ไขข้อข้องใจ 8 อาการผิดปกติของเต้านมที่เกิดขึ้นกับสาว ๆ เหล่านี้ แต่ละอาการมีสาเหตุมาจากอะไร อันตรายหรือไม่ มาเช็กกันเลยดีกว่า
หากเต้านมของคุณสาว ๆ ใหญ่ขึ้น บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลใด ๆ ค่ะ เพราะมีหลายเหตุผลที่ทำให้เต้านมขยายใหญ่ขึ้น โดยอาจจะมาจากการที่น้ำหนักขึ้น การตั้งครรภ์ การกินยาคุม หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงมีประจำเดือนนั่นเอง
ถ้าสังเกตว่าเต้านมของคุณหดตัวเล็กลง นั่นก็อาจจะมาจากการที่น้ำหนักตัวลด ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง การหยุดกินยาคุม หรืออาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงช่วงใกล้หมดประจำเดือนแล้วนั่นเอง แต่ถ้ามีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ผมร่วง เป็นสิว หรือขนดกที่ใบหน้า อาจจะเป็นสัญญาณของโรครังไข่ทำงานผิดปกติ (PCOS) ก็เป็นได้ หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าเกิดจากการดื่มกาแฟ เพราะมีงานวิจัยเผยว่าการดื่มกาแฟ 3 แก้วต่อวัน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เต้านมหดเล็กลงได้เหมือนกันนะ !
สาว ๆ รู้หรือไม่คะว่า เต้านมของเราก็สามารถเปลี่ยนรูปได้เหมือนกัน อย่างเช่นหลังจากผ่านการให้นมลูกหรืออายุมากขึ้น เต้านมก็จะยืดขยายออก ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นไป จึงทำให้เต้านมเปลี่ยนรูปกลายเป็นทรงหยดน้ำหย่อน ๆ มากขึ้น ซึ่งหากคุณสาว ๆ คนไหนที่ไม่อยากให้เต้านมหย่อนยานมาก ก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยการเลือกบราดี ๆ ที่ช่วยยกกระชับ หรือออกกำลังกายเพื่อให้หน้าอกกระชับแน่นเฟิร์มเป็นประจำ
ถ้าสังเกตว่าในช่วงที่มีประจำเดือนจะรู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้อที่เต้านม ซึ่งมักจะอยู่บริเวณใต้รักแร้ บอกได้เลยว่าเป็นเพราะในช่วงมีประจำเดือนนี้ฮอร์โมนเพศจะเปลี่ยนแปลง จึงทำให้เกิดก้อนเนื้อที่ไม่ร้ายแรงชนิดไฟโบรซีสติค (Fibrocystic changes) ที่อาจทำให้เกิดอาการเจ็บเต้านม เจ็บตรงก้อนเนื้อ หรือเจ็บบริเวณรักแร้ นั่นเอง หากใครเจออยู่ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะก้อนเนื้อชนิดนี้ไม่ร้ายแรงและมักไม่กลายเป็นโรคมะเร็ง
เอาเข้าจริงแล้วก็มีหลายสาเหตุมากที่ทำให้คุณสาว ๆ เกิดอาการปวดเต้านม ซึ่งส่วนมากแล้วจะเกิดขึ้นเพราะเนื้องอก (ที่ไม่อันตราย) แต่ถ้าปวดทั้ง 2 เต้าเลยก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของฮอร์โมน หรือเนื่องจากการรับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายเยอะเกินไป รวมถึงการใส่บราที่รัดมาก บาดเจ็บจากการชนกระแทกบางอย่าง การออกกำลังกายที่แรงกระแทกสูง หรือแม้กระทั่งการยกของหนักทุก ๆ วัน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดเต้านมได้เหมือนกันค่ะ
ฟังดูเหมือนว่าการที่หัวนมบอดจะเป็นเรื่องที่ธรรมดามากเลยใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าบางวันหัวนมก็โผล่ออกมาบ้าง หรือบางวันบุ๋มเข้าไปบ้าง แบบนี้อาจจะต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กหน่อยแล้วล่ะ เพราะการที่หัวนมถูกดึงลงไป ก็เป็นสัญญาณที่เสี่ยงมะเร็งเต้านมอยู่เหมือนกันค่ะ
สาว ๆ หลายคนจะคิดว่าการมีสารคัดหลั่งออกมาจากหัวนม คืออาการของมะเร็งเต้านม ซึ่งก็มีส่วนที่เป็นไปได้เช่นกันค่ะ แต่ถ้ามีสารคัดหลั่งออกมาจากหัวนมทั้ง 2 ข้าง ก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของฮอร์โมน หรืออาจเกิดจากการที่ระดับของฮอร์โมนโปรแลคตินสูงขึ้นจากการกินยา ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย หรือบางทีก็อาจจะแค่เกิดขึ้นเมื่อคุณตั้งครรภ์และเริ่มผลิตน้ำนม โดยการที่น้ำนมไหลออกมาจากหัวนมสามารถเกิดขึ้นได้ยาวนานถึง 2 ปี หลังจากหยุดให้นมลูกเลยทีเดียว แต่เคสที่หนักกว่านั้นคือการเป็นเนื้องอกของต่อมใต้สมอง ที่อาจทำให้มีเลือดหลั่งออกมาจากหัวนมได้ ยิ่งถ้ามีเลือดหลั่งออกมาจากหัวนมแค่ข้างเดียว ผิวหนังบริเวณนั้นเริ่มเปลี่ยนแปลง แถมมีก้อนเนื้อที่เต้านมร่วมด้วย อันนี้ต้องรีบไปพบแพทย์แล้วล่ะ
เป็นธรรมดาที่เมื่อไรหัวนมและวงปานนมขยายใหญ่ขึ้นและมีสีเข้มขึ้น จะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณตั้งครรภ์ หรือหัวนมสีเข้มและบวมขึ้น ก็เป็นเรื่องปกติของผู้หญิงที่อายุมากขึ้น บอกเลยว่าการที่สีสันเปลี่ยนไปไม่ใช่เรื่องผิดปกติเลยค่ะ นอกเสียจากว่าคุณจะกังวลเพราะไม่ปลื้มสีของหัวนมที่เข้มขึ้นเองน่ะสิ
อ๊ะ ... เต้านมของคุณสาว ๆ ผิดปกติกันแบบไหนบ้างคะ ถ้าแบบไหนที่เข้าข่ายว่าอันตรายชัวร์ ๆ บอกเลยว่าควรไปพบแพทย์ด่วน จะได้แก้ไขกันได้ทันกาลยังไงล่ะคะสาว ๆ ^_^
เกิดมาเป็นผู้หญิงแท้จริงนั้นแสนจะลำบากจริง ๆ เนอะ
นอกจากต้องไฟต์กับอาการปวดท้องเมนส์ทุก ๆ เดือนแล้ว
บางทีเต้านมของเราก็ชอบเกิดอาการผิดปกติที่พาให้วิตกกังวลอยู่เสมอ
ยิ่งเดี๋ยวนี้ผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมกันเยอะ ไม่ว่าจะมีอะไรแปลก ๆ
เกิดขึ้นกับเต้านมเราก็คิดว่าเป็นมะเร็งไว้ก่อนจริงไหมล่ะคะ
เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งไปกังวลเลยดีกว่า ลองมาเช็ก 8
ความผิดปกติของเต้านมที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากวันนี้ก่อน
จะได้รู้ว่าแบบไหนอันตรายหรือไม่อันตราย จะได้พร้อมรับมือได้ทัน
และเลิกกังวลคิดเองไปไกลยังไงล่ะเนอะ
อาการผิดปกติของเต้านมที่พบได้บ่อย
1. เต้านมขยายใหญ่ขึ้น
หากเต้านมของคุณสาว ๆ ใหญ่ขึ้น บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลใด ๆ ค่ะ เพราะมีหลายเหตุผลที่ทำให้เต้านมขยายใหญ่ขึ้น โดยอาจจะมาจากการที่น้ำหนักขึ้น การตั้งครรภ์ การกินยาคุม หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงมีประจำเดือนนั่นเอง
2. เต้านมหดเล็กลง
ถ้าสังเกตว่าเต้านมของคุณหดตัวเล็กลง นั่นก็อาจจะมาจากการที่น้ำหนักตัวลด ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง การหยุดกินยาคุม หรืออาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงช่วงใกล้หมดประจำเดือนแล้วนั่นเอง แต่ถ้ามีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ผมร่วง เป็นสิว หรือขนดกที่ใบหน้า อาจจะเป็นสัญญาณของโรครังไข่ทำงานผิดปกติ (PCOS) ก็เป็นได้ หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าเกิดจากการดื่มกาแฟ เพราะมีงานวิจัยเผยว่าการดื่มกาแฟ 3 แก้วต่อวัน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เต้านมหดเล็กลงได้เหมือนกันนะ !
3. เต้านมเปลี่ยนรูป
สาว ๆ รู้หรือไม่คะว่า เต้านมของเราก็สามารถเปลี่ยนรูปได้เหมือนกัน อย่างเช่นหลังจากผ่านการให้นมลูกหรืออายุมากขึ้น เต้านมก็จะยืดขยายออก ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นไป จึงทำให้เต้านมเปลี่ยนรูปกลายเป็นทรงหยดน้ำหย่อน ๆ มากขึ้น ซึ่งหากคุณสาว ๆ คนไหนที่ไม่อยากให้เต้านมหย่อนยานมาก ก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยการเลือกบราดี ๆ ที่ช่วยยกกระชับ หรือออกกำลังกายเพื่อให้หน้าอกกระชับแน่นเฟิร์มเป็นประจำ
4. มีก้อนในเต้านม
ถ้าสังเกตว่าในช่วงที่มีประจำเดือนจะรู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้อที่เต้านม ซึ่งมักจะอยู่บริเวณใต้รักแร้ บอกได้เลยว่าเป็นเพราะในช่วงมีประจำเดือนนี้ฮอร์โมนเพศจะเปลี่ยนแปลง จึงทำให้เกิดก้อนเนื้อที่ไม่ร้ายแรงชนิดไฟโบรซีสติค (Fibrocystic changes) ที่อาจทำให้เกิดอาการเจ็บเต้านม เจ็บตรงก้อนเนื้อ หรือเจ็บบริเวณรักแร้ นั่นเอง หากใครเจออยู่ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะก้อนเนื้อชนิดนี้ไม่ร้ายแรงและมักไม่กลายเป็นโรคมะเร็ง
5. ปวดเต้านม
เอาเข้าจริงแล้วก็มีหลายสาเหตุมากที่ทำให้คุณสาว ๆ เกิดอาการปวดเต้านม ซึ่งส่วนมากแล้วจะเกิดขึ้นเพราะเนื้องอก (ที่ไม่อันตราย) แต่ถ้าปวดทั้ง 2 เต้าเลยก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของฮอร์โมน หรือเนื่องจากการรับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายเยอะเกินไป รวมถึงการใส่บราที่รัดมาก บาดเจ็บจากการชนกระแทกบางอย่าง การออกกำลังกายที่แรงกระแทกสูง หรือแม้กระทั่งการยกของหนักทุก ๆ วัน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดเต้านมได้เหมือนกันค่ะ
6. หัวนมบอด
ฟังดูเหมือนว่าการที่หัวนมบอดจะเป็นเรื่องที่ธรรมดามากเลยใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าบางวันหัวนมก็โผล่ออกมาบ้าง หรือบางวันบุ๋มเข้าไปบ้าง แบบนี้อาจจะต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กหน่อยแล้วล่ะ เพราะการที่หัวนมถูกดึงลงไป ก็เป็นสัญญาณที่เสี่ยงมะเร็งเต้านมอยู่เหมือนกันค่ะ
7. มีสารคัดหลั่งผิดปกติจากหัวนม
สาว ๆ หลายคนจะคิดว่าการมีสารคัดหลั่งออกมาจากหัวนม คืออาการของมะเร็งเต้านม ซึ่งก็มีส่วนที่เป็นไปได้เช่นกันค่ะ แต่ถ้ามีสารคัดหลั่งออกมาจากหัวนมทั้ง 2 ข้าง ก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของฮอร์โมน หรืออาจเกิดจากการที่ระดับของฮอร์โมนโปรแลคตินสูงขึ้นจากการกินยา ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย หรือบางทีก็อาจจะแค่เกิดขึ้นเมื่อคุณตั้งครรภ์และเริ่มผลิตน้ำนม โดยการที่น้ำนมไหลออกมาจากหัวนมสามารถเกิดขึ้นได้ยาวนานถึง 2 ปี หลังจากหยุดให้นมลูกเลยทีเดียว แต่เคสที่หนักกว่านั้นคือการเป็นเนื้องอกของต่อมใต้สมอง ที่อาจทำให้มีเลือดหลั่งออกมาจากหัวนมได้ ยิ่งถ้ามีเลือดหลั่งออกมาจากหัวนมแค่ข้างเดียว ผิวหนังบริเวณนั้นเริ่มเปลี่ยนแปลง แถมมีก้อนเนื้อที่เต้านมร่วมด้วย อันนี้ต้องรีบไปพบแพทย์แล้วล่ะ
8. สีหัวนมเปลี่ยน
เป็นธรรมดาที่เมื่อไรหัวนมและวงปานนมขยายใหญ่ขึ้นและมีสีเข้มขึ้น จะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณตั้งครรภ์ หรือหัวนมสีเข้มและบวมขึ้น ก็เป็นเรื่องปกติของผู้หญิงที่อายุมากขึ้น บอกเลยว่าการที่สีสันเปลี่ยนไปไม่ใช่เรื่องผิดปกติเลยค่ะ นอกเสียจากว่าคุณจะกังวลเพราะไม่ปลื้มสีของหัวนมที่เข้มขึ้นเองน่ะสิ
อ๊ะ ... เต้านมของคุณสาว ๆ ผิดปกติกันแบบไหนบ้างคะ ถ้าแบบไหนที่เข้าข่ายว่าอันตรายชัวร์ ๆ บอกเลยว่าควรไปพบแพทย์ด่วน จะได้แก้ไขกันได้ทันกาลยังไงล่ะคะสาว ๆ ^_^
บทความที่เกี่ยวข้องกับเต้านม
- ทำอย่างไรดี … เมื่อคลำเจอก้อนเนื้อที่หน้าอก
- เจ็บหัวนม อาการแบบนี้... อันตรายไหม ?
- เช็กจากภาพให้ไว ! หน้าอกหน้าใจผิดปกติแบบไหน ใช่มะเร็งเต้านม ?
- เจ็บหัวนม อาการแบบนี้... อันตรายไหม ?
- เช็กจากภาพให้ไว ! หน้าอกหน้าใจผิดปกติแบบไหน ใช่มะเร็งเต้านม ?
ขอบคุณข้อมูลจาก : prevention.com, natural.fertility-info.com