x close

คุมกำเนิด วิธีไหนดี

คุมกำเนิด


เคาะห้องหมอสูติปรึกษาหาวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะกับคุณ (สุขภาพดี)

          ครอบครัวจะสมบูรณ์ก็ย่อมต้องมี พ่อ แม่ และลูกน้อยไว้คอยเป็นกำลังใจ และหากเมื่อใดที่คุณคิดว่าครอบครัวมีสมาชิกเพียงพอแล้ว ก็ได้เวลาที่จะเดินเข้าไปพบสูตินารีแพทย์ เพื่อขอรับคำปรึกษาการวางแผนครอบครัวด้วยการคุมกำเนิดแล้ว แต่หากคุณไม่มีเวลา เราขออาสาไปเปิดห้องของ พญ.วิทัศนา เขตต์กลาง มาให้คุณเองค่ะ

ทานยาคุมกำเนิด

          เป็นขั้นพื้นฐานและได้รับความนิยมแพร่หลาย เพราะยาทานจะได้รับการพิสูจน์ วิจัยออกมามากมายจนสามารถวางขายได้โดยที่ไม่ต้องให้หมอเป็นผู้สั่ง แค่อ่านข้อห้ามหลัก ๆ ว่าไม่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ไม่มีเลือดออกผิดปกติ ไม่มีโรคประจำตัวที่ชัดเจนก็สามารถซื้อทานเองได้เลย ข้อดีก็คือสะดวก แต่ข้อเสียคือผู้ทานมักเกิดสิวและฝ้า เพราะยาคุมกำเนิดเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งมีผลให้เม็ดสีรวมตัวกัน นอกจากนี้ยังมีเรื่องน้ำหนักตัวเกิน เพราะฮอร์โมนจะทำให้มีน้ำกับเกลือคั่งอยู่ในตัว อย่างที่สองคือจะกระตุ้นความอยากอาหาร ทำให้น้ำหนักตัวขึ้น

          อาการข้างเคียง คือ คลื่นไส้อาเจียน น้ำหนักตัวเพิ่ม เป็นฝ้า การสังเกตคือ ถ้าคลื่นไส้อาเจียนก็ดูว่าแค่ตัวเองทนไหว ถ้าถึงขั้นหนักมากไม่ไหวแล้วก็จะรู้ได้เองโดยอัตโนมัติว่า ต้องหยุดยาแล้ว หรืออาจจะสลับเวลาทาน อย่างเคยทานก่อนนอนแล้วเช้าอาเจียนก็อาจจะต้องทานตอนเช้า ทั้งนี้ทั้งนั้นแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ต้องรู้จักเฝ้าสังเกตตัวเองว่าเป็นอย่างไร

          สำหรับการทานโดยทั่วไปหมอจะแนะนำคนไข้ว่าไม่ควรทานติดต่อกันเกิน 10 ปี และแค่ 5 ปี ก็จะเริ่มเตือนแล้วว่าควรหยุดพักแล้วเช็คสุขภาพบ้าง ถามว่าอันตรายไหมก็คงไม่ แต่ปัญหาคือประจำเดนอมักจะขาด เพราะฮอร์โมนจะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้นระดับหนึ่ง พอนาน ๆ ไปสมดุลในตัวเปลี่ยน ประจำเดือนก็อาจจะน้อยลง แต่หนาจนทำให้มีลูกยากหรือเปล่าคงไม่ใช่ ก็ยังสามารถมีลูกได้ตามปกติ เพียงแต่จากที่เคยเปิดปุ๊บติดปั๊บมันจะไม่ได้อย่างนั้น เพราะหลังหยุดยาจะต้องรอให้มีการตกไข่ มีการปรับสมดุลร่างกาย อย่างน้อยก็ 6 เดือน ถึง 1 ปี

การฉีดยาคุมกำเนิด

          เป็นการคุมกำเนิดด้วยการฉีดฮอร์โมนเพศ คราวละ 1 เข็มอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน โดยทั่วไปจะแนะนำคนไข้ในรายที่ผ่านการมีลูกมาแล้ว เพราะถ้าฉีดไปนาน ๆ ประจำเดือนจะขาดไปเลยโอกาสที่จะกลับมาตั้งครรภ์ก็จะค่อนข้างยาก แต่ยาฉีดจะมีข้อดีที่ว่าในรายที่ปวดท้องน้อย ปวดประจำเดือน การฉีดยาคุมกำเนิดจะช่วยลดอาการพวกนี้ได้ด้วยโดยอัตโนมัติ แต่ข้อเสียคือในการฉีด 3-6 เดือนแรก ประจำเดือนจะมากกะปริบกะปรอย มาแทบทุกวัน ทำให้คนไข้รำคาญหรือคิดว่าตัวเองเป็นอะไร หรือสามีอาจจะบ่น เพราะมีประจำเดือนมาทุกวันเลย แต่พอหลัง 6 เดือนไปก็จะไม่มีประจำเดือนแล้ว แต่ผู้หญิงเราพอไม่มีประจำเดือนก็จะไม่สบายใจขึ้นมาอีก แล้วเปลี่ยนใจจะกลับมาใช้วิธีอื่น ก็ต้องอาศัยช่วงเวลาของการปรับสมดุลร่างกายอีกเช่นกัน

          ฉะนั้น ก่อนใช้ยาฉีดคุมกำเนิดก็ต้องทำความเข้าใจกับคนไข้ก่อนว่า จะต้องมีอาการข้างเคียงแบบนี้ ถ้ารับได้ก็ใช้วิธีนี้ เพราะบางคนก็จำเป็นต้องใช้เพราะทานยาไม่ได้ แพ้มาก นอกจากนี้ก็อาจจะมีเรื่องช่องคลอดแห้งได้บ้าง เพราะเซลล์มันจะฝ่อไปนิดหน่อย ซึ่งอาการทั้งหมดทั้งปวงนี้จะกลับมาสู่ปกติได้หลังจากที่หยุดใช้ยา

การใส่ห่วง

          เป็นวิธีที่ดีในรายที่ทานยาคุมกำเนิดไม่ได้ แต่คนนั้นต้องไม่มีปัญหาเรื่องปวดท้องประจำเดือน ไม่มีตกขาวเยอะ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะมีโอกาสที่ห่วงอนามัยจะอักเสบได้ และมีข้อห้ามในคนที่มีคู่นอนเยอะ เพราะก็จะมีโอกาสที่หวงจะติดเชื้อสูง หรือในรายที่ประจำเดือนมาเยอะมากก็ไม่แนะนำให้ใส่ห่วง เพราะมีโอกาสที่ประจำเดือนจะยิ่งมากขึ้น

          สำหรับตัวห่วงอนามัยจะเป็นทองแดงที่เคลือบตัวยา ซึ่งมีคุณสมบัติขัดขวางการปฏิสนธิ แล้วตัวอ่อนก็จะเข้ามาฝังตัวไม่ได้ ตัวห่วงอนามัยจะเป็นรูปสมอเรือเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 1 นิ้ว แล้วที่ปลายของด้ามสมอก็จะมีเชือกเล็ก ๆ สำหรับให้แพทย์เช็คหรือดึงออก โดยการใส่จะไปวางอยู่ที่โพรงมดลูก โดยทั่วไปก็จะอยู่ได้ประมาณ 5-7 ปี แล้วแต่ชนิดของห่วง แล้วหลังการใส่ 1 สัปดาห์ก็ต้องมาให้แพทย์ตรวจอีกครั้ง และเมื่อครบ 1 เดือนอีก 1 ครั้ง เพื่อมานั่งพูดคุยกันว่าในชีวิตประจำวันมีปัญหาไหม การมีเพศสัมพันธ์มีปัญหาหรือไม่

          ภายหลังการใส่หากมีประจำเดือนมากกว่าปกติ ทั้งแบบเยอะกว่าหรือมีนานกว่าปกติ หรือมีตกขาวมากกว่าปกติ เมื่อก่อนไม่เคยปวดท้องประจำเดือน แต่พอใส่แล้วปวด ก็ต้องมาตรวจว่าเป็นเพราะร่างกายไม่ยอมรับห่วงนี้หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ต้องเอาออกแล้วคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นแทน

การทำหมัน

          จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือหมันแห้งกับหมันเปียก คำว่าหมันเปียกมักจะทำหลังคลอด 1-4 วัน ส่วนหมันแห้งจะทำตอนไหนก็ได้

          ในการทำหมันหมอจะเข้าไปทำการผูกท่อนำไข่ 2 ข้าง แล้วก็ตัดท่อตรงกลางระหว่างการผูกทั้งสองออก พอไหมละลายท่อนำไข่ก็จะแยกออกจากกัน ถ้าถามความคิดเห็นหมอการทำหมันเปียกจะทำได้ง่ายกว่า เพราะมดลูกยังเปียกและตุงอยู่ แค่เจาะเป็นแนวโค้งที่ใต้สะดือก็สามารถผ่าตัดทำการทำหมันได้เลย เรียกว่าทำได้ง่ายและรวดเร็ว แต่หมันแห้ง มดลูกจะมีขนาดเล็กและลงไปอยู่ข้างล่าง หรือที่เรียกว่ามดลูกเข้าอู่แล้ว ทำให้แผลที่ผ่าตัดจะอยู่ที่แนวบิกินี ซึ่งถ้าน้ำหนักตัวเยอะก็จะต้องเปิดแผลใหญ่ ทำให้สาวบางคนอาจจะกังวลเรื่องรอยแผล เรื่องความสวยงามก็มักจะเลือกทำหมันเปียกไปเลย

          สำหรับนวัตกรรมใหม่ของการผ่าตัดทำหมันหญิงก็คือ เดี๋ยวนี้สามารถใช้การส่องกล้องได้แล้ว เป็นเครื่องที่สอดเข้าไป มีกล้องมีที่ตัด มีห่วงสำหรับผูกท่อนำไข่ ส่วนประสิทธิภาพของหมันแห้งหมันเปียกใกล้เคียงกัน โอกาสพลาดใน 200 คนจะมีสัก 1 คน

          ประเภทที่ทำแล้วอยากกลับมามีลูกใหม่จึงมาขอต่อหมันก็เยอะ แต่โอกาสที่ต่อแล้วจะสำเร็จประมาณ 50% ฉะนั้นสามีภรรยาควรคุยกันและตัดสินใจให้ดี ๆ ก่อนแล้วค่อยทำ โดยทั่วไปที่หมอแนะนำคือคุณควรมีอายุมากกว่า 30 ปี และลูกก็น่าจะมากกว่า 2 คนไปแล้ว

          ทั้งนี้ทั้งนั้นจะใช้วิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล ซึ่งสามารถปรึกษาหมอสูติ เพื่อรับการคุมกำเนิดที่เหมาะกับคุมที่สุดได้

เกร็ดความรู้

ผู้ชายทำหมันได้ผลดีกว่า แต่ไม่ค่อยยอมทำ

          การทำหมันในเพศชาย แพทย์จะทำการผ่าตัดเย็บท่อนำอสุจิ ทั่วไปหลังการผ่าตัดก็จะกลับบ้านได้เลย เป็นการผ่าตัดที่พักฟื้นสั้น แต่หลังผ่าตัดก็ต้องใช้เวลาประมาณ 6 อาทิตย์ หรือหลั่งอสุจิ 15 ครั้งหลังทำ จึงจะถือว่ามีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัยจากการตั้งครรภ์ โดยในระหว่างที่รอให้ถึงช่วงปลอดภัย ก็ต้องอาศัยการป้องกันการตั้งครรภ์อื่นร่วมด้วย เพื่อให้อสุจิที่ยังคงค้างอยู่ในท่อนำอสุจิหมดไปก่อน ซึ่งการทำหมันชายมักได้ผลดีกว่าการทำในเพศหญิง คือ คนทำหมันชาย 1,000 คนมีโอกาสพลาดแค่ 1.5 ดีกว่าทำหมันหญิง 3 เท่าตัว แต่เนื่องจากเป็นการทำในจุด sensitive area ของคุณผู้ชาย จึงไม่ค่อยทำกัน ทั้งที่จริงแล้วไม่เกี่ยวกันเลยแถมทำง่ายและได้ผลดีมากกว่าด้วย





ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คุมกำเนิด วิธีไหนดี อัปเดตล่าสุด 16 ธันวาคม 2556 เวลา 15:35:57 2,261 อ่าน
TOP