บริหารสมอง ให้หนุ่มสาวเสมอ ด้วย 7 วิธีง่ายๆ ที่คุณคาดไม่ถึง (momypedia)
พบกับ 7 วิธีที่คุณจะต้องร้อง "ว้าว" เพราะสิ่งง่ายๆ ในชีวิตประจำวันเหล่านี้สามารถช่วยเสริมสร้างพลังสมอง ชะลอไม่ให้สมองเสื่อมโทรมลงไปตามวัยได้เป็นอย่างดี
เมื่ออายุย่างเข้า 30 ปี สมองของคนเราจะเริ่มทำงานช้าลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลียงไม่ได้ แต่รายงานล่าสุดทำให้เราเกิดความหวังขึ้นมาอีกครั้ง เพราะการทำกิจกรรมง่ายๆ ในชีวิตประจำวันช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง และเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของสมองและระบบประสาทให้กับเราได้เป็นอย่างดี
ไปดูกันว่า 7 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยกระตุ้นสมองของเราให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว แหลมคมราวกับหนุ่มสาวนั้นมีอะไรบ้าง
ท่องไปใน Google
นักวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ กล่าวว่า การค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนกลางที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจและเหตุผล การตัดสินใจเลือกคลิกเข้าไปในข้อมูลกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนนี้ได้มากกว่าการอ่านหนังสือ
ผลจากการศึกษาพบว่า การค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตทำให้วงจรระบบประสาทเกิดการทำงาน ซึ่งจะไม่เกิดขึ้นเมื่อเราอ่านหนังสือ จากการสแกนสมองด้วยวิธีเอ็มอาร์ไอ (MRI) พบว่าวงจรประสาทของผู้ที่ค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเป็นประจำนั้นทำงานมากกว่าผู้ที่เพิ่งเข้ามาท่องอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรกมากถึง 3 เท่า นั่นทำให้เชื่อว่าการท่องอินเทอร์เน็ตเป็นประจำเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองให้แข็งแกร่งขึ้นได้แม้วัยจะล่วงเลย
Tips : ใช้เวลาท่องอินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลที่เราอยากรู้วันละประมาณ 20 นาที 2-3 วันต่อสัปดาห์ ไม่จำเป็นต้องค้นคว้าข้อมูลที่มีสาระจริงจัง อาจเพียงแค่ค้นหาข่าวคราวของดาราคนโปรด หรือหาข้อมูลเกี่ยวกับเพลงที่ไม่ได้ฟังมานานแล้ว สมองก็ได้รับประโยชน์ไม่ต่างจากการค้นคว้าข้อมูลอื่นๆ
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายช่วยป้องกัน และชะลอการเป็นโรคจิตเสื่อม ซึ่งเป็นโรคที่มีผลต่อความสามารถในการคิด ความจำ และความประพฤติ การออกกำลังกายช่วยต้านความเสื่อมของสมองอันเป็นผลจากการที่คนเราอายุมากขึ้น
นักวิจัยได้นำผลการศึกษาจำนวนมากกลับมาวิเคราะห์ใหม่ทำให้พบข้อมูลว่า การออกกำลังกายด้วยการแอโรบิคไม่เพียงแต่กระตุ้นให้สมองทำงานอย่างรวดเร็วและมีความคิดที่แหลมคมเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มปริมาณของเนื้อเยื่อในสมองด้วย
Tips : เพียงออกเดินอย่างกระฉับกระเฉงวันละประมาณ 50 นาที 3 วันต่อสัปดาห์ ก็ช่วยให้สมองขยายตัวขึ้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นการเดินในสวนสาธารณะจะช่วยเสริมสร้างสมองได้ดีกว่าการเดินในเมืองที่พลุกพล่าน เรื่องนี้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ศึกษากลุ่มตัวอย่างที่เป็นอาสาสมัคร พบว่าอาสาสมัครกลุ่มที่เดินผ่านสวน สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้มีความจำที่ดีกว่า และสามารถทำข้อสอบได้ดีกว่ากลุ่มอาสาสมัครที่เดินผ่านตัวเมืองถึง 20%
แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน
เป็นที่ชัดเจนว่า สุขภาพช่องปากที่ดีนั้นเกี่ยวข้องกับการมีกระบวนการคิดที่ดีของสมอง สอดคล้องกับผลการศึกษาของกลุ่มจิตแพทย์และทันตแพทย์ชาวอังกฤษ ที่ได้ศึกษากลุ่มคนอายุ 20 ถึง 59 ปี จำนวนหลายพันคน พบว่าโรคเหงือกอักเสบ และโรคในช่องปากต่างๆ มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการคิดที่แย่ลงไปจนตลอดชีวิตของคนคนนั้น ไม่ใช่มีผลแค่เพียงไม่กี่ปีหรือเฉพาะในช่วงที่เป็นโรคเท่านั้น
Tips : ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน ใช้เวลาแปรงฟันอย่างน้อยครั้งละ 2 นาทีทุกวัน
ดื่มไม่เกินวันละแก้ว
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่ปลอดภัย ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินกว่าวันละ 1 แก้ว เพราะหากดื่มแอลกอฮลล์มากขึ้นเท่าใด สมองก็ถูกทำลายมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ผลการศึกษาล่าสุดจากวิทยาลัยเวลเลสเลย์ พบว่าการดื่มแอลกอฮอลล์มีความเกี่ยวข้องกับปริมาณของสมองที่ลดลง และมีผลเสียต่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย นั่นอาจเพราะแอลกอฮอล์มีผลกระทบต่อคนที่ตัวเล็กกว่าได้มากกว่าคนตัวใหญ่
Tips : ถ้าคุณชอบดื่มไวน์หลังอาหาร ชอบดื่มเบียร์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ และไม่สามารถเลิกได้ แนะนำว่าหลังจากดื่มแอลกอฮอล์แล้วควรดื่มน้ำเปล่าแก้วใหญ่ตามลงไป น้ำจะไปช่วยเจือจางแอลกอฮอล์ และลดผลกระทบของแอลกอฮอล์ที่มีต่อร่างกายลงได้
กินผัก ผลไม้สีม่วง
พืชสีม่วง อาทิ ดอกอัญชัน กะหล่ำม่วง มะเขือม่วง แบล็กเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ มีสารแอนโทไซยานิน นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าสารตัวนี้ช่วยต่อต้านสารก่อมะเร็ง และสารแอนโทไซยานินนี้ยังออกฤทธิ์ทางขยายเส้นเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ และอัมพาตด้วย
มีผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า บลูเบอร์รี่ช่วยให้กระบวนการคิดแหลมคมขึ้น นักวิจัยอธิบายว่า การที่สารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารสีม่วงเข้มที่พบมากในผักผลไม้ที่มีสีม่วงมีผลต่อการคิดที่ดีขึ้นได้นั้น เนื่องจากสารแอนโทไซยานินประกอบด้วยสารเคมีที่สามารถเดินทางผ่านเส้นเลือดเลือดในสมองเข้าไปในพื้นที่ของสมองส่วนที่ควบคุมเกี่ยวกับการเรียนรู้และความจำได้
Tips : เติมบลูเบอร์รี่ลงในโยเกิร์ต หรือนำมาปั่นเป็นน้ำสมูธตี้ ใส่ผักใบสีม่วง มะเขือม่วง หรือดอกอัญชัญลงในจานสลัด
เล่นเกมสมองอ่อนกว่าวัย
คุณอาจไม่เชื่อว่าการเล่นโซโดกุช่วยลดอายุของสมองลงได้เป็นสิบปีเลยล่ะ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอลาบามา ได้ศึกษาชายหญิงสูงอายุจำนวน 3,000 คน พบว่า กลุ่มผู้สูงอายุที่เล่นเกมต่างๆ เพื่อกระตุ้นสมองอยู่เสมอ เช่น โซโดกุ ปริศนาอักษรไขว้ หมากรุก ฯลฯ และเล่นแต่ละครั้งนานตั้งแต่ 60 นาทีจนถึง 75 นาที นั้นมีสุขภาพจิตที่ดีมาก และสมองของพวกเขามีลักษณะคล้ายสมองของคนที่มีอายุอ่อนกว่าตัวเองถึง 10 ปี
Tips : เริ่มจากเกมง่ายๆ ก่อน ฝึกเล่นระหว่างที่รอรถเมล์ รอรถไฟ หรือรอคิวที่ธนาคาร เมื่อเริ่มเก่งแล้วจึงหาเกมที่ท้าทายยิ่งขึ้น หรือหาเกมใหม่ๆ มาเล่นอยู่เสมอ
ฝึกสมาธิ
การทำสมาธิไม่เพียงช่วยผ่อนคลายความเครียดเท่านั้น แต่ยังช่วยชะลอความชราได้อีกด้วย ผลการศึกษาของโรงพยาบาลแมสซาชูเซสส์ ในเมืองบอสตัน พบว่ากลุ่มคนที่ทำสมาธิเป็นประจำเปลือกสมองมีการพัฒนา ซึ่งเปลือกสมองนี้เป็นสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำ ภาษา และประสาทสัมผัส
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยเคนตัคกี้ ได้ศึกษาพบว่ากลุ่มคนที่ทำสมาธิเป็นประจำทำแบบทดสอบความฉลาดทางจิตใจได้ดีกว่ากลุ่มคนที่ไม่ได้ทำสมาธิ
Tips : ฝึกสมาธิให้เป็นนิสัย จากการศึกษาพบว่า การทำสมาธิประมาณ 40 นาทีต่อวันมีประโยชน์ต่อสมอง แต่เราอาจไม่ต้องทำสมาธิทีเดียว 40 นาทีก็ได้ อาจทำสมาธิครั้งละ 15 นาที ตอนพักเที่ยง ก่อนเลิกงาน หรือก่อนนอน เทคนิคการทำสมาธิแบบง่ายๆ คือ เพียงนั่งหลังตรง หลับตา ไม่ว่าจะได้ยินเสียงนกร้อง หรือเสียงลมหายใจของเราเอง ก็เพียงแต่รับรู้และทำจิตใจให้อยู่กับปัจจุบันขณะ
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีที่ทุกคนก็สามารถทำได้ เพื่อกระตุ้นสมองให้หนุ่มสาว กระฉับกระเฉง และแหลมคมอยู่เสมอ ลองทำดูนะคะ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย