ย้ำเตือนน้ำท่วมเสี่ยงโรคน้ำกัดเท้า (สสส.)
ที่มา กรมควบคุมโรค
ย้ำเตือนผู้ประสบอุทกภัย ล้างและเช็ดเท้าให้สะอาด ป้องกันโรคน้ำกัดเท้าหากจำเป็นควรทำถุงป้องกันเท้า
เภสัชกรเชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กล่าวว่า กรมควบคุมโรคมีความเป็นห่วงสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ประสบภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขจากสภาวะน้ำท่วมขังที่เกิดขึ้น ผู้ประสบอุทกภัยยังต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพอนามัยหลายด้าน เพราะกระแสน้ำจะพาสิ่งสกปรก เชื้อโรคแพร่กระจาย แหล่งน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคปนเปื้อน สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลง พาหะนำโรคต่าง ๆ เจริญเติบโตได้ดี ปริมาณเชื้อก่อโรคมีจำนวนเพิ่มขึ้นและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว เกิดโรคผิวหนังจากการสัมผัสกับสารเคมีสิ่งสกปรก
ประชาชนที่ประสบอุทกภัยส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า โรคนี้เกิดจากเชื้อรา มีสาเหตุมาจากการแช่เท้าในน้ำที่มีเชื้อโรค เช่น ขยะมูลฝอยปะปนอยู่ ทำให้ผิวหนังระคายเคือง ผิวหนังแดง รอบ ๆ เป็นขอบนูนวงกลม คัน ถ้าเกาจะเป็นแผล มีน้ำเหลืองเยิ้ม และถ้าเป็นมากแผลจะอักเสบ บวม มีหนองหรือเป็นฝี มีอาการเจ็บปวด เดินไม่ไหว ไข่ดันบวม และมีไข้ ในระยะแรกที่มีอาการ เท้ายังไม่เป็นเชื้อรา เป็นแค่เท้าเปื่อย และมีเชื้อหนอง เชื้อราจะเกิดเมื่อเท้าอับชื้นเป็นเวลานาน เช่น ใส่รองเท้าที่อบหรือชื้นแฉะทั้งวันเดินย่ำน้ำ แช่เท้าอยู่ในน้ำเป็นเวลานานและไม่เช็ดเท้าให้แห้ง
เภสัชกรเชิดเกียรติ แนะนำการปฏิบัติตัวว่า ถ้าจำเป็นต้องเดินย่ำน้ำ ควรใส่รองเท้าบูทกันน้ำ หากน้ำล้นเข้าไปในรองเท้าบูท ให้ถอดแล้วเทน้ำในรองเท้าออกเป็นคราว ๆ ไม่ควรแช่น้ำอยู่ตลอดเวลา หากหารองเท้าบูทไม่ได้ให้ใช้ถุงพลาสติกดำมาประยุกต์ใช้ทำรองเท้ากันน้ำชั่วคราว หลังจากการเดินย่ำน้ำทุกครั้ง ต้องล้างเท้าให้สะอาด ฟอกสบู่ให้ทั่ว และใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะตามซอกนิ้วเท้า แต่หากมีบาดแผลให้ใช้แอลกอฮอล์เช็ดรอบบาดแผล แล้วใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น ทิงเจอร์เบตาดีน
ส่วนการป้องกันนั้น ควรหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำสกปรกหรือแช่เท้าในน้ำเป็นเวลานาน ๆ ไม่ควรใส่รองเท้าที่อบทั้งวัน และไม่ใส่รองเท้าที่เปียกชื้น เมื่อกลับเข้าบ้านทุกครั้ง ควรล้างเท้าให้สะอาด และเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก