ผักขมไม่ได้ขมอย่างชื่อ ที่สำคัญคือไม่ใช่ผักที่ป๊อปอายกินอย่างที่เราเข้าใจ อีกอย่างที่อยากบอกคือสรรพคุณของผักโขมดีต่อร่างกายเรามาก...จนยากจะมองข้าม
ขึ้นชื่อว่าขมแต่ความจริงรสชาติผักโขม หรือผักขม ไม่ได้ขมเลยสักนิดค่ะ แถมนำไปปรุงอาหารอย่างเมนูผักโขมอบชีส ผักโขมผัดเนย หรือแม้แต่ผักโขมลวกจิ้มก็อร่อยน้อยซะเมื่อไร อ๊ะ...เกริ่นไปขนาดนี้แล้วก็อยากให้เขยิบมาทำความรู้จักผักโขมกันอีกนิด รู้ยังว่าผักโขมไม่ใช่ผักที่ป๊อบอายกินแล้วแข็งแรง แถมประโยชน์ของผักโขม ก็มีหลายข้อที่น่าสนใจ
ด้วยลักษณะใบที่คล้าย ๆ กัน หลายคนจึงเข้าใจผิดว่าผักโขม คือ ผักที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Spinach หรือบ้านเราเรียกผักปวยเล้ง ทั้งที่จริงแล้วผักโขมหรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Amaranth ซึ่งเป็นผักคนละชนิดกับผักปวยเล้งเลยนะ งั้นเรามาทำความรู้จักผักโขมกันใหม่เลยดีกว่า
ผักโขมมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า A. dubius เป็นพืชในตระกูล Amaranthaceae ชื่อวงศ์คือ Amaranthus. มีต้นกำเนิดในประเทศเขตร้อน จริง ๆ แล้วผักโขมเป็นผักที่สามารถขึ้นได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ต้องปลูก แต่ด้วยความนิยมในการบริโภคผักโขมมีมาก เกษตรกรเลยปลูกผักโขมเพื่อจำหน่ายกันด้วย โดยผักโขมที่นิยมปลูกมีอยู่ด้วยกัน 4 ชนิด คือ ผักโขมจีน (ผักโขมแดงและผักโขมใบเขียว) ผักโขมบ้าน ผักโขมหนาม และผักโขมยักษ์
คุณค่าทางโภชนาการของผักโขม
ข้อมูลทางโภชนาการของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA National Nutrient data base) เผยว่า ผักโขมสด ปริมาณ 100 กรัม ให้คุณค่าทางสารอาหาร ดังนี้
- พลังงาน 23 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 4.02 กรัม
- โปรตีน 2.46 กรัม
- ไขมันทั้งหมด 0.33 กรัม
- ไฟเบอร์ 2.2 กรัม
- โฟเลต 85 µg
- ไนอะซิน 0.658 มิลลิกรัม
- กรดแพนโทเธนิก 0.065 มิลลิกรัม
- ไรโบฟลาวิน 0.158 มิลลิกรัม
- ไทอะมิน 0.027 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 2917 IU
- วิตามินซี 43.3 มิลลิกรัม
- วิตามินเค 1140 µg
- โซเดียม 20 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 611 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 215 มิลลิกรัม
- สังกะสี 0.90 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 2.32 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 55 มิลลิกรัม
- แมงกานีส 0.885 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 50 มิลลิกรัม
จะเห็นได้ว่าผักโขมมีคุณค่าทางโภชนาการอยู่มากพอสมควร คราวนี้เรามาดูสรรพคุณของผักโขมต่อสุขภาพกันบ้าง
ข้อมูลทางโภชนาการของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA National Nutrient data base) เผยว่า ผักโขมสด ปริมาณ 100 กรัม ให้คุณค่าทางสารอาหาร ดังนี้
- พลังงาน 23 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 4.02 กรัม
- โปรตีน 2.46 กรัม
- ไขมันทั้งหมด 0.33 กรัม
- ไฟเบอร์ 2.2 กรัม
- โฟเลต 85 µg
- ไนอะซิน 0.658 มิลลิกรัม
- กรดแพนโทเธนิก 0.065 มิลลิกรัม
- ไรโบฟลาวิน 0.158 มิลลิกรัม
- ไทอะมิน 0.027 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 2917 IU
- วิตามินซี 43.3 มิลลิกรัม
- วิตามินเค 1140 µg
- โซเดียม 20 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 611 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 215 มิลลิกรัม
- สังกะสี 0.90 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 2.32 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 55 มิลลิกรัม
- แมงกานีส 0.885 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 50 มิลลิกรัม
จะเห็นได้ว่าผักโขมมีคุณค่าทางโภชนาการอยู่มากพอสมควร คราวนี้เรามาดูสรรพคุณของผักโขมต่อสุขภาพกันบ้าง
สรรพคุณของผักโขม ดีต่อร่างกาย กินก็ง่ายนะ
1. โปรตีนสูง
ผักโขมจัดเป็นผักโปรตีนสูงชนิดหนึ่ง ซึ่งโปรตีนเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับ เพื่อช่วยในการเสริมสร้างกระดูก เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ดังนั้นเด็ก ๆ หรือคนที่ต้องการเสริมโปรตีนให้ร่างกาย แนะนำให้กินผักโขมได้เลยค่ะ
2. ช่วยต้านอาการอักเสบ
ไม่ใช่แค่โปรตีนสูงเท่านั้น แต่ผักโขมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงไม่แพ้กัน สรรพคุณนี้เลยช่วยป้องกันอาการอักเสบของร่างกาย โดยเฉพาะการอักเสบที่จะเกิดกับเนื้อเยื่อหรือเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย
3. บำรุงกระดูก
แคลเซียมในผักโขมมีมากพอที่จะช่วยบำรุงกระดูกของเราได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ใครอยากเสริมแคลเซียมให้ตัวเองก็สามารถกินผักโขมเสริมแคลเซียมได้เหมือนกัน
4. กระตุ้นการย่อยอาหาร
1. โปรตีนสูง
ผักโขมจัดเป็นผักโปรตีนสูงชนิดหนึ่ง ซึ่งโปรตีนเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับ เพื่อช่วยในการเสริมสร้างกระดูก เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ดังนั้นเด็ก ๆ หรือคนที่ต้องการเสริมโปรตีนให้ร่างกาย แนะนำให้กินผักโขมได้เลยค่ะ
2. ช่วยต้านอาการอักเสบ
ไม่ใช่แค่โปรตีนสูงเท่านั้น แต่ผักโขมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงไม่แพ้กัน สรรพคุณนี้เลยช่วยป้องกันอาการอักเสบของร่างกาย โดยเฉพาะการอักเสบที่จะเกิดกับเนื้อเยื่อหรือเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย
3. บำรุงกระดูก
แคลเซียมในผักโขมมีมากพอที่จะช่วยบำรุงกระดูกของเราได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ใครอยากเสริมแคลเซียมให้ตัวเองก็สามารถกินผักโขมเสริมแคลเซียมได้เหมือนกัน
4. กระตุ้นการย่อยอาหาร
ขึ้นชื่อว่าเป็นผักก็ย่อมมีไฟเบอร์หรือกากใยอาหารที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารดีขึ้น ระบบขับถ่ายก็ดีขึ้นด้วยค่ะ
5. ลดระดับคอเลสเตอรอล
ใยอาหารในผักโขมมีส่วนช่วยกำจัดไขมันเลวหรือไขมัน LDL ไปกับการขับถ่าย ในขณะที่สารซาโปนิน (Saponin) ในผักโขมก็จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ผนึกกำลังกันลดโอกาสที่ไขมันเลวจะถูกดูดซึมไปในเส้นเลือด นอกจากนี้ผักโขมยังมีวิตามินและธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดด้วยค่ะ
6. บำรุงสายตา
วิตามินเอที่มีอยู่ในผักโขมเป็นพระเอกที่ช่วยบำรุงสายตาและประสาทในการมองเห็น แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยป้องกันการอักเสบของเซลล์ ลดความเสี่ยงโรคต้อกระจก ช่วยบำรุงสายตาให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไปนาน ๆ
7. ดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
ร่างกายคุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับการบำรุงด้วยธาตุเหล็ก และโฟเลต ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ รวมไปถึงช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านต่าง ๆ ที่ทารกควรได้รับ ซึ่งในผักโขมมีธาตุเหล็กและโฟเลตในปริมาณที่ไม่น้อย
7. ดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
ร่างกายคุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับการบำรุงด้วยธาตุเหล็ก และโฟเลต ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ รวมไปถึงช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านต่าง ๆ ที่ทารกควรได้รับ ซึ่งในผักโขมมีธาตุเหล็กและโฟเลตในปริมาณที่ไม่น้อย
ผักโขม สรรพคุณทางยาก็มี
นอกจากผักโขมจะกินเป็นผักเพื่อสุขภาพได้แล้วก็ยังมีสรรพคุณทางยาตามตำรับแพทย์แผนไทยด้วยนะคะ ดังนี้เลย
* ถอนพิษร้อน แก้ไข้
รากของผักโขมบ้านมีสรรพคุณถอนพิษร้อน แก้ไข้ ช่วยขับเสมหะ และขับปัสสาวะ โดยใช้น้ำเดือดจัด 1 ลิตร แช่ลงบนรากผักโขมบ้าน 20 กรัม ทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นกรองรากออก กลั่นเอาแต่น้ำต้มรากผักโขมมาดื่มวันละ 4-5 ถ้วย
* แก้คัน
นอกจากกินเพื่อบรรเทาอาการไม่สบายแล้ว เรายังสามารถนำรากผักโขมบ้านไปต้มกับน้ำแล้วอาบเพื่อบรรเทาอาการคันได้อีกด้วยนะคะ
* บรรเทาอาการปวดท้องเฉียบพลัน
น้ำต้มจากรากผักโขมบ้านสามารถนำมาดื่มเพื่อบรรเทาอาการปวดท้องเฉียบพลัน แก้ประจำเดือนหยุดกะทันหัน และบรรเทาอาการอักเสบของเนื้อเยื่อในระบบสืบพันธุ์สตรี โดยต้มรากผักโขมสูตรเดียวกับสูตรยาถอนพิษร้อนเลยค่ะ
* บรรเทาอาการอักเสบ รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
ต้นและรากของผักโขมนำมาตำและพอกลงบนผิวหนังเพื่อบรรเทาอาการอักเสบ หรือนำมาพอกรักษาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ก็ได้เช่นกัน
นอกจากผักโขมจะกินเป็นผักเพื่อสุขภาพได้แล้วก็ยังมีสรรพคุณทางยาตามตำรับแพทย์แผนไทยด้วยนะคะ ดังนี้เลย
* ถอนพิษร้อน แก้ไข้
รากของผักโขมบ้านมีสรรพคุณถอนพิษร้อน แก้ไข้ ช่วยขับเสมหะ และขับปัสสาวะ โดยใช้น้ำเดือดจัด 1 ลิตร แช่ลงบนรากผักโขมบ้าน 20 กรัม ทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นกรองรากออก กลั่นเอาแต่น้ำต้มรากผักโขมมาดื่มวันละ 4-5 ถ้วย
* แก้คัน
นอกจากกินเพื่อบรรเทาอาการไม่สบายแล้ว เรายังสามารถนำรากผักโขมบ้านไปต้มกับน้ำแล้วอาบเพื่อบรรเทาอาการคันได้อีกด้วยนะคะ
* บรรเทาอาการปวดท้องเฉียบพลัน
น้ำต้มจากรากผักโขมบ้านสามารถนำมาดื่มเพื่อบรรเทาอาการปวดท้องเฉียบพลัน แก้ประจำเดือนหยุดกะทันหัน และบรรเทาอาการอักเสบของเนื้อเยื่อในระบบสืบพันธุ์สตรี โดยต้มรากผักโขมสูตรเดียวกับสูตรยาถอนพิษร้อนเลยค่ะ
* บรรเทาอาการอักเสบ รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
ต้นและรากของผักโขมนำมาตำและพอกลงบนผิวหนังเพื่อบรรเทาอาการอักเสบ หรือนำมาพอกรักษาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ก็ได้เช่นกัน
ผักโขม ทำเมนูอะไรได้บ้าง
จริง ๆ แล้วผักโขมสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู ตามนี้เลย
- 11 เมนูจากผักโขม อร่อยได้หลากหลาย
ข้อควรระวังในการกินผักโขม
ผักโขมเป็นผักที่มีปริมาณสารออกซาเลตค่อนข้างสูง ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมของแคลเซียมและแร่ธาตุในกระแสเลือด หากกินมากเกินไป สารออกซาเลตจะสะสมในไต ทำให้เกิดนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต นิ่ว เกาต์ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ ควรหลีกเลี่ยงการกินผักโขมในปริมาณมาก
ประโยชน์ของผักโขมที่เรานำเสนอข้างต้น น่าจะช่วยให้หลายคนมีความรู้สึกอยากกินผักโขมมากขึ้นอีกหลายเท่าเลยใช่ไหมล่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
nutrition-and-you
food.ndtv
organicfacts
จริง ๆ แล้วผักโขมสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู ตามนี้เลย
- 11 เมนูจากผักโขม อร่อยได้หลากหลาย
ข้อควรระวังในการกินผักโขม
ผักโขมเป็นผักที่มีปริมาณสารออกซาเลตค่อนข้างสูง ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมของแคลเซียมและแร่ธาตุในกระแสเลือด หากกินมากเกินไป สารออกซาเลตจะสะสมในไต ทำให้เกิดนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต นิ่ว เกาต์ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ ควรหลีกเลี่ยงการกินผักโขมในปริมาณมาก
ประโยชน์ของผักโขมที่เรานำเสนอข้างต้น น่าจะช่วยให้หลายคนมีความรู้สึกอยากกินผักโขมมากขึ้นอีกหลายเท่าเลยใช่ไหมล่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
nutrition-and-you
food.ndtv
organicfacts