๆ ในผลิตภัณฑ์ เพื่อหลีกเลี่ยงส่วนประกอบที่อาจทำให้แพ้ และหลีกเลี่ยงสารปรุงแต่ง สี หรือสารกันบูด
-
เปรียบเทียบราคาของแต่ละยี่ห้อ เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีราคาเหมาะสมกับคุณภาพ
-
หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยาอยู่ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานอาหารเสริมวิตามิน D3
วิตามิน D3 ยี่ห้อไหนดี
1. SWISSE CALCIUM + VITAMIN D3

ภาพจาก : Swisse_Thailand
วิตามิน D3 จากแบรนด์สวิสเซ ให้วิตามิน D3 ในปริมาณ 444 IU กระปุกนี้เป็นสูตรพรีเมียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน เพราะมีส่วนผสมของแคลเซียมซิเตรด 317 มิลลิกรัม ซึ่งให้การดูดซึมที่ดีกว่าแคลเซียมคาร์บอเนต
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด หลังอาหาร
-
ราคาปกติ : 90 เม็ด 550 บาท
2. Blackmores Bio Calcium+D3

ภาพจาก : blackmores.co.th
"แบลคมอร์ส ไบโอ แคลเซียม+ดี3" เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ให้วิตามิน D3 ในปริมาณ 200 IU มาพร้อมกับแคลเซียม 500 มิลลิกรัม โดยแคลเซียมมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง ส่วนวิตามินดีก็มีส่วนช่วยในการดูดซึมตามปกติของแคลเซียมและฟอสฟอรัส จึงทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร
-
ราคาปกติ : 60 เม็ด 400 บาท
3. Now Foods Vitamin D-3 400 IU

ภาพจาก : nowfoodsthailand.com
Now Foods แบรนด์อาหารเสริมนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา ขวดนี้เป็นวิตามิน D3 ปริมาณ 400 IU/เม็ด บรรจุมาในรูปแบบซอฟต์เจลที่รับประทานง่าย ขนาดแคปซูลยาวไม่ถึงครึ่งนิ้ว น่าจะถูกใจคนที่มีปัญหากลืนยายาก
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล หลังมื้ออาหาร
-
ราคาปกติ : 180 เม็ด 850 บาท
4. BNH Vitamin D3 + Vitamin K2

ภาพจาก : The M BRACE by BNH Hospital
ฝั่งโรงพยาบาล BNH ก็มีผลิตภัณฑ์วิตามินเสริมเช่นกัน ซึ่งคิดค้นสูตรจากทีมเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ดูแลคนไข้มาอย่างยาวนาน โดยใน 1 แคปซูลมีส่วนประกอบของวิตามิน D3 และวิตามิน K2 อยู่ที่ 13 มิลลิกรัม ทำงานร่วมกันในด้านส่งเสริมสุขภาพกระดูก หัวใจและหลอดเลือด ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลแนะนำให้รับประทานต่อเนื่องติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า
-
ราคาปกติ : 30 เม็ด 520 บาท
5. Dary Vit Vitamin D Plus Magnesium

ภาพจาก : cloverplusthailand
ในแคปซูลแต่ละเม็ดของดารี่ วิต ดี พลัส แมกนีเซียม มีส่วนประกอบของแมกนีเซียมอะมิโนแอซิดคีเลต และมีวิตามิน D3 แบรนด์นี้จึงเหมาะกับคนที่ต้องการเสริมทั้งวิตามินดีและแมกนีเซียมให้จบในเม็ดเดียว
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร
-
ราคาปกติ : 30 เม็ด 490 บาท
6. Biocap Vitamin D3

ภาพจาก : Biocap
สำหรับคนที่อยากได้วิตามินดีอย่างเดียว ไม่มีส่วนผสมของแร่ธาตุชนิดอื่น ขวดนี้จากไบโอแคปก็น่าสนใจ โดยใน 1 แคปซูลจะให้วิตามิน D3 เพียว ๆ 200 IU หน่วยสากล ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย และที่สำคัญแบรนด์นี้มักจัดโปรฯ อยู่บ่อย ๆ ด้วย
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล หลังมื้ออาหารเช้าหรือเย็น
-
ราคาปกติ : 30 แคปซูล 360 บาท
7. Innobic Calcium Vitamin D3 Plus Vitamin K2

ภาพจาก : Innobic Official Shop
อินโนบิก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่รวมวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดไว้ในเม็ดเดียว ทั้งวิตามิน D3 ในปริมาณที่เพียงพอกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน, วิตามิน K2, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส แถมยังมีแมงกานีส โบรอน และคอปเปอร์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล พร้อมมื้ออาหาร
-
ราคาปกติ : 30 เม็ด 550 บาท
วิตามิน D3 กินตอนไหน กินยังไง
ข้อควรระวังในการกินวิตามิน D3

-
อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค
-
แจ้งประวัติทางการแพทย์และอาการแพ้ให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนรับประทานวิตามิน D3
-
คนที่มีระดับแคลเซียมในเลือดสูง หรือระดับวิตามินดีในเลือดสูง ไม่ควรรับประทานวิตามิน D3 เสริมเข้าไปอีก
-
ผู้ที่มีปัญหาโรคไต โรคตับ ควรระวังในการรับประทานวิตามินเสริม
-
เด็ก สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานวิตามิน D3
-
วิตามิน D3 อาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด โดยเฉพาะยาต้านการแข็งตัวของเลือด ดังนั้น หากรับประทานยารักษาโรคอะไรอยู่ ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนรับประทานวิตามิน D3
-
การรับประทานวิตามิน D3 มากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแคลเซียมในเลือดสูงจนเป็นอันตรายได้ และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก เบื่ออาหาร หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย อ่อนเพลียผิดปกติ
-
หากรับประทานวิตามินตัวอื่นอยู่ด้วย ให้ตรวจดูว่าวิตามินนั้นมีส่วนประกอบของวิตามิน D3 รวมอยู่ด้วยหรือไม่ ปริมาณเท่าไร เพื่อไม่ให้กินวิตามิน D3 สะสมมากเกินไป
-
พบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการแพ้รุนแรง เช่น มีผื่นคัน ใบหน้าบวม ลิ้นบวม เวียนหัว หายใจลำบาก
-
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามิน D3 ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค ควรกินอาหารหลากหลายให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ
บทความที่เกี่ยวข้องกับอาหารเสริมและวิตามิน
- วิตามินดี ป้องกันโควิดได้ไหม ช่วยอะไรได้บ้าง
- วิตามินหมดอายุกินได้ไหม ถ้าเผลอกินอาหารเสริมหมดอายุ จะเป็นอะไรหรือเปล่า ?
- วิตามินที่ไม่ควรกินตอนท้องว่าง มีอะไรบ้าง กินพร้อมหรือหลังอาหารดีกว่า เลี่ยงผลข้างเคียง
- วิตามินที่ไม่ควรกินก่อนนอนมีตัวไหนบ้าง เช็กให้ชัดแล้วกินให้ถูกเวลา
- วิตามินต่าง ๆ ควรกินตอนไหน กินคู่กับอะไรให้ร่างกายดูดซึมได้มากที่สุด
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : Swisse Thailand, blackmores.co.th, nowfoodsthailand.com, The M BRACE by BNH Hospital, cloverplus thailand, Biocap, Innobic Official Shop, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, สมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย, www.webmd.com, verywellhealth.com, โครงการเพิ่มศักยภาพฐานข้อมูลอุตสาหกรรมยาทางชีวภาพและเชื้อเพลิงชีวภาพ, โรงพยาบาลนครธน, pubmed.ncbi.nlm.nih.gov