กินแอปเปิลไซเดอร์ตอนไหนดี ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม คำตอบอยู่ที่เวลากิน !

          กินแอปเปิลไซเดอร์ตอนไหนดี ? คำถามยอดฮิตของคนรักสุขภาพ ที่อยากดื่มน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลเพื่อลดน้ำหนัก ว่าแต่...ความจริงใช่อย่างที่คิดไหม มาค้นหาคำตอบจากงานวิจัยไปพร้อมกัน
แอปเปิ้ลไซเดอร์ apple cider vinegar

          แอปเปิลไซเดอร์ หรือน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิล (Apple Cider Vinegar) กำลังมาแรงในฐานะเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ด้วยความเชื่อว่าช่วยลดน้ำหนัก ลดพุงได้ แต่การจะดื่มให้ได้ผลและปลอดภัย ก็ต้องรู้วิธีกินแอปเปิลไซเดอร์ ด้วยว่า ควรกินตอนไหนดีที่สุด กินหลังอาหารได้ไหม หรือถ้ากินก่อนนอนจะมีผลเสียหรือเปล่า เอาเป็นว่าเราได้รวบรวมข้อมูลจากงานวิจัยมาไขทุกข้อสงสัยให้ชัดเจนตรงนี้

แอปเปิลไซเดอร์ ลดน้ำหนักได้จริงไหม

แอปเปิ้ลไซเดอร์ ลดน้ำหนัก กินตอนไหน

          มีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า น้ำส้มสายชูแอปเปิล (แอปเปิลไซเดอร์) ช่วยลดดัชนีมวลกาย (BMI), ลดน้ำหนักตัวและรอบเอวได้จริงในกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน โดยเฉพาะเมื่อรับประทานควบคู่กับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยกลไกที่เกี่ยวข้องคือ กรดอะซิติก ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของแอปเปิลไซเดอร์ อาจช่วยระงับความอยากอาหารในระยะสั้น และกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ซึ่งทั้งหมดมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนัก

          อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ใช้แอปเปิลไซเดอร์เป็นวิธีหลักในการลดน้ำหนักนะคะ เพราะความเป็นกรดที่สูงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ปวดท้อง หรือทำลายเคลือบฟัน หากต้องการใช้ ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ และใช้ควบคู่กับการดูแลสุขภาพโดยรวมจะปลอดภัยกว่า

กินแอปเปิลไซเดอร์ตอนไหนดี 
ถ้าอยากลดน้ำหนัก

          แม้จะไม่มีแนวทางที่ตายตัว แต่จากงานวิจัยหลายฉบับพบว่า การดื่มแอปเปิลไซเดอร์ในตอนเช้าขณะท้องว่าง หรือก่อนมื้ออาหารเช้าและเย็น 15-30 นาที ในปริมาณ 15 มิลลิลิตร (1 ช้อนโต๊ะ) ผสมกับน้ำเปล่า 200-250 มิลลิลิตร เพื่อให้เจือจาง และทำต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4-12 สัปดาห์ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการควบคุมน้ำหนัก ลดรอบเอว และลดน้ำตาลในเลือดค่ะ

          ทั้งนี้เพราะกรดอะซิติกในน้ำส้มสายชูแอปเปิลอาจช่วยระงับความอยากอาหาร ชะลอการย่อยคาร์โบไฮเดรต และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหารไม่ให้พุ่งสูงเกินไป ส่งผลให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้นและลดการกินจุบจิบระหว่างวัน

แอปเปิลไซเดอร์กินหลังอาหารได้ไหม

แอปเปิ้ลไซเดอร์กินหลังอาหารได้ไหม

          จริง ๆ แล้ว การดื่มแอปเปิลไซเดอร์หลังอาหารหรือพร้อมมื้ออาหารสามารถทำได้ และไม่มีข้อห้ามชัดเจนค่ะ และจากงานวิจัยที่ให้ผู้เข้าร่วมบริโภคแอปเปิลไซเดอร์หลังอาหารก็ยังไม่พบผลข้างเคียงรุนแรงใด ๆ ซึ่งหมายความว่า หากผสมกับน้ำให้เจือจางก็สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย ทว่าประสิทธิภาพในเรื่องการควบคุมน้ำหนักหรือระดับน้ำตาลในเลือดจะยังไม่เห็นชัดเท่าไรเมื่อเทียบกับการดื่มก่อนมื้ออาหาร อีกทั้งการดื่มหลังอาหารในช่วงที่อิ่มจัดอาจเสี่ยงต่อการเกิดกรดไหลย้อนได้

          ดังนั้น หากต้องการดื่มเพื่อสุขภาพทั่วไปหรือช่วยเรื่องการย่อยอาหารเล็กน้อย การดื่มหลังอาหารแบบเจือจางก็ยังเป็นทางเลือกที่ทำได้ แต่ถ้ามีเป้าหมายเพื่อช่วยควบคุมน้ำหนัก การดื่มก่อนอาหารจะเห็นผลชัดเจนกว่า

แอปเปิลไซเดอร์ กินก่อนนอนได้ไหม

แอปเปิ้ลไซเดอร์กินก่อนนอนได้ไหม

          ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าการดื่มแอปเปิลไซเดอร์ก่อนนอนจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างใด แต่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มในปริมาณมากหรือดื่มโดยไม่ผสมน้ำ เนื่องจากความเป็นกรดของน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหาร

          โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะอาหารหรือกรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มช่วงก่อนนอนดีกว่า เพื่อป้องกันอาการแสบกลางอกหรือกรดไหลย้อนขณะนอนหลับ ซึ่งอาจทำให้นอนไม่หลับ

แอปเปิลไซเดอร์ กินวันละกี่ครั้ง

          คำแนะนำจากงานวิจัยส่วนใหญ่ก็คือ ไม่ควรดื่มเกินวันละ 30 มิลลิลิตร โดยแบ่งดื่มเป็น 1-2 ครั้ง/วัน ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) ผสมกับน้ำเปล่า 1 แก้ว (200-250 มิลลิลิตร) แต่ไม่ควรดื่มแบบช็อตเข้มข้น เพราะกรดอาจกัดกระเพาะอาหารและฟันได้

ข้อควรระวังในการกินแอปเปิลไซเดอร์

แอปเปิ้ลไซเดอร์ กินวันละกี่ครั้ง

          น้ำส้มสายชูแอปเปิลมีฤทธิ์เป็นกรดค่อนข้างสูง หากรับประทานในรูปแบบเข้มข้นหรือมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้นควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้

  • ควรผสมเจือจางก่อนดื่ม และควรเริ่มจากปริมาณน้อย ๆ เพื่อสังเกตอาการ ไม่ควรดื่มแบบเข้มข้น เพราะอาจระคายเคืองช่องปาก ลำคอ หรือกระเพาะอาหาร

  • ควรใช้หลอดดูดขณะดื่มเพื่อลดการสัมผัสกับฟันโดยตรง และบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหลังดื่มทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่เคลือบฟันจะกร่อนจากกรดอะซิติก

  • ไม่ควรรับประทานเกิน 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน เพราะการรับประทานมากเกินไปอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำ ซึ่งส่งผลต่อระบบกล้ามเนื้อ หัวใจ และระบบประสาทได้ 

  • ควรปรึกษาแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร, โรคไต, หรือรับประทานยาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ยาขับปัสสาวะ หรือยารักษาโรคเรื้อรังอื่น ๆ

  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพฟันควรระวังเป็นพิเศษ เพราะกรดอาจทำลายเคลือบฟันและเพิ่มความเสี่ยงต่อฟันผุ

  • ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือรับประทานยารักษาเบาหวานควรเฝ้าระวังระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิด เพราะแอปเปิลไซเดอร์อาจมีผลลดระดับน้ำตาลในเลือด

  • กลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพราะยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอว่าแอปเปิลไซเดอร์ปลอดภัยต่อกลุ่มเหล่านี้

          สรุปก็คือ หากเป้าหมายของเราคือ กินแอปเปิลไซเดอร์เพื่อควบคุมน้ำหนักและระดับน้ำตาลในเลือด ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือดื่มก่อนอาหารสัก 15-30 นาที ส่วนการดื่มหลังอาหารหรือก่อนนอนก็สามารถทำได้ในบางกรณี แต่ต้องระวังเรื่องความเป็นกรดที่อาจส่งผลข้างเคียงต่อระบบย่อยอาหารได้ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้องกับแอปเปิลไซเดอร์

ขอบคุณข้อมูลจาก : verywellhealth.comnutrition.bmj.com, journals.lww.comjournals.lww.com (1)(2)doi.orgbiomedcentral.com

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กินแอปเปิลไซเดอร์ตอนไหนดี ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม คำตอบอยู่ที่เวลากิน ! โพสต์เมื่อ 26 กันยายน 2568 เวลา 16:49:57
TOP
x close